วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

เผด็จการทหารไทย พฤศจิกายน 2550

http://www.prachatai.com/05web/th/home/10357
ข่าวมอนิเตอร์ประจำวันที่ 27 พฤศจิกายน 2550

‘สนธิ’ ระบุซื้ออาวุธ3แสนล้านรัฐบาลใหม่ เพื่อดูแลประชาชนให้อยู่ดีมีสุข


กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ - ผู้สื่อถามถามพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลินถึงกรณีที่กระทรวงกลาโหม เตรียมทำข้อเสนอจัดซื้ออาวุธ จำนวน 3 แสนล้านบาทในรัฐบาลหน้า ซึ่งมีเสียงวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม เพราะประเทศไม่ได้สู้รบกับใคร พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติ ว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียง (ครส.) กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลที่แล้วได้จัดทำแพ็กเก็จในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ เพื่อทำให้กองทัพเข้มแข็ง ซึ่งทุกประเทศก็ทำเหมือนกันหมด ครั้งนี้ก็เป็นแผนงานที่กองทัพต้องวางเอาไว้

ทั้งนี้เคยชี้แจงในที่ประชุมหลายแห่งแล้วว่า ต้องอย่าลืมว่าในอนาคตบ้านเราทรัพยากรของชาติที่จะนำมาให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข เริ่มหมดลงไปทุกที ดังนั้นจึงต้องมีอำนาจของชาติที่จะใช้ในการคุ้มครองผลประโยชน์ของชาติ เช่น ที่อยู่ในทะเล เป็นต้น ดังนั้นทางด้านความมั่นคงจึงต้องเตรียมเรื่องนี้เอาไว้


พล.อ.สนธิ กล่าวว่าการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียง (ครส.) กล่าวถึงกรณีที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ระบุว่ามีพรรคการเมืองบางพรรคจ้างทำโพลล์ชี้นำแทนการซื้อเสียง ว่า ต้องเป็นเรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไปตรวจสอบ เพราะการทำโพลบางทีก็เป็นผลได้ผลเสียกับผู้จัดทำ อย่างไรก็ตามตนเคยพูดเรื่องนี้ในที่ประชุม ครส.ไปครั้งหนึ่งแล้วว่า กกต.จะต้องศึกษาเรื่องการทำโพลด้วย แต่จะมีการสั่งการห้ามไม่ให้มีการเผยแพร่ผลโพลล์หรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับ กกต. ส่วนผลโพลล์จะออกมามีผลต่อคะแนนของพรรคใดพรรคหนึ่งหรือไม่ คงต้องให้ กกต.เป็นคนคิด แต่ กกต. และ ครส. หารือกันได้อยู่แล้วในเรื่องนี้ ส่วนที่ กกต.ออกมาเปิดเผยวิธีการซื้อเสียงแบบใหม่ผ่านทางไปรษณีย์ โอนเงินให้หัวละ 1,000 บาทนั้น เป็นสิ่งที่รู้กันอยู่แล้ว จึงได้บอกว่าถ้าประชาชนออกมาช่วยกันใช้สิทธิ์ลงคะแนนมากๆ ก็จะแก้ปัญหาได้


พล.อ.สนธิ กล่าวถึงกรณีที่แกนนำ 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เปิดเวทีปราศรัยโจมตี คมช.และทหาร ว่า ก็ไม่เป็นไร เพราะประชาชนจะพิจารณาเอง ส่วนที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ระบุว่าจะเปิดเผยเอกสารลับของ คมช.ที่มีเนื้อหาสกัดกั้นพรรค พปช.เพิ่มเติมอีกนั้น จะมีหรือไม่ตนไม่ทราบ

"ที่ระบุว่า คมช.ไปล็อคเลือกตั้งไม่ให้พปช.เป็นรัฐบาลนั้น ไม่เป็นความจริง นักการเมืองแต่ละท่านเป็นตัวของตัวเองอยู่แล้ว เพราะท่านเป็นนักการเมืองอาชีพ ทางเราไม่มีความรู้ทางการเมือง นักการเมืองคงไม่มาฟัง อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะมีการพูดอย่างไร ประชาชนทั้ง 65 ล้านคนจะพิจารณาเอง "พล.อ.สนธิ ระบุ


เมื่อถามว่า นายจาตุรนต์ ออกมาเรียกร้องให้ พล.อ.สนธิแสดงจุดยืนให้ชัดเจน ว่าไม่มีการทำสัญญาลับกับบางพรรคการเมือง พล.อ.สนธิ กล่าวว่า “ต้องไปถามพรรคการเมือง มาถามผมไม่ได้ ผมบอกว่าผมไม่รู้เรื่องในเรื่องนี้ ต้องไปถามพรรคการเมืองต่างๆ ส่วนการที่พรรคพปช.พยายามโจมตีเพื่อดิสเครดิตตน และ คมช.ในช่วงการเลือกตั้งนั้น ก็บอกแล้วว่า มันเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่ง แต่ไม่เป็นไร เราก็เฉยๆ ไว้ จะได้ไม่ไปเพิ่มกระแสให้กับอีกด้านหนึ่ง”

เมื่อถามย้ำว่า ส่วนตัวยอมรับได้หรือไม่ หากพรรคพปช.ชนะการเลือกตั้ง และบ้านเมืองกลับมาวุ่นวายเหมือนช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่รู้ ตอบไม่ได้ ส่วนถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับไทย ก็ต้องเข้าสู่ขบวนการทางฝ่ายกฎหมาย
-------------------------------------------------------------------------------------
โดย : ประชาไท วันที่ : 27/11/2550


http://www.prachatai.com/webboard/topic.php?id=536946
สังคมและการเมือง

--------------------------------------------------------------------------------
โพสต์: เสรีชน

ID#536946 | เมื่อ: 2550-11-13 23:50:21

ไปไม่รอด คนเราเวลาดวงตก ช้างมาลากก็ฉุดไม่ขึ้น ยามมีอำนาบารมีหน้าตาก็ผ่องใส ยามสิ้นอำนาจวาสนา ผิวหน้ากลับหมองคล้ำ ถ้าไม่มีอคติฉันทาคติจนเกินไป คงไม่มีใครปฎิเสธได้ว่า วันนี้ สนธิ บุญยรัตนกลินดวงตกต่ำใกล้จะถึงที่สุดแล้ว

ความชั่วเมื่อยังไม่ให้ผล คนทำชั่วเข้าข้างตนเอง นึกว่าไม่มีผลจริง แถมคิดโง่ๆ ว่า ฉันไม่ใช่พุทธเป็นอิสลาม แต่กฎแห่งกรรมแม้เทวาพระเป็นเจ้าองค์ใดศาสนาใดก็ช่วยไม่ได้ เพราะกรรมคือ สัจจธรรม ที่ไม่มีใครหนีพ้น

เอกสารลับทำลายพรรค พปช ที่ทุกคนคิดว่าจะเงียบไป แต่ กกต ดำเนินเรื่องเงียบๆ ตามจี้ถึงที่สุด คนที่คิดว่า
สมัครขลาด เอาเอกสารเท็จมาใช้ งานนี้ ยุ่งแล้วเพราะสมัครและทีมทนายเขาโผล่ไปให้การกับอนุ กกต ตามด้วย
นายแพทย์ เหวง โตจิราการ และกลุ่มประชาธิปไตยทั้ง
ประทีป อึ้งทรงธรรม
นายเมธาพันธ์ โพธิธีรโรจน์ และ
นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท ยื่นหลักฐานให้ กกต ดำเนินการกับพลเอกสนธิ ซึ่งก่อนการดำเนินการ กกต ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่ยอมให้ คณะกรรมการรณรงค์ป้องกันซื้อสิทธิ์ขายเสียง ของพลเอกสนธิ เข้ามาเกี่ยวข้องกับ กกต ไม่ขอความร่วมมือจากกรมการนี้แต่อย่างใด เรียกว่าตบหน้ากันแต่ฉาดแรกว่า ไม่ยอมเป็นเครื่องมือบัง จะทำหน้าที่อย่างเป็นกลางจริงๆ

ซึ่งในวันถัดไป อนุ กกต จะเรียกพลเอกสนธิ มาสอบ พร้อม
พันเอกฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เจ้าไอเดียความคิดบัดซบด้วย

บังพลาดไปที่คำพูดหลายอย่างของเขาทั้งทางทีวีทางสื่อส่อเป็นนัยรับว่าเอกสารจริง โดยหารู้ไม่ว่า มีเสียง มีภาพและเทปยืนยัน แถมทำท่ายวนๆ มีโมโหว่า เป็นเรื่องความมั่นคง ใครๆ ก็ทำ นี่คือ คำรับโดยปริยายแล้ว และยังออกอาการโอหังถึงจริงก็ไม่กลัวเพราะเขาคิดว่าเขายังใหญ่ใครก็ทำอะไรไม่ได้ ขณะที่นายก พลเอกสุรยุทธ์ ที่แสดงความโง่ โฉ่งฉ่างรับว่าเอกสารจริง แต่เถียงว่าเป็นเรื่องเก่า

ในทางกฎหมาย คำรับที่เป็นผลร้ายกับตัวเอง คือ คำพยานที่ศาลรับฟังได้อย่างดี เพราะธรรมชาติของคน คนจะไม่พูดปรักปรำตนเอง

ทั้งนี้ นพ.เหวงที่ยื่นให้สอบเอกสารนี้ด้วย กล่าวยืนยันว่า แม้คณะกรรมการชุดนี้ จะให้ความมั่นใจ ในการทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างตรงไป-ตรงมา แต่เห็นว่า ควรใช้กระบวนการนิติวิทยาศาสตร์เข้าช่วย เพราะนิติวิทยาศาสตร์ ไม่เคยโกหกใคร รวมทั้งควรเร่งนำเอกสารของจริงจาก คมช. มาตรวจสอบ ก่อนที่จะมีการแก้ไข

เชื่อเหอะ งานนี้ ฉัตรเฉลิม ถ้านายคิดจะแก้ไขเอกสาร ก็โง่ถึงที่สุดเพราะมีประจักษ์พยานรู้เห็นเอกสารเป็นร้อยยคนในกองทัพ และประการสำคัญที่สุด พลเอกสนธิ ไม่ใช่ ผบ ทบ ที่จะให้คุณให้โทษย้ายใครในกองทัพได้ต่อไปแล้ว

ความหนักใจเรื่องเอกสารลับทำให้ คมช ตื่นแต่เช้ามาประชุมกันเจ็ดโมงโดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับใคร แต่สอง คมช กบฎ คือ สะพรั่ง ไม่มาร่วมตามเคย ส่วนเสรีพิสุทธิ์ หลังบังเกษียณแล้วก็อ้างว่าติดราชการหายตัวไปเลย เพราะเขาเป็น ผบ ตำรวจแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะกินน้ำใต้ศอกพึ่งร่มโพธิ์ของแขกกบฎคนนี้อีก

ยากครับที่จะรอด กะจะใช้ คตส เล่นสมัครคดีรถดับเพลิง แต่ คตส ก็มีฐานะง่อนแง่น ไม่มี รธน ใหม่รองรับ รอวันที่ พปช จะยุบ ถึงเรียกสมัครไป ไม่ไป คตส ก็ทำอะไรไม่ได้ อย่างมากก็แจ้งตำรวจ ตำรวจก็ดึงคดีรอผลการเลือกตั้งไปอีก แบบเดียวกับที่ คตส โดนพิณทองทา สะบัดก้นใส่ ถึงวันนี้ พิณทองทาก็ยังไม่ติดคุก ตำรวจยังไม่เรียกสอบ
ฉะนั้น ถึง คตส เรียกไปแจ้งข้อหา ก็ต้องส่งให้อัยการฟ้อง อัยการยุคชัยเกษมไม่เหมือนยุคพัชระ ไม่ง่ายหรอกครับที่จะตีตราให้ คตส เพราะ สุรยุทธ์จะมาสั่งยังไ ในเมือ่อีกสองเดือนสุรยุทธ์ก็จบแล้ว ฉะนั้น แฟนๆ คุณสมัครใจเย็นได้ cool งานนี้ไม่ใช่ยุค คมช สั่งซ้ายขวาหันแล้ว

หมดค่าแล้ว คตส และพลเอกสนธิ บุญ กรรมมาทันแล้ว
พวกคุณอยู่ไปก็เหมือนคนตายเพราะพวกคุณเป็นแค่สุสานเผด็จการที่รอวันโดนทำลายทิ้งเท่านั้นเอง !!!


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=71367
ผบ.ทบ.เมินพปช.ไล่ลั่นไม่กลัวทักษิณล้างแค้น

โดยทีมข่าว INN News 06 พฤศจิกายน 2550 16:00:01 น.
ผบ.ทบ. เมินเสียงเรียกร้องให้ คมช. ลาออก ของ พรรคพลังประชาชน ลั่น ทำเพื่อชาติไม่กลัวคำขู่กลับมาล้างแค้น ของ " พ.ต.ท.ทักษิณ "


พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ยืนยัน คมช. จะทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง แม้ว่าทางพรรคพลังประชาชนจะยื่นหนังสือเรียกร้องให้ คมช. ลาออกจากตำแหน่งก็ตาม พร้อมระบุสามเหตุที่ คมช. ยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 ถือเป็นการทำตามหน้าที่ เพื่อหยุดการใช้อำนาจที่มีปัญหาในขณะนั้น ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องให้ใครมาบอกว่า คมช.ควรทำหน้าที่อย่างไร

ส่วนกรณีเว็บไซต์ที่ต่างประเทศเผยแพร่บทสัมภาษณ์ของ นายจักรภพ เพ็ญแข ที่ระบุหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมามีอำนาจก็จะดำเนินการกับนายทหารที่ยึดอำนาจนั้น ผบ.ทบ.กล่าวว่าไม่มีความกังวล เพราะทำงานเพื่อชาติ

นอกจากนี้ ผบ.ทบ. กล่าวว่า พรรคพลังประชาชนไม่ต้องกังวลว่าทหารจะเข้าไปแทรกแซงการเลือกตั้ง พร้อมขอให้ทางพรรคดำเนินการอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบเอกสารลับนั้น แม้จะมีการหารือในที่ประชุม คมช.เมื่อช่วงเช้าแต่ก็ไม่สามารถเปิดเผยได้แต่หากหน่วยใดที่มีอำนาจตามกฎหมายร้องขอมาก็ยินดีให้ความร่วมมือ


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=71338
กก.สอบเอกสารลับประชุมนัดแรกวางกรอบทำงาน3ส่วน

โดยทีมข่าว INN News 06 พฤศจิกายน 2550 15:06:42 น.
คณะกรรมการตรวจสอบสอบเอกสารลับ คมช. ประชุมครั้งแรก วางหลักการตรวจสอบ 3 ส่วน
เชิญสมาพันธ์ประชาธิปไตยให้ปากคำรายแรก


นายสุพล ยุติธาดา ประธานคณะกรรมการตรวจสอบเอกสารลับของ คมช.เปิดเผยภายหลังการประชุม ครั้งแรกว่า ที่ประชุมได้วางกรอบการทำงานไว้ 3 ส่วน คือการสอบสวนไปยังสมาพันธ์ประชาธิปไตย และพรรคพลังประชาชน จากนั้นจะสอบสวนบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตีพิมพ์เอกสารดังกล่าว และสอบสวนไปยังฝ่ายทหาร ว่าเอกสารลับเป็นของจริงหรือไม่ โดยในวันอังคารหน้าจะเตรียมเชิญสมาพันธ์ประชาธิปไตย มาสอบสวนเป็นรายแรก ในฐานะผู้ร้องเรียน ซึ่ง กกต.ได้ให้อำนาจในการเชิญผู้มาให้ปากคำอย่างเต็มที่ โดยไม่มีการเข้าไปแทรกแซงใด ๆ ส่วนจะมีการใช้กฎหมายการเลือกตั้งดำเนินการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องยุติ หรือไม่นั้น นายสุพล กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับ กกต. เนื่องจากทางคณะกรรมการของตนทำเพียงการตรวจสอบข้อเท็จจริงและเสนอผลต่อ กกต.เท่านั้น

พร้อมกันนี้ นายสุพล ยังเปิดเผยด้วยว่า ได้มีสำเนาเอกสารดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการประมวลรายละเอียด ของเนื้อหา


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=70866

เลขาพปช.แฉทหารควงปืนM16จี้หัวผู้สมัคร

โดยทีมข่าว INN News 03 พฤศจิกายน 2550 12:01:55 น.

เลขาธิการพรรคพลังประชาชน แสดงตัว เลขาธิการ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อำนาจเจริญ ที่อ้าง ถูกทหารข่มขู่ เพื่อขอความเป็นธรรม พร้อมเรียกร้องอย่าใช้ความรุนแรง โดยตั้ง "พล.อ.เรืองโรจน์" รับข้อร้องเรียน


นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน นำ นายสมบัติ ตันทอง เลขาธิการของนายชัยศรี กีฬา ว่าที่ผู้สมัครของพรรค จ.อำนาจเจริญ ที่อ้างว่า ถูกทหารตรวจค้นรถยนต์ ขณะเดินทางกลับจากการปราศรัย และได้มีการนำปืนขนาด เอ็ม 16 จี้บริเวณท้ายทอย เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา แถลงข่าวขอความเป็นธรรมกับผู้ที่มีอำนาจของบ้านเมืองให้กำชับผู้ใต้บังคับบัญชาทุกหน่วย อย่าได้ใช้ความรุนแรงต่อผู้รณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง และวางตัวเป็นกลางทางการเมืองอย่างแท้จริง เพราะไม่เช่นแล้วจะกระทบต่อการเลือกตั้งได้ พร้อมกันนี้ ทางพรรค ได้มอบหมายให้ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ รองห้วหน้าพรรค เป็นประธานในการดูแลรับเรื่องต่างๆ จากผู้สมัคร ที่เกี่ยวกับการสกัดกั้นการหาเสียง

พร้อมกันนี้ เลขาธิการพรรคพลังประชาชน ยังเรียกร้องให้ รัฐบาล ยกเลิกกฎอัยการศึกในทุกพื้นที่ เพราะเกรงว่าจะก่อให้เกิดปัญหาต่อการเลือกตั้งได้

ทั้งนี้เลขาธิการพรรคพลังประชาชน คาด ภายในวันที่ 5 - 6 พ.ย.นี้ ทางคณะกรรมการบริหารพรรคจะมีการอนุมัติเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง ขณะเดียวกัน ไม่ขอยืนยันชัดเจนว่า ตระกูลอยู่บำรุง จะมีรายชื่ออยู่ใน ว่าที่ผู้สมัครของพรรคฯหรือไม่ ซึ่งต้องรอติดตามในวันดังกล่าว รวมถึง ความชัดเจนของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีด้วยแต่ยอมรับว่าได้มีการพูดคุยกันจริง พร้อมเผยรายชื่อ ผู้ที่จะเข้ามาเป็นทีมเศรษฐกิจของพรรคฯ อาทิ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณอดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท. และนายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตผู้แทนการค้าไทย ขณะที่มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคฯจะได้รับคะแนนเสียงเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นอกจากนี้ เลขาธิการพรรคพลังประชาชน เห็นว่า เป็นเรื่องที่ยินดีทีทาง กกต. ได้ตั้งคณะกรรมการสอบเอกสารลับของ คมช.ที่ทางพรรค นำออกมาเปิดเผย แต่จะเป็นรูปธรรมมากน้อยแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับคณะกรรมการดังกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น: