วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

Kill Bill - สนธิแข-ก - กบฎยอมรับ ใบสั่ง 'ตาย!' พรรคพลังประชาชน

http://www.innnews.co.th/politic.php?nid=75765
'อนุพงษ์'ชี้'สมเจตน์'ส่งหนังสือท้วงกกต.ทำถูกแล้ว

โดยทีมข่าว INN News 30 พฤศจิกายน 2550 19:00:18 น.
ผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. "อนุพงษ์" ระบุ พล.อ.สมเจตน์ ส่งหนังสือให้ กกต.ทบทวนมติเป็นเรื่องเหมาะสม ชี้ เรื่องเกิดขึ้นแล้วกกต.ต้องดำเนินงาน


พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. ระบุว่า ได้รับทราบกรณีหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการ คมช.ยื่นหนังสือให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ทบทวนมติผลสอบเอกสารลับ แล้ว โดยเชื่อว่าไม่ได้เป็นการให้ทบทวน แต่เป็นการให้พิจารณาในแง่มุมใด แง่มุมหนึ่ง ซึ่งเห็นว่ามีความเหมาะสมแล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้วก็เป็นเรื่องของ กกต.ที่จะเป็นผู้พิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในส่วนของกองทัพจะรอผลโดยไม่ดำเนินการใดๆ พร้อมกับเชื่อว่ากรณีดังกล่าวจะไม่กระทบต่อภาพลักษณ์ของกองทัพ

ผู้บัญชาการทหารบกระบุว่ายังไม่ได้คิดว่ากรณีนี้จะส่งผลกระทบเชื่อมโยงไปถึง พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงหรือไม่ และยังไม่ได้พูดคุยกัน


http://www.innnews.co.th/politic.php?nid=75764
กกต.นำผลสอบเอกสารลับถกร่วมหนังสือท้วงคมช.4ธ.ค.

โดยทีมข่าว INN News 30 พฤศจิกายน 2550 18:57:58 น.
กกต. เตรียมนำผลสอบเอกสารลับ คมช.ของกรรมการและเอกสารร้องเรียนของ คมช. พิจารณาร่วมกัน 4 ธ.ค.นี้ ก่อนมีมติ ป้อง คมช.ไม่ได้แทรกแซงการทำงาน


นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกต.ได้มีมติว่าจะนำรายงานข้อเท็จจริงกรณีเอกสารลับ ของคณะกรรมการสืบสวน ที่มี นายสุพล ยุติธาดา เป็นประธาน และข้อเสนอของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. ที่ให้มีการทบทวนมติดังกล่าว พิจารณาร่วมกันในวันอังคารที่ 4 ธันวาคมนี้ ว่าเป็นอย่างไรก่อนที่จะออกมติอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้นายอภิชาต ยืนยันว่า ข้อเสนอของกองทัพไม่มีผลต่อมติ และไม่ถือว่าเป็นการแทรกแซงการทำงานของ กกต. รวมทั้ง มติของ กกต. ก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย กกต.จะพิจารณาตามหลักฐานและข้อเท็จจริงที่ปรากฏ

อย่างไรก็ตาม นายอภิชาต เปิดเผยด้วยว่าการประชุมในวันอังคารนี้จะมีการพิจารณาโดยนำรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับมาประกอบการพิจารณา ก่อนออกมติอย่างเป็นทางการ


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=75720
กองทัพไม่ยอมรับผลสอบอนุฯกกต.เอกสารลับ

โดยทีมข่าว INN News 30 พฤศจิกายน 2550 15:50:55 น.
กรรมการกกต. "สดศรี สัตยธรรม" เผย คมช. ส่งหนังสือถึง กกต. ไม่ยอมรับมติกรรมการตรวจสอบเอกสารลับคมช. อ้างไม่ได้ทำผิด มีรัฐธรรมนูญชั่วคราวคุ้มครอง


นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. เปิดเผยว่า พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม หัวหน้าเลขาธิการสำนักงานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. ไดส่งหนังสือถึงกกต.เพื่อขอให้ทบทวนมติการพิจารณาของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเอกสารลับของคมช. ชุดที่มีนายสุพล นิติธาดา เป็นประธาน โดยระบุว่าทางกองทัพไม่ยอมรับผลสอบของคณะกรรมการชุดดังกล่าว พร้อมอางเหตุผลว่าการกระทำที่เกิดขึ้นได้รับการคุ้มครองจากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย พร้อมเชื่อว่าเอกสารดังกล่าวได้มีการเพิ่มเติมถ้อยคำเพื่อทำลายคมช. และควรนำเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ
เป็นผู้วินิจฉัยแทน

อย่างไรก็ตามนางสดศรี ยอมรับว่ามติของกกต.อาจไม่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย แต่ยืนยันว่าได้ทำตามกรอบหน้าที่อย่างเป็นกลาง และเป็นธรรมมากที่สุด





http://www.prachatai.com/webboard/topic.php?id=536946
สังคมและการเมือง

--------------------------------------------------------------------------------
โพสต์: เสรีชน

ID#536946 | เมื่อ: 2550-11-13 23:50:21

ไปไม่รอด คนเราเวลาดวงตก ช้างมาลากก็ฉุดไม่ขึ้น ยามมีอำนาบารมีหน้าตาก็ผ่องใส ยามสิ้นอำนาจวาสนา ผิวหน้ากลับหมองคล้ำ ถ้าไม่มีอคติฉันทาคติจนเกินไป คงไม่มีใครปฎิเสธได้ว่า วันนี้ สนธิ บุญยรัตนกลินดวงตกต่ำใกล้จะถึงที่สุดแล้ว

ความชั่วเมื่อยังไม่ให้ผล คนทำชั่วเข้าข้างตนเอง นึกว่าไม่มีผลจริง แถมคิดโง่ๆ ว่า ฉันไม่ใช่พุทธเป็นอิสลาม แต่กฎแห่งกรรมแม้เทวาพระเป็นเจ้าองค์ใดศาสนาใดก็ช่วยไม่ได้ เพราะกรรมคือ สัจจธรรม ที่ไม่มีใครหนีพ้น

เอกสารลับทำลายพรรค พปช ที่ทุกคนคิดว่าจะเงียบไป แต่ กกต ดำเนินเรื่องเงียบๆ ตามจี้ถึงที่สุด คนที่คิดว่า
สมัครขลาด เอาเอกสารเท็จมาใช้ งานนี้ ยุ่งแล้วเพราะสมัครและทีมทนายเขาโผล่ไปให้การกับอนุ กกต ตามด้วย
นายแพทย์ เหวง โตจิราการ และกลุ่มประชาธิปไตยทั้ง
ประทีป อึ้งทรงธรรม
นายเมธาพันธ์ โพธิธีรโรจน์ และ
นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท ยื่นหลักฐานให้ กกต ดำเนินการกับพลเอกสนธิ ซึ่งก่อนการดำเนินการ กกต ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่ยอมให้ คณะกรรมการรณรงค์ป้องกันซื้อสิทธิ์ขายเสียง ของพลเอกสนธิ เข้ามาเกี่ยวข้องกับ กกต ไม่ขอความร่วมมือจากกรมการนี้แต่อย่างใด เรียกว่าตบหน้ากันแต่ฉาดแรกว่า ไม่ยอมเป็นเครื่องมือบัง จะทำหน้าที่อย่างเป็นกลางจริงๆ

ซึ่งในวันถัดไป อนุ กกต จะเรียกพลเอกสนธิ มาสอบ พร้อม
พันเอกฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เจ้าไอเดียความคิดบัดซบด้วย

บังพลาดไปที่คำพูดหลายอย่างของเขาทั้งทางทีวีทางสื่อส่อเป็นนัยรับว่าเอกสารจริง โดยหารู้ไม่ว่า มีเสียง มีภาพและเทปยืนยัน แถมทำท่ายวนๆ มีโมโหว่า เป็นเรื่องความมั่นคง ใครๆ ก็ทำ นี่คือ คำรับโดยปริยายแล้ว และยังออกอาการโอหังถึงจริงก็ไม่กลัวเพราะเขาคิดว่าเขายังใหญ่ใครก็ทำอะไรไม่ได้ ขณะที่นายก พลเอกสุรยุทธ์ ที่แสดงความโง่ โฉ่งฉ่างรับว่าเอกสารจริง แต่เถียงว่าเป็นเรื่องเก่า

ในทางกฎหมาย คำรับที่เป็นผลร้ายกับตัวเอง คือ คำพยานที่ศาลรับฟังได้อย่างดี เพราะธรรมชาติของคน คนจะไม่พูดปรักปรำตนเอง

ทั้งนี้ นพ.เหวงที่ยื่นให้สอบเอกสารนี้ด้วย กล่าวยืนยันว่า แม้คณะกรรมการชุดนี้ จะให้ความมั่นใจ ในการทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างตรงไป-ตรงมา แต่เห็นว่า ควรใช้กระบวนการนิติวิทยาศาสตร์เข้าช่วย เพราะนิติวิทยาศาสตร์ ไม่เคยโกหกใคร รวมทั้งควรเร่งนำเอกสารของจริงจาก คมช. มาตรวจสอบ ก่อนที่จะมีการแก้ไข

เชื่อเหอะ งานนี้ ฉัตรเฉลิม ถ้านายคิดจะแก้ไขเอกสาร ก็โง่ถึงที่สุดเพราะมีประจักษ์พยานรู้เห็นเอกสารเป็นร้อยยคนในกองทัพ และประการสำคัญที่สุด พลเอกสนธิ ไม่ใช่ ผบ ทบ ที่จะให้คุณให้โทษย้ายใครในกองทัพได้ต่อไปแล้ว

ความหนักใจเรื่องเอกสารลับทำให้ คมช ตื่นแต่เช้ามาประชุมกันเจ็ดโมงโดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับใคร แต่สอง คมช กบฎ คือ สะพรั่ง ไม่มาร่วมตามเคย ส่วนเสรีพิสุทธิ์ หลังบังเกษียณแล้วก็อ้างว่าติดราชการหายตัวไปเลย เพราะเขาเป็น ผบ ตำรวจแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะกินน้ำใต้ศอกพึ่งร่มโพธิ์ของแขกกบฎคนนี้อีก

ยากครับที่จะรอด กะจะใช้ คตส เล่นสมัครคดีรถดับเพลิง แต่ คตส ก็มีฐานะง่อนแง่น ไม่มี รธน ใหม่รองรับ รอวันที่ พปช จะยุบ ถึงเรียกสมัครไป ไม่ไป คตส ก็ทำอะไรไม่ได้ อย่างมากก็แจ้งตำรวจ ตำรวจก็ดึงคดีรอผลการเลือกตั้งไปอีก แบบเดียวกับที่ คตส โดนพิณทองทา สะบัดก้นใส่ ถึงวันนี้ พิณทองทาก็ยังไม่ติดคุก ตำรวจยังไม่เรียกสอบ
ฉะนั้น ถึง คตส เรียกไปแจ้งข้อหา ก็ต้องส่งให้อัยการฟ้อง อัยการยุคชัยเกษมไม่เหมือนยุคพัชระ ไม่ง่ายหรอกครับที่จะตีตราให้ คตส เพราะ สุรยุทธ์จะมาสั่งยังไ ในเมือ่อีกสองเดือนสุรยุทธ์ก็จบแล้ว ฉะนั้น แฟนๆ คุณสมัครใจเย็นได้ cool งานนี้ไม่ใช่ยุค คมช สั่งซ้ายขวาหันแล้ว

หมดค่าแล้ว คตส และพลเอกสนธิ บุญ กรรมมาทันแล้ว
พวกคุณอยู่ไปก็เหมือนคนตายเพราะพวกคุณเป็นแค่สุสานเผด็จการที่รอวันโดนทำลายทิ้งเท่านั้นเอง !!!


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=71367
ผบ.ทบ.เมินพปช.ไล่ลั่นไม่กลัวทักษิณล้างแค้น

โดยทีมข่าว INN News 06 พฤศจิกายน 2550 16:00:01 น.
ผบ.ทบ. เมินเสียงเรียกร้องให้ คมช. ลาออก ของ พรรคพลังประชาชน ลั่น ทำเพื่อชาติไม่กลัวคำขู่กลับมาล้างแค้น ของ " พ.ต.ท.ทักษิณ "


พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ยืนยัน คมช. จะทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง แม้ว่าทางพรรคพลังประชาชนจะยื่นหนังสือเรียกร้องให้ คมช. ลาออกจากตำแหน่งก็ตาม พร้อมระบุสามเหตุที่ คมช. ยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 ถือเป็นการทำตามหน้าที่ เพื่อหยุดการใช้อำนาจที่มีปัญหาในขณะนั้น ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องให้ใครมาบอกว่า คมช.ควรทำหน้าที่อย่างไร

ส่วนกรณีเว็บไซต์ที่ต่างประเทศเผยแพร่บทสัมภาษณ์ของ นายจักรภพ เพ็ญแข ที่ระบุหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมามีอำนาจก็จะดำเนินการกับนายทหารที่ยึดอำนาจนั้น ผบ.ทบ.กล่าวว่าไม่มีความกังวล เพราะทำงานเพื่อชาติ

นอกจากนี้ ผบ.ทบ. กล่าวว่า พรรคพลังประชาชนไม่ต้องกังวลว่าทหารจะเข้าไปแทรกแซงการเลือกตั้ง พร้อมขอให้ทางพรรคดำเนินการอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบเอกสารลับนั้น แม้จะมีการหารือในที่ประชุม คมช.เมื่อช่วงเช้าแต่ก็ไม่สามารถเปิดเผยได้แต่หากหน่วยใดที่มีอำนาจตามกฎหมายร้องขอมาก็ยินดีให้ความร่วมมือ


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=71338
กก.สอบเอกสารลับประชุมนัดแรกวางกรอบทำงาน3ส่วน

โดยทีมข่าว INN News 06 พฤศจิกายน 2550 15:06:42 น.
คณะกรรมการตรวจสอบสอบเอกสารลับ คมช. ประชุมครั้งแรก วางหลักการตรวจสอบ 3 ส่วน
เชิญสมาพันธ์ประชาธิปไตยให้ปากคำรายแรก


นายสุพล ยุติธาดา ประธานคณะกรรมการตรวจสอบเอกสารลับของ คมช.เปิดเผยภายหลังการประชุม ครั้งแรกว่า ที่ประชุมได้วางกรอบการทำงานไว้ 3 ส่วน คือการสอบสวนไปยังสมาพันธ์ประชาธิปไตย และพรรคพลังประชาชน จากนั้นจะสอบสวนบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตีพิมพ์เอกสารดังกล่าว และสอบสวนไปยังฝ่ายทหาร ว่าเอกสารลับเป็นของจริงหรือไม่ โดยในวันอังคารหน้าจะเตรียมเชิญสมาพันธ์ประชาธิปไตย มาสอบสวนเป็นรายแรก ในฐานะผู้ร้องเรียน ซึ่ง กกต.ได้ให้อำนาจในการเชิญผู้มาให้ปากคำอย่างเต็มที่ โดยไม่มีการเข้าไปแทรกแซงใด ๆ ส่วนจะมีการใช้กฎหมายการเลือกตั้งดำเนินการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องยุติ หรือไม่นั้น นายสุพล กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับ กกต. เนื่องจากทางคณะกรรมการของตนทำเพียงการตรวจสอบข้อเท็จจริงและเสนอผลต่อ กกต.เท่านั้น

พร้อมกันนี้ นายสุพล ยังเปิดเผยด้วยว่า ได้มีสำเนาเอกสารดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการประมวลรายละเอียด ของเนื้อหา


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=70866
เลขาพปช.แฉทหารควงปืนM16จี้หัวผู้สมัคร

โดยทีมข่าว INN News 03 พฤศจิกายน 2550 12:01:55 น.
เลขาธิการพรรคพลังประชาชน แสดงตัว เลขาธิการ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อำนาจเจริญ ที่อ้าง ถูกทหารข่มขู่ เพื่อขอความเป็นธรรม พร้อมเรียกร้องอย่าใช้ความรุนแรง โดยตั้ง "พล.อ.เรืองโรจน์" รับข้อร้องเรียน


นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน นำ นายสมบัติ ตันทอง เลขาธิการของนายชัยศรี กีฬา ว่าที่ผู้สมัครของพรรค จ.อำนาจเจริญ ที่อ้างว่า ถูกทหารตรวจค้นรถยนต์ ขณะเดินทางกลับจากการปราศรัย และได้มีการนำปืนขนาด เอ็ม 16 จี้บริเวณท้ายทอย เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา แถลงข่าวขอความเป็นธรรมกับผู้ที่มีอำนาจของบ้านเมืองให้กำชับผู้ใต้บังคับบัญชาทุกหน่วย อย่าได้ใช้ความรุนแรงต่อผู้รณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง และวางตัวเป็นกลางทางการเมืองอย่างแท้จริง เพราะไม่เช่นแล้วจะกระทบต่อการเลือกตั้งได้ พร้อมกันนี้ ทางพรรค ได้มอบหมายให้ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ รองห้วหน้าพรรค เป็นประธานในการดูแลรับเรื่องต่างๆ จากผู้สมัคร ที่เกี่ยวกับการสกัดกั้นการหาเสียง

พร้อมกันนี้ เลขาธิการพรรคพลังประชาชน ยังเรียกร้องให้ รัฐบาล ยกเลิกกฎอัยการศึกในทุกพื้นที่ เพราะเกรงว่าจะก่อให้เกิดปัญหาต่อการเลือกตั้งได้

ทั้งนี้เลขาธิการพรรคพลังประชาชน คาด ภายในวันที่ 5 - 6 พ.ย.นี้ ทางคณะกรรมการบริหารพรรคจะมีการอนุมัติเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง ขณะเดียวกัน ไม่ขอยืนยันชัดเจนว่า ตระกูลอยู่บำรุง จะมีรายชื่ออยู่ใน ว่าที่ผู้สมัครของพรรคฯหรือไม่ ซึ่งต้องรอติดตามในวันดังกล่าว รวมถึง ความชัดเจนของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีด้วยแต่ยอมรับว่าได้มีการพูดคุยกันจริง พร้อมเผยรายชื่อ ผู้ที่จะเข้ามาเป็นทีมเศรษฐกิจของพรรคฯ อาทิ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณอดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท. และนายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตผู้แทนการค้าไทย ขณะที่มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคฯจะได้รับคะแนนเสียงเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นอกจากนี้ เลขาธิการพรรคพลังประชาชน เห็นว่า เป็นเรื่องที่ยินดีทีทาง กกต. ได้ตั้งคณะกรรมการสอบเอกสารลับของ คมช.ที่ทางพรรค นำออกมาเปิดเผย แต่จะเป็นรูปธรรมมากน้อยแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับคณะกรรมการดังกล่าว


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=70866

เลขาพปช.แฉทหารควงปืนM16จี้หัวผู้สมัคร

โดยทีมข่าว INN News 03 พฤศจิกายน 2550 12:01:55 น.

เลขาธิการพรรคพลังประชาชน แสดงตัว เลขาธิการ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อำนาจเจริญ ที่อ้าง ถูกทหารข่มขู่ เพื่อขอความเป็นธรรม พร้อมเรียกร้องอย่าใช้ความรุนแรง โดยตั้ง "พล.อ.เรืองโรจน์" รับข้อร้องเรียน


นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน นำ นายสมบัติ ตันทอง เลขาธิการของนายชัยศรี กีฬา ว่าที่ผู้สมัครของพรรค จ.อำนาจเจริญ ที่อ้างว่า ถูกทหารตรวจค้นรถยนต์ ขณะเดินทางกลับจากการปราศรัย และได้มีการนำปืนขนาด เอ็ม 16 จี้บริเวณท้ายทอย เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา แถลงข่าวขอความเป็นธรรมกับผู้ที่มีอำนาจของบ้านเมืองให้กำชับผู้ใต้บังคับบัญชาทุกหน่วย อย่าได้ใช้ความรุนแรงต่อผู้รณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง และวางตัวเป็นกลางทางการเมืองอย่างแท้จริง เพราะไม่เช่นแล้วจะกระทบต่อการเลือกตั้งได้ พร้อมกันนี้ ทางพรรค ได้มอบหมายให้ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ รองห้วหน้าพรรค เป็นประธานในการดูแลรับเรื่องต่างๆ จากผู้สมัคร ที่เกี่ยวกับการสกัดกั้นการหาเสียง

พร้อมกันนี้ เลขาธิการพรรคพลังประชาชน ยังเรียกร้องให้ รัฐบาล ยกเลิกกฎอัยการศึกในทุกพื้นที่ เพราะเกรงว่าจะก่อให้เกิดปัญหาต่อการเลือกตั้งได้

ทั้งนี้เลขาธิการพรรคพลังประชาชน คาด ภายในวันที่ 5 - 6 พ.ย.นี้ ทางคณะกรรมการบริหารพรรคจะมีการอนุมัติเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง ขณะเดียวกัน ไม่ขอยืนยันชัดเจนว่า ตระกูลอยู่บำรุง จะมีรายชื่ออยู่ใน ว่าที่ผู้สมัครของพรรคฯหรือไม่ ซึ่งต้องรอติดตามในวันดังกล่าว รวมถึง ความชัดเจนของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีด้วยแต่ยอมรับว่าได้มีการพูดคุยกันจริง พร้อมเผยรายชื่อ ผู้ที่จะเข้ามาเป็นทีมเศรษฐกิจของพรรคฯ อาทิ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณอดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท. และนายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตผู้แทนการค้าไทย ขณะที่มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคฯจะได้รับคะแนนเสียงเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นอกจากนี้ เลขาธิการพรรคพลังประชาชน เห็นว่า เป็นเรื่องที่ยินดีทีทาง กกต. ได้ตั้งคณะกรรมการสอบเอกสารลับของ คมช.ที่ทางพรรค นำออกมาเปิดเผย แต่จะเป็นรูปธรรมมากน้อยแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับคณะกรรมการดังกล่าว


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=70753
ผบ.ทบ.ยันไม่ปฏิวัติหากพปช.เป็นรัฐบาล

โดยทีมข่าว INN News 02 พฤศจิกายน 2550 15:51:10 น.
ผบ.ทบ. เผย แม้พลังประชาชนได้จัดรัฐบาลทหารก็ไม่ปฏิวัติ แจง คมช.ไม่แตกแยกลั่น กองทัพไม่แทรกแซงการเมือง

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ยืนยันว่าจะไม่มีการปฏิวัติหากพรรคพลังประชาชนได้จัดตั้งรัฐบาล พร้อมระบุว่าจะไม่นำเรื่องส่วนตัวที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนรวม นอกจากนี้ยังยืนยันไม่มีความแตกแยกกันในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) โดยความสัมพันธ์ของทุคนยังคงเรียบร้อยดี นอกากนี้ ผบ.ทบ.ยังยืนยันว่า กองทัพจะวางตัวเป็นกลางทางการเมืองและจะไม่เข้าไปแทรกแซงตามความพยายามที่จะเชื่อมโยงกองทัพเข้าไปเกี่ยวข้องแต่ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาและไม่อึดอัดใจโดยขอทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม ผบ.ทบ. ยังเปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายให้กับสื่อมวลชนของกองทัพสำหรับบทบาทของกองทัพในการเลือกตั้งแล้ว


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=70738
ผบ.ทบ.แฉรู้ต้นตอเอกสารลับหลุดจากหน่วยไหน

โดยทีมข่าว INN News 02 พฤศจิกายน 2550 14:12:03 น.
ผู้บัญชาการทหารบก เผยรู้ต้นตอเอกสารลับ ที่พรรคพลังประชาชนเอามาแฉ หลุดออกมาจากหน่วยไหน แต่ยังใจดียังไม่คิดเอาผิด

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยว่าไม่ทราบว่า พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม เกี่ยวข้องกับการรั่วไหลของเอกสารลับหรือไม่ พร้อมย้ำว่าทราบแล้วว่าเอกสารหลุดออกมาจากหน่วยงานใดจะเป็นความลับและเป็นเรื่องภายในของกองทัพที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ทั้งนี้ยังไม่ทราบว่าจะต้องดำเนินการกับใคร รวมถึงไม่ทราบว่าจะต้องลงโทษอย่างไร

ผู้บัญชาการทหารบก ยังระบุว่ายังไม่ได้รับการประสานงานจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แต่พร้อมให้ความร่วมมือตามกฎหมายและขอให้เป็นอำนาจของ กกต.ในการดำเนินการ



'สมัคร'นิ่ง'ชลิต'ชี้ผิดฐานเผยเอกสารลับราชการ
โดยทีมข่าว INN News 31 ตุลาคม 2550 08:18:53 น.

"นายสมัคร สุนทรเวช" หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ยังเฉยกรณี พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข รักษาการประธาน คมช.ออกมาระบุว่ามีความผิดฐานเปิดเผยเอกสารลับทางราชการ
นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ.ในฐานะรักษาการประธาน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. ออกมาระบุว่า การนำเอกสารลับทางราชการออกมาเปิดเผยถือว่ามีความผิด และนายสมัคร ซึ่งเป็นคนนำมาเปิดเผยก็ผิดว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆ ขอให้เป็นหน้าที่ทาง กกต. ดำเนินการต่อไปอย่างไรก็ตาม สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. นั้น ได้พิจารณาแล้วเห็นว่ามีประเด็นที่เข้าข่ายการกระทำความผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. มาตรา 57 ที่ห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ เป็นคุณและเป็นโทษแก่ผู้อื่น กกต. จึงมอบหมายให้นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต. ด้านสืบสวนสอบสวนเป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=66313

ไทยรัฐ ออนไลน์

จากไทยรัฐ ปีที่ 58 ฉบับที่ 18179 วันอังคาร ที่ 30 ตุลาคม 2550

ผบ.ทบ.รู้แล้วต้นตอเอกสารลับ หลุดออกมาจากที่ใด [29 ต.ค. 50 - 18:22]



พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าววันนี้ (29 ต.ค.) ถึงกรณีที่พรรคพลังประชาชน (พปช.) นำเอกสารลับที่ระบุว่า เป็นแผนทำลายล้างกลุ่มอำนาจเก่าของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่มีลายเซ็นของ พล.อ.อนุพงษ์ ออกมามาเปิดเผยต่อสาธารณชน ว่า คงไม่มีการชี้แจงเรื่องนี้ และไม่สามารถตอบได้ว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารจริงหรือไม่ เพราะไม่มีหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่พร้อมให้ความร่วมมือ

ส่วนการตรวจสอบเอาผิดกับคนในกองทัพที่นำออกมาเผยแพร่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เบื้องต้นทราบแล้วว่า เอกสารหลุดมาจากที่ใด แต่ยังไม่ทราบตัวผู้กระทำผิด อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องภายในกองทัพที่สามารถดูแลกันเองได้ จึงไม่จำเป็นต้องไปชี้แจงต่อใคร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะที่ดูแลงานด้านความมั่นคง มีความเป็นห่วงหรือไม่ว่า ใกล้การเลือกตั้งจะมีทหารหรือตำรวจที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม หรืออยู่ในซุ้มมือปืนเข้ามาก่อเหตุ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เป็นห่วงตลอดเวลา ไม่ใช่เฉพาะการเลือกตั้งเท่านั้น

“ใครที่ไปทำในเรื่องที่ไม่ใช่หน้าที่ ผิดกฎหมาย หรือกระทำในลักษณะที่ไม่เหมาะสม ก็ต้องมีการสอดส่องดูแล ขณะเดียวกันจะให้นายทหารที่ติดตามนักการเมือง เข้ามารายงานตัวในช่วงเวลาราชการ หากนอกเหนือเวลาราชการ ก็เป็นสิทธิของแต่ละบุคคล แต่หากว่ามีการกระทบต่อกองทัพก็จะมีการว่ากล่าวตักเตือน” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

ขณะที่นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า พรรคพลังประชาชนได้ส่งเอกสารลับเกี่ยวกับแผนการสกัดกั้นพรรคพลังประชาชน ที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรค นำมาเปิด มาให้กับ กกต.แล้ว ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะนี้ได้ให้ฝ่ายสืบสวนไปพิจารณาว่า เกี่ยวข้องและเข้าข่ายความผิดในอำนาจที่ กกต.จะพิจารณาหรือไม่ เพื่อที่จะตั้งเรื่องเสนอให้ที่ประชุม กกต. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาและเชิญผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงต่อไป

ขณะที่นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ยังไม่ทราบเรื่องที่พรรคพลังประชาชนส่งเอกสารลับมาให้ กกต.แล้ว แต่เปิดเผยว่า เบื้องต้นมีบุคคลส่งเอกสาร ซึ่งอ้างว่าเป็นเอกสารลับมาให้ทางแฟกซ์ ซึ่งจะพิจารณาถึงที่มาที่ไปของเอกสารต่อไป ว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=69814

โฆษกคมช.ไม่ตอบโต้พปช.ให้ประชาชนตัดสิน

โดยทีมข่าว INN News 28 ตุลาคม 2550 21:39:19 น.



พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชาชน ออกมาโจมตีว่า คมช.ยังไม่ยอมปล่อยวางการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ ให้เดินไปตามครรลอง และยังพยายามเข้าไปควบคุมสกัดกั้นกลุ่มอำนาจเก่า ว่า ความจริงแล้วเรื่องนี้ไม่อยากวิจารณ์ เพราะเหมือนเป็นการโต้ตอบกันไปกันมา อาจจะกลายเป็นคำคมทางการเมือง ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับบ้านเมืองและประชาชน เพราะจะพูดอย่างไรก็ไม่มีใครเชื่อ ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร คนที่มาว่าก็ว่าพวกที่เพิ่งยึดอำนาจคงไม่ยอม ทางที่ดี
ปล่อยให้ประชาชนตัดสินเองจะดีกว่า

ส่วนกรณี นายสกุลธี ภัททิยกุล บุตรชาย พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม และเลขาธิการ คมช. ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนจาก คมช.ให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ตนเองคงตอบเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกคมช.
คงต้องไปถามสมาชิก คมช. และขณะนี้ก็ยังไม่ได้มีการประชุม คมช. จึงยังไม่มีมติหรือท่าทีต่อเรื่องใดๆ ออกมา


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=69805

'ชลิต'หลบสื่อเลี่ยงตอบเอกสารลับ

โดยทีมข่าว INN News 28 ตุลาคม 2550 19:31:17 น.

รักษาการ ประธานคมช. เลี่ยงตอบเอกสารลับ หลบสื่อมวลชน ขึ้นรถออกจากสนามบินทันทีที่เดินทางกลับมาจากประเทศจีน



หลังเดินทางกลับจากสาธาณรัฐประชาชนจีน พล.อ.อชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ และรักษาการประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ได้หลบหน้าสื่อมวลชนที่มารอรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อสอบถามความชัดเจนถึงเอกสารลับ ที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนนำมาเปิดเผย โดยสื่อมวลชนได้รอสัมภาษณ์บริเวณประตูทางออกของอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาเข้า ซึ่งมีรถของพล.อ.อ.ชลิต จอดรอรับอยู่ แต่พล.อ.อ.ชลิต ได้หลบหน้าสื่อโดยให้รถไปจอดที่ทางช่องประตูทางออกทางด้านอื่นทำให้สื่อมวลชนต้องรอเก้อ หลังใช้เวลานานกว่า 2 ชั่งโมง


http://www.hi-thaksin.org/contentdetail.php?ParamID=74539

เปิดเอกสารลับแผ่นที่ 9 มัด “สนธิ” โกหก
28/10/07 03:22



1 สัปดาห์แล้วที่ผมนำเอกสารลับของคมช.ที่ได้รับจาก “ท่านพันเอก” มานำเสนอให้ทุกท่านได้อ่าน ได้รับทราบกัน ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นเอกสารอันตราย แต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะแพร่กระจายไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้ เพราะเครื่องมือที่มีอยู่ก็เป็นเพียงเวปไซต์ 1 เวปไซต์ เท่านั้น ไม่มีหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ในเครือข่ายมาช่วยขยายผล ประโคมข่าว

แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ก็บังเกิดขึ้น เมื่อปรากฏว่าเอกสารชุดเดียวกันกับที่ผมได้รับมาจากท่านพันเอก นี้ คุณสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ก็มีอยู่ในมือเหมือนกัน และเป็นเหตุบังเอิญอย่างมาก เมื่อคุณสมัคร นำเอกสารลับฉบับนี้ มาแถลงต่อสื่อมวลชน หลังจากที่ผมนำเสนอในเวปไซต์ เพียงหนึ่งคืนเท่านั้น เช้าวันรุ่งขึ้น คุณสมัคร ก็เปิดบ้านแถลงข่าว แต่มีทีเด็ดกว่า Hi-thaksin คือว่า คุณสมัครมีเอกสารลับถึง 2 ฉบับ ซึ่งผมทราบจากทีมงานว่า บางส่วนของเอกสารลับฉบับที่ 2 เคยปรากฏในหนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์ รายวัน มาก่อนแล้ว

ผมไม่ทราบเหตุผลของคุณสมัคร ว่าทำไมจึงไม่แจกจ่ายเอกสารให้สื่อมวลชน นำไปเปิดเผยต่อประชาชน แต่เชื่อว่าท่านคงมีเหตุผลของท่าน เพราะประสบการณ์ทางการเมือง และประสบการณ์ทางด้านสื่อสารมวลชน ของคุณสมัคร สูงมาก และมีความช่ำชองอย่างยิ่งในการใช้ข้อมูลข่าวสาร เพื่อการใดการหนึ่ง ซึ่งผมในฐานะผู้ด้อยประสบการณ์ อ่านความคิดของท่านไม่ออกจริงๆ

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าเพราะการแถลงข่าวของคุณสมัคร แท้ๆ เทียว จึงทำให้ทุกท่านเข้ามาค้นหาความจริงในเวปไซต์ Hi-thaksin อย่างถล่มทลาย เนื่องจากคุณสมัคร เพียงแค่อ่านให้ฟัง แต่ในเวปไซต์นี้ เปิดหมดทุกหน้า ทุกบรรทัด ทุกตัวอักษร และทุกท่านที่เข้ามาก็ต้องมีอาการมือไม้อ่อน หมดแรง แทบสลบหน้าจอคอมพิวเตอร์ เมื่อได้พบเจอกับความจริงที่น่ารังเกียจ ความจริงที่น่าชิงชัง ความจริงที่น่าละอาย ดังที่ได้พบเห็นกันแล้ว

ผมเชื่อว่าสื่อมวลชนทั้งหลาย ทั้งที่ไปฟังคุณสมัคร แถลงข่าว และไม่ได้ไปฟัง ก็เข้ามาค้นหาความจริงจากเวปไซต์ของเราด้วย แต่เมื่อได้พบเห็นความจริงแล้ว กลับไม่ทำหน้าที่ในฐานะสื่อมวลชน ตรงกันข้ามกลับทำหน้าที่ในฐานะสื่อเผด็จการ อย่างแข็งขัน ทำให้ผมเข้าใจถึงเหตุผลของคุณสมัคร ว่าทำไมจึงไม่แจกเอกสารให้แก่สื่อมวลชน

ในกรณีนี้ สื่อมวลชนเลือกที่จะปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบหาความเท็จในเอกสาร และจับผิดผู้นำเสนอมากกว่า ที่จะตรวจสอบหาความจริงในเอกสาร และตั้งคำถามต่อผู้จัดทำเอกสารลับ แต่กลับกลายเป็นว่าผู้นำเอกสารมาเปิดเผย ต้องตกเป็นจำเลยของสังคม ซึ่งน่าประหลาดมากว่า 2 ข้อกล่าวหาที่คุณสมัคร ได้รับจากนายทหารบางคนในกองทัพ ในขณะนี้ มีทั้ง ปลอมแปลงเอกสารทางราชการ และ นำเอกสารลับทางราชการมาเปิดเผย ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง

หากถูกตั้งข้อหา ปลอมแปลงเอกสารราชการ ก็ไม่ควรจะตกเป็นผู้ต้องหา นำเอกสารราชการมาเปิดเผย ว่า เอกสารที่ถูกปลอมแปลง ย่อมจะไม่ใช่เอกสารทางราชการ เว้นเสียแต่เอกสารนั้นเป็นเอกสารจริง ไม่ได้มีการปลอมแปลง แต่เพราะต่างคนต่างพูดกันไป จึงทำให้การตั้งข้อกล่าวหาต่อการกระทำเดียว จึงมีลักษณะที่ขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง และทำให้การชี้แจงของกองทัพ ไม่น่าเชื่อถือ

การทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในกรณีนี้ มีทั้งการตั้งข้อกล่าวหา ตั้งข้อสงสัย ตั้งข้อสังเกตว่าเอกสารลับที่นำมาเปิดเผย เป็นเอกสารปลอมบ้าง เป็นเอกสารเท็จบ้าง เป็นเอกสารที่ตัดต่อมา มีการนำเสนอบทสัมภาษณ์ ความเห็น และการคาดเดาของทหารหลายคน โดยเฉพาะการเสนอข้อมูลข่าวสารการให้สัมภาษณ์จากพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคมช. และ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกคมช. โดยไม่พยายามที่จะค้นหาความจริงที่ถูกซ่อนเร้น มานำเสนอต่อประชาชน ดังเช่นที่สื่อมวลชนที่ดีพึงกระทำ นอกเหนือจากนำคำพูดของผู้ถูกกล่าวหามาเป็นตัวตั้ง แล้วดิสเครดิตผู้นำความจริงมาเปิดเผย

มีนายทหารจำนวนมากที่ออกมาปฏิเสธว่าเอกสารที่ผมนำมาเสนอ เป็นเอกสารปลอม เป็นเอกสารเท็จ แต่มีนายทหารคนเดียวที่ไม่กล้าปฏิเสธ คือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ได้แต่บ่ายเบี่ยงว่า ไม่เคยเห็นเอกสารฉบับนี้ ไม่เคยรับรู้ ไม่เคยได้ดูข้อความที่ปรากฏอยู่ในเอกสารลับแม้แต่ตัวเดียว และปัดภาระไปให้พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก คนปัจจุบัน ตอบแทน โดยอ้างว่าพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว

จนถึงวันนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ยังคงเงียบกริบ ไม่พูดถึงเรื่องนี้แม้แต่คำเดียว

มีข้อสงสัยไปถึง พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม ว่าเป็นผู้นำเอกสารลับมาเปิดเผย เพื่อดิสเครดิตพล.อ.สนธิ หลังจากที่ถูกย้ายออกจากกองทัพบก ไปตกที่นั่งไม่มีงานทำ ตำแหน่งรองปลัดกระทรวงกลาโหม

มีข้อน่าสังเกตว่า ทำไม พล.อ.มนตรี สังขพงศ์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ต้องรีบร้อนเข้าพบพล.อ.สนธิ หลังจากที่นายสมัคร สุนทรเวช แถลงเรื่องเอกสารลับ

เงื่อนงำที่ชวนให้คิดว่า ทำไม พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ จึงยอมรับเพียงครึ่งเดียว ว่ามีเอกสารลับจริง แต่ไม่มีข้อความสกัดกั้นพรรคพลังประชาชน เหตุใดพล.อ.สุรยุทธ์ จึงไม่เห็นข้อความเหมือนที่ทุกท่านได้เห็นแล้ว มีอะไรบังตาพล.อ.สุรยุทธ์ อย่างนั้นหรือ

มีความพยายามอย่างยิ่งยวดจาก พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม หัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคมช. ว่านายสมัคร ตัดต่อเอกสารลับ 2 ฉบับ และบิดเบือนข้อความในเอกสาร โดยยอมรับว่ามีเอกสารลับเพียง 1 ฉบับ ที่พล.อ.วินัย ภัทยิกุล เลขาธิการคมช. เป็นผู้นำเสนอต่อพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ในฐานะประธานคมช. ซึ่งเป็นเอกสารเปิดเผย ไม่ใช่เอกสารลับ แต่เอกสารลับที่นายสมัคร นำมากล่าวอ้างนั้น ซึ่งเป็นฉบับเดียวกับที่ผมนำมาเสนอ เป็นเอกสารที่น่าจะปลอม ไม่มีที่มาที่ไป ไม่มีผู้บังคับบัญชาท่านใดเซ็นหนังสือดังกล่าว มีเพียงผู้นำเสนอเท่านั้น

มีความผิดปกติว่า เหตุใด พ.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข นายทหารผู้ลงนามนำเสนอเอกสารลับสกัดกั้นพรรคพลังประชาชน ให้พล.อ.สนธิ พิจารณา จึงถูกสั่งปิดปากเด็ดขาด ไม่ให้พูดกับสื่อมวลชน ไม่ให้ชี้แจง ทั้งตอบรับหรือปฏิเสธ ทั้งๆ ที่ประชาชนทั้งประเทศ กำลังตั้งคำถามกับกองทัพ ด้วยความไม่ไว้วางใจ แต่เหตุใดกองทัพจึงเลือกที่จะไม่ปฏิเสธ และไม่ชี้แจงถึงความบริสุทธิ์ของตนเอง

ในฐานะผู้นำเสนอเอกสารลับฉบับลงวันที่ 14 กันยายน 2550 เลขที่ คมช. 0003.5/480 เรื่อง การปฏิบัติการข่าวสารตั้งแต่ปัจจุบันถึงวันปิดรับสมัครรับเลือกตั้ง ที่ปรากฏในเวปไซต์ นี้ ผมอยากจะบอกว่าท่าทีของนายทหารท่านต่างๆ ที่ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีเอกสารลับฉบับนี้ เอกสารที่ผมนำมาเสนอเป็นเอกสารปลอม เป็นเอกสารเท็จ เป็นเอกสารที่ไม่มีที่มาที่ไป เป็นอาการที่น่าสมเพชยิ่งนัก ผมไม่แน่ใจว่าท่านพูดเพราะไม่รู้ หรือ พูดทั้งๆ ที่รู้ แต่ก็ยังโกหก เพราะคิดว่าประชาชนโง่เง่าไม่ต่างจากวัวควาย สั่งซ้ายก็ซ้าย สั่งขวาก็ขวา

ที่น่าสมเพช และ ขบขันมากที่สุด ก็คือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี คนดีศรีเผด็จการ ผมเข้าใจดีว่าความรู้สึกของท่านคงกระอักกระอ่วนใจอยู่ไม่น้อย รับก็ไม่ได้ ปฏิเสธก็ไม่ได้ พูดจริงก็ไม่ชัด พูดโกหกก็ไม่กล้า ได้แต่บ่ายซ้ายเบี่ยงขวา เลี่ยงไปทางโน้นที เลี้ยวมาทางนี้ที เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะท่านรู้ดีว่าท่านทำอะไรไว้นั่นเอง

พล.อ.สนธิ รู้ดีแก่ใจว่าผมยังนำเอกสารมาเปิดเผยไม่ครบถ้วน ยังขาดเอกสารแผ่นสำคัญอีกหนึ่งใบ ซึ่งท่านกำลังชั่งใจอยู่ว่า ผมจะมีหรือไม่

ถ้าแน่ใจว่าผมไม่มี ท่านก็จะได้ปฏิเสธเต็มปากเต็มคำว่าไม่มีส่วนรู้เห็น แต่เป็นพ.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข ทำเอกสารทั้ง 8 แผ่นนี้ขึ้นมาเอง โดยที่ท่านไม่ได้มีส่วนในการพิจารณาอนุมัติให้ดำเนินการสกัดกั้นพรรคพลังประชาชน และไม่ได้รับทราบ ตามที่นำเสนอขึ้นมา

แต่ถ้าผมมีเอกสารแผ่นสำคัญแผ่นนั้นล่ะ ท่านจะทำอย่างไร หากปฏิเสธเต็มปากเต็มคำแล้ว มีการนำเอกสารแผ่นสำคัญที่เหลืออีก 1แผ่น ขึ้นมาแฉ แม้ท่านก็จะไม่ยอมลาออก แต่ก็หลอกใครต่อไปไม่ได้แล้ว เพราะถูกจับโกหกครั้งใหญ่ได้แบบคาหนังคาเขา

ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ พล.อ.สนธิ ต้องอยู่ในสภาพที่น่าสมเพช แกมทุเรศ และขบขัน ต้องอมคำโกหกไว้ในปากมายาวนานถึง 1 สัปดาห์

เพื่อไม่ให้พล.อ.สนธิ ต้องกระอักกระอ่วนใจ พะอืดพะอม ที่ต้องอมคำโกหกไว้ในปากอีกต่อไป ผมจึงตัดสินใจที่จะนำเอกสารแผ่นที่ 9 ซึ่งเป็นเอกสารแผ่นสำคัญที่สุด ออกมาเปิดเผย เพื่อที่พล.อ.สนธิ จะได้นึกออกเสียทีว่า เคยเห็นเอกสารลับฉบับนี้ที่ไหน และเมื่อไร และ ได้ทำอะไรไว้บ้างเกี่ยวกับเอกสารลับฉบับนี้ เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2550 ที่ผ่านมา ก่อนที่ท่านจะพ้นตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก เพียง 10 วันเท่านั้น

ไม่น่าเชื่อว่า พล.อ.สนธิ จะมีอาการอัลไซเมอร์ ในขณะที่วัยเพียง 60 ปี (จบ) บริบูรณ์ เท่านั้นเอง

นับจากวันที่ 20 กันยายน 25550 ที่ท่านเซ็นอนุมัติให้ปฏิบัติการข้อเสนอในเอกสารลับฉบับสกัดกั้นพรรคพลังประชาชน จนถึงวันนี้ก็เพิ่งผ่านไปเพียง 1 เดือน กับ 7 วัน เท่านั้น ไม่น่าเชื่อว่าท่านจะลืมไปหมดแล้ว ลืมไปหมดว่าเคยมีเอกสารลับฉบับนี้เข้ามาที่โต๊ะทำงาน และได้เซ็นสั่งการไว้ว่าอย่างไร

แก่แล้ว แก่เลยจริงๆ แก่แก้ไขไม่ได้แล้วล่ะครับ อาการแบบนี้

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน บอกว่าไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้มาก่อน และจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้เห็น ไม่ได้ให้ความสนใจ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเอกสารลับฉบับนี้ ต้องให้กองทัพบกชี้แจงเอง

เมื่อท่านไม่ยอมรับตามแบบฉบับลูกผู้ชายชาติทหาร ผมจึงต้องนำเอกสารลับแผ่นที่ 9 มานำเสนอเพื่อทบทวนความทรงจำให้แก่ท่าน

เอกสารลับแผ่นที่ 9 ที่ผม(แกล้ง)ลืมนำมาเปิดเผยในครั้งแรก เพราะอยากเห็นอาการของแต่ละคน แต่ละท่านว่าจะดิ้นรนเอาตัวเองรอดออกไปทางไหน เป็นเอกสารบันทึกข้อความปะหน้าเอกสาร 8 แผ่นที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้ว ออกจากส่วนราชการ ศปก.ทบ. (ฝ่ายยุทธการฯ โทร.02-279-7977) ที่ กห.0407/480 วันที่ 14 ก.ย.50 เรื่องการปฏิบัติการข่าวสารตั้งแต่ปัจจุบันถึงวันเปิดรับสมัครเลือกตั้ง เรียน ผบ.ทบ./ ประธานคมช. มีข้อความดังนี้

“เห็นสมควรอนุมัติตามที่ ศปก.ทบ. เสนอในข้อ 4”

ผู้นำเสนอเป็นนายทหารระดับพลโท ระบุตำแหน่ง ผช.เสธ.ทบ.ฝยก. / หน.สปค.ศปศ.คมช. ลงวันที่ 17 ก.ย.50

จากผู้เสนอเมื่อวันที่ 17 ก.ย.50 เอกสารลับฉบับนี้ ได้รับการพิจารณากลั่นกรอง จาก พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ เสธ.ทบ. / เสธ.ศปศ.คมช. ในวันเดียวกันคือวันที่ 17 ก.ย.50

จากนั้นก็ถูกส่งต่อไปยัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผช.ผบ.ทบ.(2) /รองผอ.ศปศ.คมช. ซึ่งพิจารณากลั่นกรองและลงนามในวันที่ 18 ก.ย.50

ก่อนจะไปถึง พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผช.ผบ.ทบ.(1) / ผอ.ศปศ.คมช. ลงนามหลังจากกลั่นกรองแล้วในวันที่ 19 ก.ย.50

เมื่อเอกสารฉบับนี้ได้รับการกลั่นกรองจาก 3 เสือ ทบ. แล้ว ก็ถูกส่งต่อไปยังพล.อ.สนธิบุญยรัตกลิน เพื่อพิจารณาอนุมัติตามแผนการที่พ.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสนอมาดังที่ปรากฏในเอกสารและข้อมูลตารางทั้ง 8 แผ่น ปรากฏว่า พล.อ.สนธิ บุยญรัตกลิน ในฐานะผบ.ทบ. / ประธานคมช. ลงนามอนุมัติในข้อ 4 เมื่อวันที่ 20 ก.ย.50

เอกสารแผ่นที่ 9 นี้ตีตราลับ และด่วนมาก มีลายเซ็นของ 4 เสือ ทบ. ครบถ้วน พร้อมทั้งลงวันที่ที่ลงนามในบันทึกข้อความ กำกับไว้ด้วย

เพราะเอกสารลับแผ่นนี้ยังไม่ปรากฏต่อประชาชนนั่นเอง จึงทำให้ ทุกคนที่ลงนาม เซ็นชื่อในเอกสารลับฉบับนี้ ต้องสงวนท่าทีไว้ ไม่มีใครยอมเปิดปากพูดแม้แต่คำเดียว ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน โยนเผือกร้อนมาให้ หรือ พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ รองผบ.สส. ที่วิ่งแจ้นเข้าพบพล.อ.สนธิ ด้วยความร้อนรน หลังจากเอกสารลับแผนการสกัดกั้นพรรคพลังประชาชน ถูกแฉออกมา กระทั่ง พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม ก็เก็บปากเก็บคำเงียบผิดปกติ เมื่อถูกถามถึงเรื่องนี้ แม้แต่ถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นผู้ปล่อยเอกสารลับฉบับนี้ออกมาหรือไม่

คงมีแต่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เพียงคนเดียว ที่เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา พูดไม่ตรง ตอบไม่ชัด ได้แต่อู้อี้อยู่ในลำคอ เพราะรู้ดีแก่ใจว่าถึงอย่างไรก็หนีความจริงไปไม่พ้น

ส่วน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกคมช. ที่ออกมาแก้ตัวแทนนายนั้น อย่าไปสนใจเลย กับทหารสายพันธุ์นั้น เสียเวลาและเสียมือที่ต้องไปจัดการกับทหารตอแหลคนนี้ คนที่มีฝีมือชั้นนี้ ไม่มีที่ให้อยู่มากนักหรอก หมดคมช.เมื่อไร ก็หมดอนาคตเมื่อนั้น

ถึงวันนี้ พ.อ.สรรเสริญ ก็ไม่ต่างอะไรจากศพเดินได้อยู่แล้ว เพราะใช้ลิ้นและคำพูดเชือดคอตัวเองตายไปตั้งแต่วันแรกที่แถข้างๆ คูๆ ว่าเอกสารปลอม เอกสารเท็จ นั่นล่ะครับ

วันนี้ ผมเปิดเอกสารแผ่นที่ 9 ออกมาแล้ว ก็อยากจะรู้ อยากจะดู ว่า ทหารหน้าไหน จะกล้าโกหก ตอแหล ให้ประชาชนฟังกันอีก

ผมบอกไว้ตั้งแต่วันแรกที่นำเอกสาร 8 แผ่น มาเปิดเผย ว่าผมอยากจะเห็นท่าทีของพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.คนใหม่ ว่าท่านจะแสดงอาการอย่างไร และมีคำสั่งอย่างไร ต่อเอกสารลับฉบับนี้

วันนี้เอกสารถูกนำมาเปิดเผยหมดแล้ว ประชาชนได้รับรู้แล้วว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ก็เป็นคนหนึ่งร่วมเซ็นชื่อรับรู้ กับแผนการลับสกัดกั้นพรรคพลังประชาชน ฉบับนี้ด้วย ท่านจำเป็นต้องพูดแล้วล่ะครับว่า ท่านยังคงยืนยันหรือไม่ว่า ทหารจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกต่อไป และ ทหารจะกลับกองทัพ

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ในฐานะผบ.ทบ. และ ในฐานะ รองผอ.ศปศ.คมช. ท่านจะหลีกเลี่ยง ไม่ชี้แจงบทบาทหน้าที่ของทหาร และ กองทัพบกภายใต้การบังคับบัญชาของท่าน ไม่ได้แล้ว

คำสั่งที่พล.อ.สนธิ เซ็นอนุมัติไว้ ลงวันที่ 20 ก.ย.50 ย่อมแสดงว่าคำสั่งนั้น มีผลตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2550 จนถึงวันปิดรับสมัครเลือกตั้ง แสดงว่าขณะนี้คำสั่งดังกล่าวก็ยังมีผลบังคับใช้อยู่ และจะมีผลต่อไปจนถึงวันปิดรับสมัครเลือกตั้ง ประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน 2550 เวลาที่เหลือจากนี้จนถึงวันปิดรับสมัครเลือกตั้ง กองทัพบก ที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็น ผู้บัญชาการ และ ศปศ.คมช. ที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นรองผู้อำนวยการ จะปฏิบัติหน้าที่อย่างไร กับคำสั่งตามเอกสารลับฉบับนี้

ผมมีคำถามเดียวที่จะถามพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก

คำขวัญของกองทัพ ที่บอกว่า “เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และ ประชาชน” ยังเชื่อถือได้หรือไม่

วันนี้ ประชาชนต้องการคำตอบ และ ความกระจ่างจากองทัพบก ท่านจะตอบหรือไม่

หรือว่า คำขวัญกองทัพบกที่แท้จริง คือ “เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน”

ระหว่าง ประชาชน กับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา จะเลือกใคร?

ส่วน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผบ.ทบ. อดีตประธานคมช. ผู้ลงนามอนุมัติแผนการสกัดกั้นพรรคพลังประชาชน ผมไม่มีคำถาม และไม่มีข้อเรียกร้องต่อท่าน เพราะ ท่านเป็นบุคคลที่ไม่มีวันที่จะเข้าใจการปกครองระบอบประชาธิปไตย และเป็นบุคคลที่ยากแก่การเยียวยา เพื่อต้อนรับกลับสู่สังคมประชาธิป ไตย อีกแล้ว

ที่สำคัญคือ ท่านเป็นคนโกหก ท่านไม่เคยพูดความจริงกับประชาชน

สักวันหนึ่ง ประชาชนจะพิพากษาการกระทำของท่าน และลงโทษต่อท่านเอง

พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม หัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคมช. ที่บอกว่าเอกสารลับฉบับนี้ไม่มีที่มาที่ไป และผู้บังคับบัญชา ไม่มีส่วนรู้เห็น รู้ไหมว่าท่านเป็นทหารปากเหม็น เป็นตัว อย่างที่เลวแก่ทหาร และประชาชน ที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

เอกสารแผ่นที่ 9 ที่นำมาเปิดเผยในวันนี้ คงทำให้กระจ่างแล้วว่า เอกสารลับฉบับนี้มีที่มาและที่ไปชัดเจน ถูกต้องครบถ้วนทุกขั้นตอนตามระเบียบทบ.ว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ.2537

พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ที่ดีที่สุดของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ท่านได้ทำลายเกียรติยศของนายกรัฐมนตรี และ องคมนตรี ที่ท่านเคยดำรงตำแหน่ง อย่างหมดสิ้น ท่านกล้าที่จะโกหกประชาชน ครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อปกป้องพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน แต่ท่านไม่เคยคิดที่จะปกป้องประชาชน ให้หลุดพ้นจากคำโกหกของพล.อ.สนธิ แม้แต่ครั้งเดียว

เหล่าทหารหาญของชาติ ผมเข้าใจดีว่ากองทัพย่อมต้องมีวินัย แต่เหนือคำว่าวินัย คือ คุณธรรม ความถูกต้อง

วันนี้ ท่านจะยอมให้พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน จูงจมูกท่านเดินไปสู่ห้วงแห่งหายนะเช่นนั้นหรือ

กองทัพเป็นของทหารทุกคน ประเทศชาติเป็นของประชาชนทุกคน

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ไม่ใช่เจ้าของกองทัพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่างหากเล่าที่ทรงเป็นจอมทัพไทย

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ไม่ใช่เจ้าของประเทศ ประชาชนทุกคนต่างหากเล่าที่เป็นเจ้าของประเทศไทย

แล้วทำไม เราจึงต้องปฏิบัติตามคำสั่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่ชอบธรรมของพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ด้วยเล่า

แล้วทำไม เราจึงต้องยอมให้พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน มีอำนาจเหนือกองทัพ และประชาชน ด้วยเล่า

แล้วทำไม เรา ทหาร กับ ประชาชน จึงไม่ร่วมมือกันกำจัด พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน

แล้วทำไม เรา ทหาร กับ ประชาชน จึงไม่ร่วมกันฟื้นฟูประเทศไทย และสร้างสรรค์ประชาธิปไตย ขึ้นใหม่

ประเทศไทย และ ประชาธิปไตย ที่ปลอดจาก พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน บุคคลที่ไม่พึงประสงค์ของการปกครองระบอบประชา ธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข



ดาวน์โหลดเอกสารฉบับสมบูรณ์ 9 แผ่น ที่นี่











http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=69558

เลขาฯกกต.เร่งตรวจเอกสารลับหลัง'สมัคร'ยื่นให้สอบ

โดยทีมข่าว INN News 27 ตุลาคม 2550 09:46:49 น.

เลขาธิการกกต. เผย เร่งตรวจสอบเอกสารลับจากหัวหน้าพรรคพลังประชาชนแล้ว พร้อมขยายผล และเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง สัปดาห์หน้า หากเข้าข่ายผิดกฎหมายจริง



นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะประธานคณะทำงานการตรวจสอบเอกสารลับที่อ้างว่าเป็นแผนสกัดกั้นกลุ่มอำนาจเก่า เปิดเผยกับสำนักข่าวไอเอ็นเอ็นถึงความคืบหน้าการดำเนินการตรวจสอบว่า หลังจากที่ได้ทำหนังสือไปยัง นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เพื่อขอเอกสารข้อเท็จจริงทั้งหมดและได้รับเอกสารจากนายสมัครแล้วเมื่อวานนี้ ขณะนี้ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.สุพัฒน์ รัตนวราหะ รองเลขาธิการกกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัยตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยหากเป็นเอกสารที่เกี่ยวข้องหรือหมิ่นเหม่กับการผิดกฎหมาย ก็จะตรวจสอบว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ แต่หากไม่เข้าข่ายผิดกฎหมายก็ไม่จำเป็นต้องขยายผลต่อไป

ทั้งนี้รองเลขาธิการกกต.ยืนยันว่า ได้สั่งการให้เร่งดำเนินการโดยเร็ว ซึ่งคาดว่าสัปดาห์หน้าจะได้ผลสรุปการตรวจสอบเอกสาร และอาจมีการเรียกบุคคลที่ถูกระบุชื่อในการจัดทำเอกสารดังกล่าวมาให้ชี้แจง หากเอกสารดังกล่าวเข้าข่ายผิดกฎหมายจริง


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=69493

หน.สนง.เลขาคมช.ยันเอกสารหลุดถึงมือ “สมัคร” ไม่ลับ

โดยทีมข่าว INN News 26 ตุลาคม 2550 17:40:04 น.



“พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม” ยันเอกสาร คมช.ที่หลุดไปถึงมือ “สมัคร” เป็นเอกสารเปิดเผยที่แจกจ่ายให้ผู้เข้าร่วมประชุม ไม่จำเป็นต้องตั้งกรรมการสอบ



พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม หัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวไทย” ถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน นำเอกสารของ คมช.ออกมาเปิดเผย โดยอ้างว่าเป็นแผนสกัดพรรคพลังประชาชนและกลุ่มอำนาจเก่า ว่า ในส่วนของ คมช.ไม่มีอะไรต้องดำเนินการ เนื่องจากเอกสารที่นายสมัครนำออกมาเปิดเผยนั้นมี 2 ส่วน ในส่วนที่เป็นของสำนักเลขาธิการ คมช.ไม่ใช่เอกสารลับ แต่เป็นเอกสารทั่วไปที่แจกให้กับผู้เข้าร่วมประชุม เช่นเดียวกับเอกสารที่ คมช.เคยแจกจ่ายให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญที่พัทยาและที่ชะอำ รวมทั้งการรณรงค์การใช้สิทธิในการลงประชามติ

“เอกสารนี้ก็เหมือนกัน เป็นการรณรงค์เรื่องการเลือกตั้งในหน่วยทหาร เน้นความโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม ปราศจากการซื้อสิทธิขายเสียง ตรงนี้ยอมรับว่ามีเอกสารจริง เป็นเอกสารที่ผมไม่ได้ปกปิดอะไร คุณจะเอาไปใช้ก็ได้ เพราะผมไม่ได้มีลับลมคมใน ผมเปิดเผย จึงไม่จำเป็นต้องตั้งกรรมการสอบสวนอะไร เพียงแต่มีคนเอาไปใช้ให้เป็นประเด็นเท่านั้นเอง ส่วนเอกสารอีกฉบับ ผมไม่ทราบที่มาว่ามาอย่างไร และไม่สามารถบอกได้ว่าจริงเท็จอย่างไร แต่เท่าที่อ่านก็ไม่เห็นมีอะไร เป็นเรื่องของการรายงานสถานการณ์ต่าง ๆ แต่ที่มีการนำออกมาเปิดเผย น่าจะเป็นเรื่องทางการเมือง ทำให้ดูเป็นเรื่องน่ากลัวใหญ่โตมากกว่า ส่วนที่ข่าวดังกล่าวส่งผลลบต่อ คมช.นั้น ถ้าคนมองในภาพลบ ถึงอย่างไรก็ลบ” หัวหน้าสำนักงานเลขาธิการ คมช. กล่าว

ส่วนที่ข่าวดังกล่าวส่งผลลบต่อ คมช. พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ถ้าคนมองในภาพลบ ถึงอย่างไรก็ลบ แต่หากจะย้อนไปพิจารณาจากข้อเท็จจริงแล้ว การปฏิรูปการปกครองที่เกิดขึ้นเกิดมาจากสิ่งเลวร้ายที่รัฐบาลชุดก่อนดำเนินการไว้ทั้งสิ้น จนมาถึงการปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ต้องการ แม้แต่ทหาร

เมื่อถามย้ำว่า เอกสารที่ถูกนำออกมาเผยแพร่ ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกนั้น เกิดจากความแตกแยกภายในกองทัพและเป็นคนของกลุ่มอำนาจเก่า พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ไม่มีองค์กรใดที่คนในองค์กรมีความคิดเดียวกันหมด แม้แต่คนที่ป็นพี่น้องในครอบครัวเดียวกัน ขณะที่ในกองทัพมีคนเป็นแสนคน เป็นเรื่องธรรมดาที่แต่ละคนจะมีความคิดของตนเอง เรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องของความแตกแยก แต่เป็นเรื่องของความแตกต่างมากกว่า

“ทุกคนมีสิทธิคิดได้ แล้วแต่คนชอบไม่ชอบ ขึ้นอยู่ว่าคิดแล้วเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติหรือเปล่า ถ้าคิดแล้วเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวก็ไม่ถูกต้อง ผมเชื่อว่าความแตกต่างตรงนี้ไม่ได้ทำให้สถาบันกองทัพอ่อนแอ มันอาจจะมีบางส่วนที่เขาอาจจะไม่ชอบวิธีการแบบนี้ก็ได้ เรื่องธรรมดา ก็เหมือนกับกับในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ คนในกองทัพก็ไม่ได้เห็นด้วยไปกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ทุกอย่าง คนไม่ชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มี คนที่ชอบก็มี คนไหนได้ประโยชน์ก็ชอบ คนไม่ได้ประโยชน์หรือถูกกลั่นแกล้ง เขาก็ไม่ชอบ เป็นเรื่องธรรมดาของความคิดเห็นของคน ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย ผมไม่ห่วงกองทัพเรื่องนี้ แต่ถ้าเวลารบแล้วไม่ยอมรบ นี่สิน่าเป็นห่วงมากกว่า” พล.อ.สมเจตน์ กล่าว


http://www.hi-thaksin.org/contentdetail.php?ParamID=74500

แผนการสกัดกั้นพรรคพลังประชาชนมีจริง

เรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 และ 18 ตุลาคม 2550



วันที่ 16 ตุลาคม 2550 พรรคพลังประชาชนเปิดแถลงนโยบายพรรค ณ ที่ทำการพรรคอำเภอสันกำแพง โดยได้เชิญสมาชิกพรรคมาร่วม แต่ปรากฏว่าในวันนั้น มีทหารหลายสิบนายเข้าไปวุ่นวาย ณ ที่ทำการพรรคฯ ทำให้สมาชิกพรรคทั้งหลาย ไม่สามารถร่วมประชุม และรับฟังนโยบายต่อไปได้ ต้องสลายตัวกันในที่สุด

แต่วันที่ 18 ตุลาคม 2550 มีอดีตนักการเมืองคนนึ่ง แต่ยังไม่สังกัดพรรคไหน เท่าที่ได้ข้อมูลได้รับคำสั่งจากพรรคของทหารให้เข้าไปประสานงานกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. และประธานแม่บ้านในเขตอำเภอสันกำแพง โดยจ่ายค่าหัวให้คนละ 500 บาท และให้ไปรับฟังแนวความคิดจากนักการเมืองคนนี้ที่วัดบ้านดอนปีน หมู่ 5 อำเภอสันกำแพง จ. เชียงใหม่ นักการเมืองคนนี้ได้อ้างตัวว่าเป็นนอมินิของอดีตนายกฯ (ท่านทักษิณ เพราะคนในท้องถิ่นยังนิยมชมชื่นในตัวท่านทักษิณ) และที่สำคัญในวันที่ 18 ต่างจากวันที่ 16 ตรงที่ว่าไม่มี**ทหารสักตัวมาปฏิบัติตัว และก่อความวุ่นว่ายสักตัว ทุกคนที่ได้รับเงินมาร่วมตัวและรับฟังด้วยความเรียบร้อย จนสิ้นสุดกระบวนการ

ที่แหละแผนการสกัดกั้นพรรคพลังประชาชนที่เกิดขึ้นจริง ณ สังคมต่างจังหวัด


konkon


ความคิดเห็นที่ 1 :: วันที่ 26 ต.ค. 07 เวลา 17:21



ให้ซื้อ กล้องวิดิโอ เล็กๆๆ สำหรบผู้สมัคร สส. คนละ กล้อง ให้ผู้ติดตาม สส. หรือ คน ขับรถ เป็น คนถ่าย จะได้หลักฐาน มาโชว์ ได้จริงๆๆ เพราะ กล้อง วิดีโอ เล็กๆๆ ราคาประมาณ 1 หมื่นบาทกว่า ถ้าใช้เป็น แบบ ฮาร์ดดิส ก็ ถ่ายได้ เป็นวัน เลย ถ้าได้หลักฐาน ในกล้องแล้ว ก็จะ ถาม รัฐบาล หรือ บอก กกต. ได้เต็มปาก


http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5955332/P5955332.html

ไม่อย่าหนา...ข้าพเจ้าไม่รู้จะเรียกอะไร????"เอกสารลับคมช."
เรื่องเอกสารลับ..ทำไมข้าพเจ้า ถึงให้ประจานชาวโลก..เพราะ.สื่อในประเทศ..ทหารเลวพวกนี้ใด้ควบคุมไว้หมดแล้ว..มีทั้งอ้าง
สถาบัน..เชิง(บังคับ)ขอความร่วมมือ.เป็นต้น.
คมช.มันหน้าด้าน!!!!!!!! หน้าชาขนาดนี้..ขอให้ประจานให้ชาวโลกรับรู้ด้วย..พี่น้องคนไทยทุกคน..ช่วยกัน..
สั่งให้ร้ายพรรคพลังประชาชนถึงวันปิดรับสมัครเลือกตั้ง...EU ต้องรู้นี่คือเลือกตั้งไทยๆ

(Thailand Strategy - 1/4 ของยุโรปทั้งหมด)

หากพ้นเลยวันรับสมัครไปแล้ว ก็เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง เพราะเป็นการกระทำให้ร้ายแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง การใส่ร้ายป้ายสีต่างๆ...ให้เข้าใจผิด เพื่อจูงใจไม่ให้ลงคะแนนกับผู้สมัครรายนั้น หรือพรรคนั้น....

จึงสั่งให้ดำเนินการล่วงหน้าก่อนถึงวันรับสมัคร เป่าหูประชาชน ตามหมู่บ้านต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มชนชั้นกลางใช้สื่อไม่เป็นทางการ ก็คือสื่อนอกระบบ สื่อวิทยุชุมชนต่างๆ..ให้ข่าวลืออย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดการเข้าใจผิดต่อพรรคพลังประชาชนให้มากที่สุด

นี่คือสิ่งที่รัฐบาล กองทัพต้องตอบคำถามว่า การเลือกตั้งนี้มันเที่ยงธรรมจริงหรือ...เอกสารลับที่เป็นข่าวในเวลานี้ สมควรที่จะแปลแล้วส่งพร้อมสำเนาต้นฉบับภาษาไทยไปยังสถานทูต และ ผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งทุกประเทศ โดยเฉพาะกลุ่ม EU เพื่อให้เป็นข้อมูล เรื่องการเตรียมการเลือกตั้งของรัฐบาลปฏิวัติ...มันทำกันอย่างนี้....

ต้องประจานครับ...

ปล.หากพลังประชาชนไม่ฟ้องชาวโลก..รัฐบาลชุดนี้ กับ คมช.ก็ทำหน้าด้านหน้าชา..ให้เรื่องเงียบ..ต่อไป..พี่น้อง..ทุกท่าน..!!!!เชือขนมกินใด้เลย...

ด้วยรักและจริงใจพลังประชาชน
"คนอยากเห็นความกล้าหาญอีกครั้ง"

จากคุณ : oceanboy - [ วันออกพรรษา 01:23:13 A:202.5.84.46 X: ]

ความคิดเห็นที่ 1

พรรคพลังประชาชนคงทำเองไม่ได้หรอกคับ เพราะเขาถือว่าจะไม่เข้ามาเล่นงานใครย้อนหลัง (คือจะมุ่งหน้าทำงานอย่างเดียว) ถ้าจะให้ดี ต้องให้พวกคนที่มีชื่อเสียง หรือบุคคลมีชื่อเป็นผู้ทำคับ ช่วยกันเผยแพร่ ช่วยกันประชาสัมพันธ์แทน เพราะอย่าลืมว่ากม.ลูกที่เพิ่งออกมาวันนี้มันยิ่งทำให้พรรคการเมืองต่างๆ ต้องระมัดระวังตัวให้มาก ไม่งั้นสะดุดขาตัวเองล้มตึง จะเสียงานใหญ่ไป



จากคุณ : ซามูไรทรูเปอร์ - [ วันออกพรรษา 01:51:07 A:58.9.136.211 X: ]


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=69248

กกต.ตั้งเลขาฯสอบเอกสารลับล้มพปช.-ซื้อตัวส.ส.

โดยทีมข่าว INN News 25 ตุลาคม 2550 16:38:03 น.

กรรมการการเลือกตั้ง มีมติให้เลขา กกต. สอบเรื่องเอกสารลับแผนสกัดกั้น กลุ่มอำนาจเก่า และการซื้อตัว ส.ส. พร้อมขู่หากผู้ให้ข่าว ไม่ให้ข้อมูล จะต้องถูกดำเนินการ



นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง กล่าวว่าในวันนี้ได้มีมติในที่ประชุมให้ นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องเอกสารลับที่อ้างว่าเป็นแผนสกัดกั้นกลุ่มอำนาจเก่ารวมถึงเรื่องการซื้อตัว ส.ส. 40 ล้านมาตรวจสอบ ซึ่งทางเลขาธิการ กกต. จะทำหนังสือไปยังผู้ให้ข่าวเพื่อที่จะขอเอกสารข้อเท็จจริงทั้งหมดหรืออาจจะเข้ามาชี้แจงด้วยตนเองก็ได้

ทั้งนี้ นายประพันธ์ กล่าวว่าหากไม่มีการส่งเอกสารหรือมาชี้แจงตามที่ กกต. ร้องขอจะถือว่ามีความผิดทางกฎหมายมาตรา 44 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญการเลือกตั้ง


http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5953493/P5953493.html



เจ้าข้าเอ๊ย! ... มาดูคนทำผิดกฎหมายหลายฉบับ ทั้งปรับและจำคุก และไล่ออกจากราชการ มีรางวัลนำจับให้คนแจ้งความจับด้วยต่างหาก
1. ผิดรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550

"มาตรา ๗๔ บุคคลผู้เป็นข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ มีหน้าที่ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายเพื่อรักษาประโยชน์ส่วนรวม อำนวยความสะดวก และให้บริการแก่ประชาชนตามหลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี

ในการปฏิบัติหน้าที่และในการปฏิบัติการอื่นที่เกี่ยวข้องกับประชาชน บุคคลตามวรรคหนึ่งต้องวางตนเป็นกลางทางการเมือง"


2. ผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๕๐ (มีโทษและสินบนนำจับตาม มาตรา ๑๓๗ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๒๐ มาตรา ๕๓ มาตรา ๕๗ วรรคหนึ่ง มาตรา ๗๐ หรือมาตรา ๘๓ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดสิบปี

ในกรณีมีการฝ่าฝืนมาตรา ๕๓ และศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษผู้กระทำการฝ่าฝืนให้ศาลสั่งจ่ายเงินสินบนนำจับไม่เกินกึ่งหนึ่งจากจำนวนเงินค่าปรับแก่ผู้แจ้งความนำจับ)

"มาตรา ๕๓ ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้แก่ตนเอง หรือผู้สมัครอื่น หรือพรรคการเมืองใด หรือให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

(๑) ........
(๒) ........
........
(๕) หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด

ความผิดตาม (๑) หรือ (๒) ให้ถือว่าเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจส่งเรื่องให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ได้"

"มาตรา ๕๗ ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายกระทำการใด ๆ เพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ................."


3.ผิดประมวลกฎหมายอาญา

"มาตรา157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้แต่สองพันบาทถึ่งสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

4. ผิดระเบียบของสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ซึ่งมีข้อกำหนดชัดเจนในมาตรา 88-98 เกี่ยวกับการฝักใฝ่ทางการเมืองของข้าราชการ หากใครฝ่าฝืนจะมีโทษตั้งแต่ขั้นเบาคือ โทษทางวินัย และขั้นหนักคือ การให้ออกจากราชการ

5. ผิดระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำหนดเอาไว้อย่างชัดเจนว่า การปกครองในระบอบประชาธิปไตยนั้นห้ามมิให้ข้าราชการคนใดเข้าไปมีส่วนรวมกับกิจกรรมพรรคการเมือง การกระทำที่ส่อในทางการปฏิเสธประชาธิปไตย ผู้ฝ่าฝืนถือว่าขาดคุณสมบัติการเป็นข้าราชการ และยังถือเป็นการทำผิดวินัยที่เอนเอียนทางการเมือง

6. ผิดมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ให้ข้าราชการวางตัวเป็นกลางทางการเมือง

จากคุณ : แรงริษยา - [ 25 ต.ค. 50 15:17:21 A:203.170.247.209 X: ]

ความคิดเห็นที่ 1

ฟ้องศาลไคฟงดีกว่า

จากคุณ : ORARICK - [ 25 ต.ค. 50 15:20:12 A:172.30.22.64 X:202.151.4.104 ]


http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5953350/P5953350.html



กลุ่มที่ชื่อประชาธิปไตยมันหายไปไหนหมด.....ตอนนี้มันเกิดเหตุการณ์อะไรกับประชาธิปไตยทำไมไม่เห็นหัวเลย
ทำกันขนาดที่สั่งให้ทำลายพรรคการเมืองแล้วมันจะเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไรกัน กรณีมีคำสั่งสร้างข่าวทำลายพรรคพลังประชาชนและกีดกันการทำงานของพรรคพลังประชาชนแล้วพวก ครป. หรืออะไรที่ชื่อประชาธิปไตยมันหายหัวไปไหนหมด....แบบนี้ประชาธิปไตยจะพัฒนาได้อย่างไรกับประเทศนี้

จากคุณ : หาญกล้า - [ 25 ต.ค. 50 14:28:50 A:222.123.130.149 X: ]

ความคิดเห็นที่ 1

คงกำลังเพลินกับฉี่ตะหาร เลยไม่ได้ยินข่าวเอกสารลับ



จากคุณ : หนุ่มสกลมิตรแท้ - [ 25 ต.ค. 50 15:07:59 A:222.123.12.219 X: ]


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=69110

นายกฯเล็งถกคมช.สางปมเอกสารลับ-ให้ชลิตแจงเอง

โดยทีมข่าว INN News 25 ตุลาคม 2550 08:58:42 น.

พล.อ.สุรยุทธ์เผยก่อนลงพท.อีสานเตรียมหารือกับคมช.เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับเอกสารที่'นายสมัคร'นำมาเปิดเผย พร้อมให้ชลิตแจงเอง



พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนออกเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่จังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดสุรินทร์ ว่า จะหารือกับพลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ และรักษาการประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ( คมช.) เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับเอกสารที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ออกมาเปิดเผยให้สื่อมวลชนได้รับทราบ ส่วนจะมีอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ทาง คมช.จะเป็นผู้พิจารณาและดำเนินการต่อไป

โดยภารกิจของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในวันนี้และวันพรุ่งนี้ (25-26 ต.ค.) มีกำหนดการตรวจราชการในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ ภาคเหนือ พื้นที่หลักของพรรคพลังประชาชน หรือ อดีตพรรคไทยรักไทย เพื่อมอบนโยบายวาระแห่งชาติ ให้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ อาทิ ใน จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ ขอนแก่น ลำปาง พิษณุโลก โดยในเวลา 09.00 น. วันนี้ นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเป็นประธานการประชุมสัมมนาการเตรียมการเพื่อสนับสนุนการเลือกตั้งครั้งที่ 1 ที่ จ.สุรินทร์ และ เป็นประธานการประชุมสัมมนาการเตรียมการเพื่อสนับสนุนการเลือกตั้ง ครั้งที่ 2 ที่ จ.ขอนแก่น

วันเดียวกันนี้ นายกรัฐมนตรี มีกำหนดพักค้างคืน ภายในค่ายมณฑลทหารบกที่ 23 (มทบ.23) หรือ ค่ายศรีนครินทร์ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=69101

'สมัคร'ลั่นพร้อมส่งเอกสารลับให้กกต.ตรวจ

โดยทีมข่าว INN News 25 ตุลาคม 2550 08:25:00 น.

'สมัคร สุนทรเวช'หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เผยพร้อมส่งเอกสารลับให้คณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจสอบแล้ว ด้าน 'ประพันธ์ นัยโกวิท' ย้ำกกต.พร้อมตรวจสอบและจัดการด้วยความเป็นกลาง



นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงการดำเนินการกับเอกสารลับที่นำออกมาเปิดเผยเมื่อช่วงก่อนหน้านี้ว่า หากทางรัฐบาลถือว่าเอกสารดังกล่าวนั้นเป็นเอกสารที่มาจาก คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. ตามที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พูด ตนเองก็พร้อมที่จะนำเอกสารนี้ส่งมอบให้ทาง คณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และที่มาที่ไปของเอกสารดังกล่าว

ขณะที่ทางด้าน ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวย้ำว่าจนถึงขณะนี้ ยังไม่เห็นว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี และอดีตประธาน คมช. จะได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องเอกสารลับนี้ อย่างตรงไปตรงมาแต่อย่างใด

ด้านนายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. กล่าวถึงการตรวจสอบเอกสารลับตามที่ นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนนำออกมาเปิดเผยว่า เรื่องเอกสารตัวนี้ หาก นายสมัคร มองว่าเป็นการกลั่นแกล้ง หรือ รู้สึกว่าได้รับผลกระทบจากเอกสารดังกล่าวก็ให้รีบนำเอกสารมายื่นให้ทาง กกต. เพื่อจะได้ตรวจสอบหาข้อเท็จจริง และสืบสาวหาที่มาต่อไป ซึ่งขอย้ำว่า กกต.จะทำหน้าที่อย่างเป็นกลางที่สุด ไม่เข้าข้างใครทั้งสิ้น

นอกจากนี้ นายประพันธ์ ยังกล่าวย้ำอีกด้วยว่า กกต. จะทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลางและยุติธรรม อย่างที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการ หรือเอกชนใดๆ ก็ตาม เพียงแต่ขอให้มีรายละเอียดข้อมูลที่เป็นเนื้อหาพอที่จะติดตามเรื่องราวได้บ้าง ไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องเล่าที่บอกต่อกันมา ซึ่งหากมีเอกสารชัดเจน กกต. ก็พร้อมจะดำเนินการตรวจสอบและสืบหาข้อเท็จจริง และด้วยอำนาจที่ กกต. มีอยู่ก็สามารถจัดการระงับยับยั้ง การกระทำที่ไม่ถูกต้องนั้นๆได้อย่างแน่นอน

ขณะที่พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. กล่าวถึงกรณีที่ นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน พร้อมที่จะส่งเอกสารลับให้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.เป็นผู้ตรวจสอบ ว่า กองทัพพร้อมที่จะให้ความร่วมมือเต็มที่ หากทาง กกต.ต้องการที่จะค้นเลขที่หนังสือ หรือค้นหารายละเอียดอื่นใดเพื่อพิสูจน์ที่มาที่ไป ของเอกสารนั้นว่าเป็นของแท้จริงหรือไม่ แต่คงไม่มีการชี้แจง หรือแถลงข่าวอะไรจากกองทัพ เพราะ คมช. และกองทัพ จะไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ จนอาจกลายเป็นการเปิดช่องให้ผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย ด้วยการกระทำในลักษณะเช่นนี้อีก

อย่างไรก็ตาม พ.อ.สรรเสริญ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเอกสารนั้นเป็นเอกสารที่มาจาก คมช.ว่า โดยส่วนตัวเชื่อว่าเอกสารที่ท่านนายกรัฐมนตรีเห็น คงเป็นเอกสารจาก นายสมัคร ซึ่งยังไม่มีการเปรียบเทียบกับเอกสารที่เป็นของทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ แต่อย่างใด


http://www.dailyworldtoday.com/newsblank.php?news_id=683


ปีที่ 8 ฉบับที่ 2146 ประจำวัน พฤหัสบดี ที่ 25 ตุลาคม 2007

เรื่องจากปก
จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
ปีที่ 8 ฉบับที่ 2146 ประจำวัน พฤหัสบดี ที่ 25 ตุลาคม 2007

โทษไล่ออก-ติดคุก ทหารฝักใฝ่การเมือง



นักกฎหมายมหาชนระบุหากเอกสารลับที่หัวหน้าพรรคพลังประชาชนนำมาเปิดเผยเป็นของจริง ทหารที่เกี่ยวข้องทั้งคนสั่งการ ฝ่ายปฏิบัติ มีโทษหนักทั้งทางวินัยและอาญาถึงขั้นไล่ออกจากราชการ ติดคุก เพราะทำความผิดตามกฎหมายหลายฉบับ ทั้งกฎหมายเลือกตั้ง กฎหมายอาญา ระเบียบ ก.พ. และมติคณะรัฐมนตรี ที่กำหนดให้ข้าราชการต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ไม่ฝักใฝ่พรรคการเมือง และการสกัดกั้นยังถือว่าเป็นกระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข จี้ตั้งคนกลางสอบว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่เพื่อเอาคนผิดมาลงโทษ แต่หากเป็นเอกสารปลอมคนนำมาเปิดเผยก็มีโทษด้วยเช่นกัน

อาจารย์ท่านหนึ่งซึ่งสอนวิชากฎหมายมหาชนอยู่ในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งที่ไม่ประสงค์จะออกนามได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเอกสารลับของกองทัพบกที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน นำมาเปิดเผยในแง่ของกฎหมายว่า ถ้าเอกสารที่นายสมัครนำมาเปิดเผยเป็นของจริง ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จะต้องรับโทษทั้งทางวินัยและอาญา เพราะการเป็นข้าราชการไม่ว่าจะสังกัดหน่วยงานใด สิ่งที่ต้องยึดถือปฏิบัติคือต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง

ในระเบียบของสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) มีข้อกำหนดชัดเจนในมาตรา 88-98 เกี่ยวกับการฝักใฝ่ทางการเมืองของข้าราชการ หากใครฝ่าฝืนจะมีโทษตั้งแต่ขั้นเบาคือ โทษทางวินัย และขั้นหนักคือ การให้ออกจากราชการ ส่วนกฎหมายอาญาจะมีความผิดตามมาตรา 157 คือเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หากกระทำเป็นความผิดร้ายแรงจะมีโทษถึงจำคุก นอกจากนี้ยังมีระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำหนดเอาไว้อย่างชัดเจนว่า การปกครองในระบอบประชาธิปไตยนั้นห้ามมิให้ข้าราชการคนใดเข้าไปมีส่วนรวมกับกิจกรรมพรรคการเมือง การกระทำที่ส่อในทางการปฏิเสธประชาธิปไตย ผู้ฝ่าฝืนถือว่าขาดคุณสมบัติการเป็นข้าราชการ และยังถือเป็นการทำผิดวินัยที่เอนเอียนทางการเมือง นอกจากนี้การไม่เป็นกลางทางการเมืองยังมีความผิดตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ให้ข้าราชการวางตัวเป็นกลางทางการเมือง “ทั้งหลายทั้งปวงที่กล่ามานี้ ถ้าพิสูจน์ได้ว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง ผู้กระทำจะมีโทษทั้งทางอาญาและไล่ออกจากราชการ ยิ่งหากเป็นข้าราชการทหารจะมีโทษหนักกว่าข้าราชการทั่วไปหลายเท่า”

นักกฎหมายมหาชนผู้เดียวกันนี้กล่าวด้วยว่า นอกจากเป็นการทำผิดทางอาญาและผิดวินัยข้าราชการแล้ว ยังถือว่าผู้ที่มีความเอนเอียงทางการเมืองกระทำผิดต่อกฎหมายเลือกตั้งในข้อหาที่ว่าด้วยการกระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งมีโทษทั้งจำคุกและปรับ ยิ่งเป็นข้าราชการจะโดนโทษหนักเป็น 2 เท่าของบุคคลธรรมดา “ต้องไปพิสูจน์กันว่าเอสารลับที่นายสมัครเอามาเปิดเผยนั้นเป็นหนังสือที่ออกมาจากหน่วยงานราชการจริงหรือไม่ ออกมาจากหน่วยงานใด ใครเป็นคนสั่ง หน่วยงานไหนเป็นผู้ปฏิบัติ หากเป็นของจริงถือว่ามีความผิดด้วยกันทั้งหมด ขณะเดียวกันหากพิสูจน์ได้ว่าเป็นเอกสารปลอม ผู้ที่นำมาเปิดเผยก็มีความผิดด้วยเช่นกัน อาจโดนฟ้องทั้งคดีแพ่งและอาญา” นักกฎหมายมหาชนกล่าวพร้อมเสนอว่า ควรตั้งคนกลางหรือหน่วยงานที่เป็นกลางขึ้นมาพิสูจน์เอกสารนี้ แต่ส่วนตัวคิดว่าคงไม่มีใครกล้าไปพิสูจน์เรื่องนี้ เพราะว่าเป็นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่สำคัญอดีตประธาน คมช. ก็มีตำแหน่งอยู่ในรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมีการพิสูจน์หรือไม่ แต่เมื่อมีการเปิดเผยออกมาอย่างนี้จะทำให้การเลือกตั้งมีความรุนแรงขึ้นแน่นอน


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=69059

พปช.หวั่นหัวคะแนนถูกฆ่าเตรียมแฉอีกอาทิตย์นี้

โดยทีมข่าว INN News 24 ตุลาคม 2550 19:33:50 น.

พรรคพลังประชาชนห่วงผู้สนับสนุน ถูกลอบสังหารเพิ่ม เตรียมนำผู้สนับสนุน จ.พิจิตร เปิดเผยข้อมมูลอาทิตย์นี้หวั่นกองทัพบิดเบือนเนื้อหาการปราศัยบนเวที



ร้อยโทกุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชนเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรควันนี้ กังวลเรื่องที่มีการลอบสังหารผู้สนับสนุนของพรรคฯ ในหลายพื้นที่ และในวันอาทิตย์ นี้จะนำผู้สนับสนุนพรรคฯ ในพื้นที่ จ.พิจิตร ซึ่งถูกขู่ลอบทำร้ายมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน

นอกจากนี้ที่ประชุมยังเกรงด้วยว่า แนวทางที่พรรคพลังประชาชน ขึ้นปราศรัยจะถูกปิดเบือนข้อเท็จจริงในรายงานของกองทัพบก เหมือนเช่นที่ผู้สมัครของพรรค ใน จ.อุตรดิตถ์ ตั้งข้อกล่าวหาว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ระหว่างการปราศรัย


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=69046

พปช.ลั่นฟ้องปชช.ทุกเวทีปราศรัย

โดยทีมข่าว INN News 24 ตุลาคม 2550 18:21:34 น.

โฆษก พรรคพลังประชาชน เรียกร้องรองนายกฯสนธิ แสดงความชัดเจน จะมีการดำเนินการ ตามแผนสกัดกั้นพรรค ซึ่งถูกเปิดเผยหรือไม่ ยืนยัน จะนำประเด็นดังกล่าวฟ้องประชาชนในทุกเวที



ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน นำเอกสารลับสกัดกั้นพรรคพลังประชาชนเรื่องการปฏิบัติการข่าวสารตั้งแต่กลางเดือนกันยายนถึงวันปิดรับสมัครรับเลือกตั้งที่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกและประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ในขณะนั้นเป็นผู้อนุมัติมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนเพื่อยืนยันว่ามีเอกสารอยู่จริง หลังโฆษก คมช.ออกมาแก้เขี้ยวเป็นวัวพันหลัก ทั้งนี้จึงขอเรียกร้องให้ พล.อ.สนธิ ตอบคำถามให้ชัดเจนและยืนยันว่าจะใช้แผนดังกล่าวอีกหรือไม่ในเมื่อเข้ามาดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งจะส่งผลให้การเลือกตั้งไม่มีความเป็นธรรม โดยทางพรรคเองจะนำเรื่องดังกล่าวขึ้นปราศรัยบนเวทีเพื่อให้ประชาชนรับรู้ว่าพรรคถูกกระทำ

โฆษกพรรคพลังประชาชน ยังกล่าวถึงข้อความในเอกสารฉบับดังกล่าวด้วยว่ามีจุดประสงค์ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดในแนวทางของพรรคและหากได้เป็นรัฐบาลจะส่งผลให้สถานการณ์บ้านเมืองไม่มีความสงบ


http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5950386/P5950386.html

ดูหลักฐานจะจะ..ที่บ่งบอกว่าให้ทำลายล้างพรรคพลังปชช. ที่สุรยุดบอกว่าไม่มี
สุรยุด""พร้อมปฎิเสธว่าไม่มีข้อความหรือคำสั่งใดที่มีเนื้อหาเป็นการสกัดกั้นหรือใช้ความรุนแรงเพื่อทำลายพรรคพลังประชาชน ""

อ่านดูครับว่าสุรยุด โกหก..หน้าด้าน..แค่ไหนที่บอกว่าไม่มีข้อความนี้

**************************************

พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตนได้เอกสารที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน นำมาเปิดเผยแล้ว โดยยอมรับว่าเอกสารดังกล่าวเป็นรายละเอียดการทำงานของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช.ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา พร้อมปฎิเสธว่าไม่มีข้อความหรือคำสั่งใดที่มีเนื้อหาเป็นการสกัดกั้นหรือใช้ความรุนแรงเพื่อทำลายพรรคพลังประชาชน หรือกลุ่มอำนาจเก่า ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางคมช.จะต้องมีการตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป
***************************************



จากคุณ : นายประสิด - [ 24 ต.ค. 50 17:42:21 A:125.25.89.239 X: ]


http://proxify.com/p/011010A1000110/687474703a2f2f68692d7468616b73696e2e6f72672f636f6e74656e7464657461696c2e7068703f506172616d49443d3734343335

โธ่...ไอ้ขี้ขลาด ไสหัวไปเสียที
24/10/07 15:03 1815 40



อ่าน ฟัง ดู ข่าวเอกสารลับของคมช. แล้วย้อนกลับมาคิดถึงอนาคตการเลือกตั้ง อนาคตของประชาธิปไตยในประเทศไทย อนาคตของตัวเองและลูกหลาน พาลจะลมใส่

ไม่รู้ว่าคนไทยอย่างผมไปทำอะไรมา มันถึงได้ ซวย ขนาดนี้

ซวยขนาดไหน อ่านกันดูอีกสักรอบ แล้วตอบตัวเองก็แล้วกัน ....

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคมช. และอดีตผู้บัญชาการทหารบก ชี้แจงเรื่องเอกสารลับ ฉบับทำลายพรรคพลังประชาชน ตามที่ได้นัดหมายกับสื่อมวลชน ไว้ล่วงหน้า ด้วยการตอบคำถาม ด้วยลีลาจอมโกหก ซึ่งผมคัดลอกมาจากเวปไซต์หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุกิจ ดังนี้

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน นำเอกสารลับที่ระบุแผนการสกัดกั้นพรรคพลังประชาชนในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ว่า ต้องไปดูที่กองทัพบกว่าจะเป็นอย่างไร ตนยังไม่เห็นเอกสารตัวจริง

เมื่อถามว่าเอกสารดังกล่าวมีการรายงานในช่วงที่ท่านดำรงตำแหน่งประธานคมช.อยู่ ท่านได้รับเอกสารรายงานดังกล่าวด้วยหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวย้ำว่า ตนยังไม่เห็นเอกสารตัวจริง แต่จะขอให้ทางกองทัพเป็นผู้ชี้แจงเรื่องนี้จะดีกว่า

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า จะสั่งการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้หรือไม่ รองนายกรัฐ มนตรี กล่าวว่า ของจริงเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ปกติแล้ว เรื่องของคำสั่งต่างๆ พวกนี้ทางกองทัพบกเขาทำมาเยอะเพื่อความมั่นคงของประเทศ ฉะนั้นเอกสารเป็นมาอย่างไรก็ตรวจ สอบได้อยู่แล้ว

ต่อข้อถามว่า จะมีการขอดูเอกสารจากนายสมัครมาดูโดยตรงหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่ต้องดู ถ้าเผื่อมีก็มีอยู่ที่นี้ แต่จะเป็นอันเดียวกันหรือเปล่าอันนี้ไม่ทราบ

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แสดงว่ายอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยมีการสั่งการในลักษณะนี้จริง ในช่วงที่ประเทศชาติเกิดความวุ่นวายใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า "ทั้งประเทศเป็นมาอย่างนี้ทุกครั้ง ทุกประเทศของโลก อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ทางคณะกรรมการและกองทัพบกเขาคงจะตรวจสอบของเขาเองส่วนเอกสารจะเป็นเอกสารปลอมอย่างที่โฆษกกองทัพบกได้ตั้งข้อสังเกตหรือไม่ ตรงนี้ก็คงต้องแล้วแต่ทางกองทัพ เราไม่รู้"

เมื่อถามว่า เหตุผลที่ต้องสั่งการในลักษณะอย่างนั้นเป็นเพราะอะไร พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องของความมั่นคงของประเทศอย่างเดียว แต่ทุกเรื่องที่เป็นเรื่องของความไม่เรียบร้อย เราจะจัดทำเป็นมาตรการในการดำเนินการแก้ไขปัญหาทุกเรื่องไม่ใช่เรื่องเฉพาะเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น แม้กระทั่ง "แผนปฐพี149" ลองไปเปิดดู

เมื่อถามว่าไม่มีการสกัดพรรคพลังประชาชนใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า เรื่องความมั่นของประเทศเป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่สุด

เมื่อถามว่าเหตุผลที่สกัด เพราะดูแล้วถ้าปล่อยให้พรรคพลังประชาชนกลับมามีอำนาจ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน ตรงไหนที่เป็นความไม่มั่นคงทางกองทัพ หรือส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความมั่นคงคงต้องทำงานในหน้าที่ของตนเอง

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้การตรวจสอบความถูกต้อง ชัดเจนในเรื่องนี้คงต้องรอให้กองทัพบกเป็นผู้ตรวจสอบ เนื่องจากทางกองทัพบกเห็นเอกสาร ส่วนเอกสารตัวจริงเป็นอย่างไรเราไม่รู้ ทั้งนี้ ไม่ได้ไปกำหนดเวลาในการตรวจสอบเพราะเป็นหน้าที่ของเขาอยู่แล้ว

อ่านจบแล้ว ผมได้แต่สะกดอารมณ์ของตัวเองไว้ ไม่อย่างนั้น เขียนหนังสือต่อไม่ได้ รู้แต่ว่าประชาชนไม่ได้อะไรเลยจากการชี้แจงของพล.อ.สนธิ ไม่รู้ว่าอะไรจริง อะไรเท็จ หลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้นลงแล้ว รู้แต่ว่าต้องไปสอบถามจากองทัพบก เอง เท่านั้นจริงๆ ที่เป็นสาระสำคัญที่ได้จากการแถลงข่าว

หลังจาก พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน พูดจบไปไม่นานนัก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชาของพล.อ.สนธิ ก็พูดบ้าง ซึ่งผมคัดลอกมาจากเวปไซต์ผู้จัดการออนไลน์ มีความดังนี้

นายกฯ เปิดอกยอมรับเอกสารลับ ที่"สมัคร" นำออกมาแฉเป็นของคมช.จริง แต่ยืนยันไม่มีคำสั่งสกัดกั้นหรือใช้ความรุนแรง เพื่อทำลายพรรคพลังประชาชน ขณะที่"สนธิ" ชี้เป็นมาตรการทั่วโลกใช้ดำเนินการหากกระทบความมั่นคง

วันนี้ (24 ต.ค.) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตนได้รับเอกสารที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน นำมาเปิดเผยแล้ว โดยยอมรับว่าเอกสารดังกล่าวเป็นรายละเอียดการทำงานของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช.ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา พร้อมปฏิเสธว่า ไม่มีข้อความหรือคำสั่งใดที่มีเนื้อหาเป็นการสกัดกั้นหรือใช้ความรุนแรงเพื่อทำลายพรรคพลังประชาชน หรือกลุ่มอำนาจเก่า ซึ่งเป็นเรื่องที่ทาง คมช.จะต้องมีการตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป

โดยก่อนหน้านี้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี และอดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวในกรณีเดียวกันว่า ตนยังไม่เห็นเอกสารดังกล่าว จึงขอให้ทางกองทัพบกเป็นผู้ชี้แจงในรายละเอียด ส่วนการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ตนคิดว่าของจริงเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ปกติแล้วเรื่องคำสั่งต่างๆ กองทัพบกก็ทำมาเยอะแล้ว ทั้งนี้ เพื่อความมั่นคงของประเทศ ฉะนั้น เอกสารเป็นอย่างไรก็ตรวจสอบได้อยู่แล้ว

พล.อ.สนธิ กล่าวยอมรับว่าทุกประเทศทั่วโลกก็ทำอย่างนี้ เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ของกองทัพบกต้องตรวจสอบเอง เมื่อมันเป็นเรื่องของความมั่นคงของประเทศ ทุกเรื่องที่ไม่เรียบร้อยเราจะทำเป็นมาตรการในลักษณะการแก้ไขปัญหา เป็นอย่างนี้ทุกเรื่องไม่เฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพราะเรื่องความมั่นคงของประเทศเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

อ่านคำให้สัมภาษณ์ของพล.อ.สุรยุทธ์ จบแล้ว ก็ได้แต่อึ้ง รับสารภาพกึ่งหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังช่วยปกปิดความผิดของลูกน้อง นี่น่ะหรือ ที่มาโกหกตอแหลว่าเป็นโจรกลับใจ มันกลับใจเป็นโจร เสียมากกว่า หรือไม่อย่างนั้นก็เป็นโจรโดยสันดาน แก้ไม่หาย

ก่อนหน้าที่ พล.อ.สนธิ และ พล.อ.สุรยุทธ์ จะพูดถึงเรื่องนี้ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกคมช. ให้สัมภาษณ์รายการข่าวภาคเช้าทางสถานีโทรทัศน์ และสถานีวิทยุ หลายแห่ง มีใจความเดียวกัน ซึ่งผมคัดลอกมาดังนี้

“กองทัพบกไม่เคยออกเอกสารลับเพื่อหวังสกัดพรรคพลังประชาชน(พปช.) ตามที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคออกมาแถลงข่าว ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นการทำลายชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของกองทัพบก โดยอาจมีทหารหัวใสทำเอกสารปลอมไปหลอกเอาเงิน

การปฏิบัติงานในเรื่องลับเช่นนี้ ไม่มีใครที่ไหนจะทำเอกสารรายงานเช่นนี้แน่นอน หากจะทำจริงคงไม่เขียนจดหมายน้อยเอาไว้สำหรับให้ใครมาเอาผิดได้ เป็นไปได้ว่าอาจมีทหารหัวใสบางคนนำเอกสารปลอมไปหลอกส่งให้หัวหน้าพรรคพลังประชาชนเพื่อเรียกค่าน้ำร้อนน้ำชาหรือไม่ เพราะทราบว่ามีสตางค์เยอะ

เรื่องดังกล่าวสร้างความเสียหายให้แก่กองทัพบก ซึ่งหากเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารจริง ผมคงไม่สามารถอธิบายที่ไปที่มาของเอกสารนี้ได้ เพราะไม่สามารถเปิดเผยเอกสารลับของทางราชการ แต่หากไม่ใช่เอกสารจริง ก็ต้องตรวจสอบต่อไปว่าเอกสารจริงรายงานว่าอย่างไร ทำให้เกิดการค้นหาต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และเป็นการสร้างความสำคัญให้แก่ทหารคนดังกล่าวที่ทำเอกสารฉบับนี้ขึ้นมา

ช่วงนี้เป็นช่วงใกล้การเลือกตั้งจะเป็นเกมการเมืองหรือไม่ ที่บางพรรคการเมืองต้องการเรียกคะแนนความสงสารจากประชาชน เพราะก่อนหน้านี้แกนนำอดีตพรรคไทยรักไทย 2 คนเคยออกมาระบุว่าถูกทหารควบคุมตัวไป 10 วัน และถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรี แต่ก็ไม่มีการนำหลักฐานอะไรออกมาเปิดเผยตามที่มีการกล่าวอ้าง

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) มีนโยบายชัดเจนในเรื่องการวางตัวที่เป็นกลาง ไม่สนับสนุนพรรคการเมืองหนึ่งพรรคการเมืองใด ขณะเดียวกันไม่ได้จ้องทำลายล้างพรรคการเมืองใด และการที่ประชาชนจะตกลงใจเลือกพรรคการเมืองใดก็เป็นดุลยพินิจของทุกคน กองทัพ บกเป็นเพียงกลไกหนึ่งของรัฐบาลในการสนับสนุนการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรมมากที่สุด

ในช่วงที่มีการปฏิรูปการปกครอง คมช.เป็นคู่กรณีกับพรรคไทยรักไทย ซึ่งปัจจุบันสมาชิกส่วนใหญ่ย้ายมาสังกัด พปช. แต่วันนี้พรรคการเมืองเริ่มเดินหน้าเต็มตัวเพื่อเตรียมการเลือกตั้ง กองทัพคงมีหน้าที่เพียงประคับประคองสถานการณ์เท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไปชี้นำให้ใครเลือกใคร เพราะสถานการณ์ขณะนี้ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะทำเช่นนี้

ช่วงนี้ คมช.ลดบทบาทลงเป็นอย่างมาก ผมไม่เคยเห็น สมาชิก คมช.คนใดออกมาให้ข้อมูลในเชิงรุกที่จะเป็นประเด็นต่อต้าน ต่อสู้บุคคลที่นิยม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คงมีเพียงการเปิดประเด็นมาจากกลุ่มนิยมอดีตนายกรัฐมนตรีมากกว่า

ไม่ไปทำความเข้าใจกับนายสมัคร เพราะนายสมัคร มีจุดยืนความเชื่อที่แรงกล้า การจะไปเปลี่ยนความคิดบุคคลที่มีความเชื่ออย่างแรงกล้าเช่นนี้ รวมถึงความเชื่อของพรรคพลังประชาชนคงไม่ใช่เรื่องง่ายและเป็นไปได้น้อยมาก รวมทั้งคงไม่ไปตรวจสอบข้อมูลเรื่องเอกสารดังกล่าว เพราะตามระเบียบกองทัพบกไม่ได้มอบอำนาจในการชี้แจงเรื่องนี้”

อ่านจบแล้ว ต้องบอกว่า ไอ้ไก่อู นี่มันเป็นทหารแบบไหนกัน ไม่รู้อะไรเลย แต่พูดเสียยืดยาว ชักแม่น้ำทั้งห้าสาย มาอธิบายเรื่องโกหก หวังใจว่าคนที่รู้ไม่เท่าทัน จะเชื่อพวกมันไปเสียทั้งหมด ทั้งๆที่คำถามมีอยู่แค่ข้อเดียว คือ “เอกสารลับฉบับนี้ จริง หรือ ไม่จริง” จริงก็บอกจริง ไม่จริงก็บอกไม่จริง ไม่รู้ก็บอกไม่รู้ แค่นี้ก็ตอบไม่ได้

ใครใช้ให้พูดอะไร ก็พูด ไม่ต้องดูข้อเท็จจริง ใครใช้ให้โกหกตอแหลอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น เพื่อลาภยศตำแหน่งแห่งตนเอง เพื่อความมั่งมีศรีสุขของตัวเอง และลูกเมีย อนาถใจแท้ๆ ทหารไทยในวันนี้

ที่แถมท้ายมาด้วย แต่มีสาระสำคัญที่สุด ก็คือ นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่มีหน้าที่โดยตรงในการกับดูแลการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม ตอบคำถามนี้ว่า เป็นเรื่องระหว่างพรรคพลังประชาชนกับคมช. กกต. ไม่เกี่ยว

โธ่...นางสดศรี คนนี้ นี่น่ะหรือที่เคยเป็นผู้พิพากษามาก่อน

โธ่...นางสดศรี คนนี้ นี่น่ะหรือที่ที่ประชุมใหญ่ผู้พิพากษาศาลฎีกา ส่งมาให้เป็นกกต.

โธ่...นางสดศรี คนนี้นี่น่ะหรือ ที่จะมาจัดการการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความสุจริต และเที่ยงธรรม

โธ่... ช่างเอ๋ยช่าง น่าจะทำท่อเหล็กร่วงหล่นพื้นห่างจากจุดเดิมสักศอกเดียว แผ่นดินไทยที่กำลังตกต่ำจะสูงขึ้นกว่าเดิมอีกเยอะเชียว

ไม่อยากจะพูดอะไรมากถึงนางสดศรี คนนี้ เพราะนึกไม่ถึงว่าคนอะไรจะอัปลักษณ์ได้ทั้งกาย วาจา ใจ ถึงเพียงนี้

ถ้าเรื่องแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องของกกต. แล้ว กกต. มีหน้าที่ทำเรื่องบ้าง หือ นางสดศรี ช่วยตอบหน่อยเถิด

ถ้าตรรกะของนางสดศรี คนนี้ ถูกต้อง หากมีใครเขียนป้ายด่าพรรคการเมือง นักการเมืองคนไหน ก็เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างผู้กระทำ กับผู้ถูกกระทำ ผู้รักษากฎหมายอย่างกกต. ไม่เกี่ยวข้องด้วยใช่ไหม

เป็นบุญหัวของจำเลยหลายคนที่นางสดศรี ไม่ได้เป็นผู้พิพากษาแล้ว แต่เป็นคราวเคราะห์ของนักการเมืองและประชาชนทั้งประเทศ ที่นางสดศรี คนนี้ มาเป็นกกต.

คนที่ผมอยากจะพูดถึงมากที่สุดก็คือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ทหารขี้ขลาด ที่ไม่ยอมรับผิดชอบกับการกระทำของตัวเอง

เมื่อวานนี้ เอาตัวรอดด้วยการบอกให้นักข่าวไปถาม คมช. เพราะเป็นเอกสารของคมช. เดี๋ยวนี้ไม่ได้เป็นประธานคมช. แล้ว ไม่ตอบ ไม่พูด

วันนี้ เอาตัวรอดไปอีกวันด้วยการบอกให้นักข่าวไปถามกองทัพบก เพราะเป็นเอกสารของกองทัพบก เดี๋ยวนี้ไม่ได้เป็นผู้บัญชาการทหารบก แล้ว ตอบไมได้

สองวันสองแบบ โยนกลองไปทีละวัน ทีละหน่วยงาน ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะโยนไปที่ไหนอีก

พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุก รองประธานคมช. ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานคมช. ไม่รับลูก ไม่ตอบให้ ไม่ชี้แจง ไม่แถลงเรื่องโกหกแทน จึงต้องไปขอร้องให้พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา หาเรื่องมาโกหกแทน

ต้องคอยดูกันว่า พล.อ.อนุพงษ์ จะตอบอย่างไร ในสิ่งที่ตนเองไม่ได้กระทำ

ทั้งๆ ที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเอกสารเป็นช่วงเวลาที่ตัวเองเป็นทั้งประธานคมช. และ ผบ.ทบ. และลายเซ็นตัวเองทั้งในฐานะประธานคมช. และ ผบ.ทบ. ก็ยังหราคากระดาษคำสั่งอยู่เลย แต่จะให้ไปถามคนอื่น

ไม่กล้ากระทั่งจะปฏิเสธ ว่าเป็นเอกสารเท็จ เป็นของปลอม

ไม่กล้ากระทั่งจะยอมรับ ว่าเป็นเอกสารจริง ทั้งๆที่มีลายมือตัวเองเซ็นกำกับไว้

โกหกคนทั้งโลก ก็โกหกได้ แต่โกหกตัวเอง ทำได้อย่างไร

คนเรา..ถ้าโกหกตัวเองได้ ก็ไม่ต้องคิดอีกแล้วว่าจะไม่โกหกใคร

คนเรา..ถ้าถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้ว ยังไม่ถือปฏิบัติ ไม่กระทำตามคำถวายสัตย์ ก็ไม่ต้องถามอีกแล้วว่าจะซื่อสัตย์ต่อใครในแผ่นดินนี้อีกแล้ว

ส่วน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด หรือ ไก่อู หากไม่เกี่ยวก็ถอยไป หรืออยากหาเรื่อง ก็เดินเข้ามา อยากแส่นัก ก็จะได้กวักมือเรียกร่วมวงด้วย ไม่รู้ไม่เห็นว่าเป็นเอกสารอะไร แต่ยืนยันหนักแน่น เป็นเอกสารปลอม

เดิมพันตำแหน่งไหม ถ้าเป็นเอกสารจริง กล้าลาออกจากทหารหรือไม่ อยู่ไปก็ทำให้กองทัพเสื่อมเสียมากกว่า

ถ้าเป็นเอกสารจริง จะอธิบายยากตรงไหน ?

การพูดความจริง เป็นสิ่งที่พูดง่ายที่สุด เพราะพูดกี่ครั้งก็ยังเป็นความจริง

คนที่กลัวความจริง กลัวที่จะต้องพูดความจริง ไม่กล้าที่จะอธิบายความจริง ก็มีแต่คนโกหกเท่านั้น

ถ้าเป็นเอกสารปลอม จะยอมให้เขาถล่มอยู่ข้างเดียวทำไม ?

นายสมัคร สุนทรเวช ก็นั่งอยู่ที่พรรคพลังประชาชน ไม่ได้หนีไปไหน ไม่ได้ใช่ลีลาตีหัวเข้าบ้านเหมือนทหารบางคน หากไม่ใช่เอกสารจริง ก็ไปฟ้องศาล ดำเนินคดีข้อหาทำให้กองทัพเสื่อมเสีย ไม่ใช่มาฟ้องสื่อมวลชน เพื่อแก้เกี้ยว ด้วยถ้อยคำเลี้ยวลด เหมือนใจที่คดเคี้ยวแบบนี้

อ่าน ฟัง ดู แล้วย้อนคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังคำพูดของคนเหล่านี้ หาตอนสุดท้ายที่จะเขียนไม่เจอ เพราะเบลอไปหมด

จึงต้องพูดว่า ... โธ่ ...ไอ้ขี้ขลาด ไสหัวไปเสียที อย่าอยู่ให้เปลืองภาษีประชาชน อย่าอยู่ให้เป็นราคีแก่ประเทศชาติ อีกเลย

หรือต้องให้ประชาชนช่วยกันกำจัดตัวซวยของประเทศให้หมดไปด้วยมือประชาชนเอง

ประดาบ


http://proxify.com/p/011010A1000110/687474703a2f2f68692d7468616b73696e2e6f72672f636f6e74656e7464657461696c2e7068703f506172616d49443d3734343330

'สนธิ' เผยทำเอกสารลับเพื่อความมั่นคง
24/10/07 14:22 1094 21



รองนายกฯสนธิ โยน กองทัพชี้แจง เอกสารลับระบุหากมีจริง ก็เป็นเพื่อความมั่นคง ยืนยันไม่คิดสกัดกั้นพรรคพลังประชาชน

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติ ว่าด้วยการรณรงค์และการแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียง กล่าวถึง กรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เปิดเผยเอกสารลับที่มีรายละเอียดขัดขวางกลุ่มอำนาจเก่า ว่า ยังไม่เห็นเอกสารที่นายสมัครกล่าวอ้าง และไม่จำเป็นต้องประสานกับนายสมัคร แต่ยอมรับว่า คำสั่งในลักษณะนี้มีความจำเป็น และเคยมีการสั่งการตั้งแต่ในช่วงรัฐประหาร ซึ่งเป็นไปตามที่นานาประเทศทำกัน พร้อมยืนยันว่า ไม่เคยมีวัตถุประสงค์ในการสกัดกั้น ล้มพรรคพลังประชาชน แต่เป็นเหตุผลในเรื่องความมั่นคง อย่างไรก็ตาม กองทัพ จะเป็นผู้ตรวจสอบ และให้ความชัดเจนในเรื่องนี้

" ของจริง เป็นยังไง ก็เป็นแบบนั้น คำสั่งแบบนี้ทางกองทัพ ก็ทำมาเยอะ เป็นเรื่องของความมั่นคง เอกสารเป็นยังไงก็ตรวจสอบได้อยู่แล้ว ทุกประเทศทำแบบนี้ ให้เจ้าหน้าที่ กองทัพ เป็นฝ่ายตรวจสอบ" รองนายกฯ กล่าว

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ พล.อ. มนตรี สังขทรัพย์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ได้เดินทางเข้าพบพล.อ. สนธิ ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยยืนยันว่า ไม่ได้มีการหารือเรื่องเอกสารลับ และในขณะนี้ พล.อ.สนธิ อยู่ระหว่างประชุมคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติ ว่าด้วยการรณรงค์และการแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียง นัดแรก

ประดาบ


http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5949153/P5949153.html

ความคิดเห็นที่ 14

เพื่อความมั่นคง เขาทำกันอย่างนี้หรือ



จากคุณ : AldilaNV55 - [ 24 ต.ค. 50 13:08:11 A:203.146.63.189 X: ]


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=68954

นายกฯรับเอกสารลับเป็นของคมช.จริง

โดยทีมข่าว INN News 24 ตุลาคม 2550 12:50:19 น.

นายกรัฐมนตรี ยอมรับ เอกสารลับเป็นของคมช.จริง แต่แก้ต่างมีการสกัดกั้นและใช้ความรุนแรงกับพรรคพลังประชาชน



พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกฯและรัฐมนตรีฯมหาดไทย เปิดเผยว่า ตนได้เอกสารที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน นำมาเปิดเผยแล้ว โดยยอมรับว่าเอกสารดังกล่าวเป็นรายละเอียดการทำงานของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช.ในรอบ
1 ปีที่ผ่านมา พร้อมปฎิเสธว่าไม่มีข้อความหรือคำสั่งใดที่มีเนื้อหาเป็นการสกัดกั้นหรือใช้ความรุนแรงเพื่อทำลายพรรคพลังประชาชน หรือกลุ่มอำนาจเก่า ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางคมช.จะต้องมีการตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป

นอกจากนี้นายกฯ ยังเปิดเผยอีกด้วยว่าในการเลือกตั้ง 23 ธ.ค. นี้ทางรัฐบาลจะขอความร่วมมือจากคมช.ในการทำงานให้สอดคล้องกับรัฐบาลเพื่อช่วยสนับสนุนการจัดการเลือกตั้งของกกต.ให้มีความบริสุทธิ์และเป็นธรรมด้วย


http://www.posttoday.com/breakingnews.php?sec=breaking&id=199335

วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2550



"สนธิ"เผยทำเอกสารลับเพื่อความมั่นคง
--------------------------------------------------------------------------------

โดย Post Digital 24 ตุลาคม 2550 11:18 น.



รองนายกฯสนธิ โยน กองทัพชี้แจง เอกสารลับระบุหากมีจริง ก็เป็นเพื่อความมั่นคง ยืนยันไม่คิดสกัดกั้นพรรคพลังประชาชน

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติ ว่าด้วยการรณรงค์และการแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียง กล่าวถึง กรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เปิดเผยเอกสารลับที่มีรายละเอียดขัดขวางกลุ่มอำนาจเก่า ว่า ยังไม่เห็นเอกสารที่นายสมัครกล่าวอ้าง และไม่จำเป็นต้องประสานกับนายสมัคร แต่ยอมรับว่า คำสั่งในลักษณะนี้มีความจำเป็น และเคยมีการสั่งการตั้งแต่ในช่วงรัฐประหาร ซึ่งเป็นไปตามที่นานาประเทศทำกัน พร้อมยืนยันว่า ไม่เคยมีวัตถุประสงค์ในการสกัดกั้น ล้มพรรคพลังประชาชน แต่เป็นเหตุผลในเรื่องความมั่นคง อย่างไรก็ตาม กองทัพ จะเป็นผู้ตรวจสอบ และให้ความชัดเจนในเรื่องนี้

"ของจริง เป็นยังไง ก็เป็นแบบนั้น คำสั่งแบบนี้ทางกองทัพ ก็ทำมาเยอะ เป็นเรื่องของความมั่นคง เอกสารเป็นยังไงก็ตรวจสอบได้อยู่แล้ว ทุกประเทศทำแบบนี้ ให้เจ้าหน้าที่ กองทัพ เป็นฝ่ายตรวจสอบ" รองนายกฯ กล่าว



ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ พล.อ. มนตรี สังขทรัพย์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ได้เดินทางเข้าพบพล.อ. สนธิ ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยยืนยันว่า ไม่ได้มีการหารือเรื่องเอกสารลับ และในขณะนี้ พล.อ.สนธิ อยู่ระหว่างประชุมคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติ ว่าด้วยการรณรงค์และการแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียง นัดแรก


http://proxify.com/p/011010A1000110/687474703a2f2f68692d7468616b73696e2e6f72672f636f6e74656e7464657461696c2e7068703f506172616d49443d3734343134

ไม่รับ ไม่ปฏิเสธ เพราะไม่ใช่ลูกผู้ชาย
24/10/07 01:59 3498 61



เกินคาดจริงๆ สำหรับเอกสารลับที่ “ท่านพันเอก” นำมาให้ผมเผยแพร่แก่ประชาชน

เกินคาดที่หนึ่ง ก็คือ คุณสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาขน ก็ได้รับเอกสารชุดเดียวกันนี้ และได้นำมาเปิดเผยให้สื่อมวลชนทราบ พร้อมๆ กับที่ เวปไซต์ Hi-thaksin นำมาเสนอ แต่ไม่อาจคาดเดาได้ว่าสื่อแต่ละฉบับ แต่ละสถานี แต่ละช่อง แต่ละคน จะนำเสนอข่าวนี้ด้วยหัวใจที่เป็นธรรม และ ด้วยจิตวิญญาณของสื่อที่เป็นอิสระและเป็นกลางมากน้อยแตกต่างกันเพียงใด

เกินคาดที่สอง ก็คือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน มีปฏิกิริยาต่อข่าวเอกสารลับชิ้นนี้ รวดเร็วกว่าที่ผมคิด แต่เป็นไปตามที่ผมคาด ว่าต้องไม่รู้ไม่เห็น พูดออกมาได้อย่างไรว่าต้องไปถามคมช. ผมไม่เกี่ยวแล้ว เพราะผมไม่ได้เป็นประธานคมช. แล้ว

โธ่...ไอ้บังธิ จะตอแหลไปถึงไหน เอกสารลับฉบับแรก มีลายเซ็นจะๆ คาตา คาหนังสือสั่งการ เอกสารลับฉบับที่สอง คนทำหนังสือ เขียนไว้ชัดว่าได้รับคำสั่งจากประธานคมช. ให้ทำแผนปฏิบัติงาน จึงได้จัดทำโครงการพร้อมทั้งแผนปฏิบัติ รวม 8 หน้า เสนอประธานคมช. เพื่อพิจารณาอนุมัติ

วันที่เซ็นเอกสารฉบับแรก ก็เซ็นในฐานะประธานคมช.

วันที่เอกสารลับฉบับที่สองมาถึง ถูกเสนอมาเพื่อพิจารณา ก็ยังเป็นประธานคมช.

แล้ววันนี้ กลับมาบอกว่า ไม่เกี่ยว เพราะพ้นจากหน้าที่ประธานคมช. แล้ว

คนคนนี้ทำอะไรแล้วไม่เคยรับผิดชอบ กระทั่งบ้านเมืองพินาศย่อยยับไปกับตา ต่อหน้าต่อตาประชาชนทั้งประเทศ ก็ยังบอกได้ว่าไม่รู้ไม่เห็น ไม่เกี่ยวกับความฉิบหายของบ้านเมืองที่เป็นอยู่ในขณะนี้

เกินคาดที่สาม ก็คือ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เงียบกริบ ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ แสดงให้เห็นว่ารู้ร้อนรู้หนาวกับเรื่องฉาวๆ ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

เกินคาดที่สี่ ก็คือ นายอภิชาต สุขัคนานนท์ ประธานกกต. ยังหดหัวอยู่ในกระดอง ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นแม้แต่คำเดียว ในขณะที่ประชาชนคนธรรมดาที่เห็นเอกสารลับ 8 แผ่นนี้ แสดงความคิด ความอ่าน กันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว

เกินคาดที่ห้า ก็คือ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกคมช. หรือ “ไก่อู หน้าโง่” ที่ออกมาแสดงความเห็นครั้งใด เจ้านายตายเป็นเบือ พูดแต่ละคำ เหมือนย้ำรอยแผลที่แทงไม่ยั้งมือ ด้วยปากที่ไม่มีหูรูด และคำพูดที่ไม่ได้ผ่านแกนสมอง

“ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ หรือชี้แจงว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ ถ้าจริง ก็ไม่ใช่หน้าที่โฆษกคมช.ที่ต้องไปตอบว่าทำทำไม ไม่รู้ว่าชี้แจงไปแล้ว นายสมัคร จะเชื่อหรือไม่ ไม่อยากให้ความสำคัญ เพราะเป็นเชิงการเมืองหนึ่งเท่านั้น คิดว่าประชาชนเชื่อถือกองทัพมากกว่าอยู่แล้ว”

เกินคาดที่ ไก่อู ผู้ไม่เกี่ยว และไม่รู้เรื่อง ยังอุตส่าห์แบกหน้าโง่ๆ มาตอบโต้แทนเจ้านาย แต่ก็เป็นไปตามคาดว่าเมื่อไรที่ไก่อู ออกมาชี้แจง แบบคลุมๆ เครือๆ ปฏิเสธไม่เต็มปาก จะรับว่าใช่ก็ไม่ได้ แบบนี้แล้วล่ะก็ เท่ากับเป็นการยืนยันว่าเอกสารลับฉบับนี้ของจริง 100 เปอร์เซ็นต์

เทียบกับกรณี เนวิน ชิดชอบ กล่าวหาคมช.จับแก้ผ้า ตรวจค้นร่างกาย กักตัวไว้เหมือนนักโทษ ไก่อู งัดเอกสารลับของคมช.ออกมาโชว์ ว่า จัดที่กินที่อยู่ ให้เนวิน ชิดชอบ กินอิ่มนอนหลับแสนสบายในเรือนพักรับรองหลังใหญ่ อาหารการกิน ไม่ขาดตกบกพร่อง แต่ไม่ชี้แจงเรื่องจับแก้ผ้า ว่าจริงหรือไม่ ซึ่งครั้งนั้นสังคมก็จับโกหกได้แล้วว่า ระหว่าง ไก่อู กับ เนวิน ใครกันที่ตอแหล หลังจากที่ ยงยุทธ ติยะไพรัช ออกมาแฉซ้ำว่าถูกกระทำอย่างไรจากคมช. ไก่อู ก็กลายเป็นไก่ต้ม ก้มหน้าไม่กล้าเงย สู้ตาอดีตผู้ต้องขังของคมช. แม้แต่เสี้ยววินาที

เรื่องราวครั้งนั้น เป็นกรณีบุคคลกล่าวหาคมช. ละเมิดสิทธิมนุษยชน ไก่อู ตั้งหน้าตั้งตาแถลงข่าว จัดการกันใหญ่โต เชิญสื่อมารับฟังหลายสิบคน ทั้งชี้แจง ทั้งแสดงพยานหลักฐานเอกสารที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ หมาดๆ หมึกยังไม่แห้ง มาประกอบหลายสิบรายการ แต่ก็ไม่กล้าไปพิสูจน์ความจริงกับเนวิน ชิดชอบ ในศาลยุติธรรม

แต่ครั้งนี้ เป็นการถูกกล่าวหาโดยพรรคการเมือง ว่าคมช. แทรกแซงการเลือกตั้ง ทำลายพรรคการเมือง ทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตย ไก่อู กลับบอกว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ เป็นแค่ชั้นเชิงทางการเมือง คิดว่าประชาชนจะเชื่อกองทัพ ว่าไม่ได้สั่งการตามเอกสารลับฉบับนั้น แต่ก็เหมือนเคย ไก่อู ไม่ตอบว่า เอกสารลับฉบับนี้มีอยู่จริงหรือไม่

เวลา 1 วันกับ 1คืน ที่พล.อ.สนธิ ขอไปรวบรวมความทรงจำเมื่อครั้งอดีต ก่อนจะมาชี้แจงแถลงแก่สื่อมวลชน ว่าเอกสารลับทั้งสองฉบับนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร จึงหลุดไปถึงมือคุณสมัคร สุนทรเวช ได้ จะพอหรือไม่ ที่ไก่อู และคณะ จะไปทำเอกสารปลอม ย้อมเอกสารจริงให้กลายเท็จ ขึ้นมาชี้แจงแก่สื่อมวลชน ครั้นจะทำลาย ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะเลขที่หนังสือก็ปรากฏชัด คิดจะตัดออกจากสารบรรณหนังสือราชการ แม้จะไม่ใช่เรื่องยาก แต่จะปิดปากคนหลายคนที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ ไปแล้ว ต้องใช้เงินเท่าไร ยังคำนวณไม่ถูก ด้วยเหตุที่ไม่รู้ว่า มีการแจกจ่าย แจ้งเวียนให้ทราบไปแล้วกี่หน่วยงาน กี่ผู้ปฏิบัติงาน

คำชี้แจงของไกอู่ นี่ล่ะ ที่จะทำให้ประชาชนทั้งประเทศ เชื่อ 100 เปอร์เซ็นต์ว่า เอกสารลับฉบับนี้เป็นเรื่องจริง และคมช. หมดทางดิ้นอีกแล้ว จึงเลี่ยงที่จะตอบคำถามทุกคำถาม

อันว่าลูกผู้ชายชาติทหารนั้น มีคำกล่าวยกย่องสดุดีไว้มากมายว่า กล้าทำ กล้ารับ ตายเสียดีกว่าที่จะอยู่อย่างอับอาย เสียชีวิตในสงคราม มีเกียรติยิ่งกว่าต้องอยู่อย่างผู้แพ้ในค่ายของศัตรู แต่ สำหรับบังธิ กับ ไก่อู เจ้านายกับลูกน้องคู่นี้ ดูท่าจะไม่ใช่ลูกผู้ชายชาติทหาร เพราะ ชอบแอบทำ แอบแทงข้างหลัง กล้าทำ แต่ไม่กล้ารับ ไม่มีความสง่างามแต่อย่างใด เครื่องแบบทหารที่สวมใส่ หมองไปทั้งชุด เมื่ออยู่บนร่างของนายกับลูกน้องสองคนนี้

เอกสารลับที่ทำขึ้นมากับมือตัวเอง ทั้งไม่รับ ไม่ปฏิเสธ โยนไปให้คนอื่นรับผิดชอบแทน

นี่น่ะหรือ ผู้นำกองทัพไทย

นี่น่ะหรือ ผู้นำหน่วยทหาร

นี่น่ะหรือ ผู้นำประเทศไทย

เอาผ้าถุงมาใส่ ยังทำให้ผ้าถุงหมองหม่น

ไม่ควรแต่งทหารให้เสียเกียรติกองทัพบก อีกเลย

ผมจะรอพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ชี้แจงก่อนแล้ว จะเขียนถึงเรื่องนี้อีกรอบ

โดยเฉพาะข้อความที่เขียนไว้ในแผนว่า หากพรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้ง อาจจะมีการรัฐประหารอีกครั้งหนึ่ง นั้น ต้องเก็บรักษาไว้ให้ดีๆ เพราะนี่คือหลักฐานที่จะนำผู้กระทำความผิด คนสั่ง คนคิด คนเขียน คนปฏิบัติ ไปลงโทษข้อหาวางแผนล้มล้างรัฐบาล และรัฐธรรมนูญ อย่างชัดเจน แบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

อาการย่ามใจ คิดว่าเป็นใหญ่ในแผ่นดิน คิดอยากฉีกรัฐธรรมนูญ เมื่อไร ก็ฉีก คิดอยากจะทำรัฐประหาร เมื่อไรก็ทำ เพราะกฎหมายเอาผิดไม่ได้นี่เอง จึงทำให้กล้าที่จะเขียนข้อความว่าอาจจะมีการรัฐประหารอีกครั้งหนึ่ง ขึ้นมาอย่างเปิดเผย และโจ่งแจ้งเช่นนี้

ความผิดครั้งนี้ ไม่มีปราณี ไม่มีลดโทษ ใช่ไหมครับ

ประดาบ



http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=10013&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai

เว็บไซต์ Hi,Thaksin เปิดเอกสารลับ ‘ตารางงานปฏิบัติการข่าวสาร’ โดยคมช.


ที่มาภาพ : เว็บไซต์ไฮ-ทักษิณดอทเน็ต

ที่มาข่าวบางส่วน : เว็บไซต์คมชัดลึก เว็บไซต์แนวหน้า


















เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 50 ในเว็บไซต์ ไฮ – ทักษิณ ปรากฏบทความที่ผู้เขียนในนามแฝงว่า ‘ประดาบ’ เขียนบทความเรื่อง “เปิดคำสั่งลับคมช.กำจัดพลังประชาชน” ซึ่งเผยแพร่เอกสารราชการลับ เรื่อง “การปฏิบัติการข่าวสารตั้งแต่ปัจจุบันถึงวันปิดรับสมัครเลือกตั้ง”

เอกสารดังกล่าว เป็นบันทึกข้อความ ลงวันที่ 14 ก.ย. 50 ของแผนกปฏิบัติการข่าวสาร สปค. ศปศ. คมช. ซึ่งระบุว่าเป็นหนังสือลับ ด่วนมาก ส่งถึงผบ.ทบ. และประธานคมช. ลงนามโดย พ.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข รองจก.ยก.ทบ./ผช.หน.สปค.ศปศ.คมช. โดยมีเอกสารแนบ เป็นตารางประสานสอดคล้องการปฏิบัติข่าวสารคมช. โดยมีวัตถุประสงค์และภารกิจต่างๆ


หนึ่ง สร้างความรัก ความสามัคคีให้เกิดขึ้น ภาระงานคือ

- สร้างและส่งเสริมความสามัคคีให้เกิดในหมู่ประชาชน โดยใช้จุดมุ่งหมายร่วมเป็นศูนย์รวมจิตใจ

- ชี้ให้ประชาชนไทยทุกคนเห็นโทษของการแตกความสามัคคี

- สร้างกระแสให้ทุกฝ่ายต่อต้านการกลับมาของกลุ่มอำนาจเก่าผ่านทางพรรคพปช.


สอง ด้อยค่าการต่อต้านของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลและคมช. ภาระงานคือ

- ป้องกันมิให้ชนชั้นกลางมีแนวคิดเอนเอียงไปสนับสนุนกลุ่มต่อต้าน

- ชี้จุดด้อยของนโยบายประชานิยมให้ประชาชนรากแก้วได้รับทราบ/เข้าใจ

- สกัดกั้น/ลดแรงจูงใจมิให้ประชาชนรากแก้วเดินทางเข้าร่วมการชุมนุมในก.ท.

- จำกัดการเคลื่อนไหวของแกนนำกลุ่มต่อต้าน

- จำกัดมิให้จนท.ของรัฐสนับสนุนกลุ่มอำนาจเก่า


สาม สนับสนุนการรวมตัวกันของกลุ่มการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ภาระงานคือ

- ชี้ให้ประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งชนชั้นกลางเห็นข้อเท็จจริงในการรวมตัวของกลุ่มการเมืองต่างๆ

- ชี้ให้ประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งชนชั้นกลางเห็นความคล้ายคลึงกันของนโยบายอดีตพรรคทรท.และพปช.

- ชี้นำ/ชักจูงให้ประชาชนรากแก้วต่อต้านการกลับมาของกลุ่มอำนาจเก่าผ่านทางพรรคพปช. โดยแสดงให้เห็นว่านโยบายต่างๆ ของทรท. ซึ่งเป็นผลเสียต่อประเทศและประชาชนก็จะกลับมาด้วย

- ชี้ให้ทุกฝ่ายเห็นถึงความคดโกง/ทุจริต/ไม่ชอบธรรมของกลุ่มอำนาจเก่าซึ่งกำลังจะกลับมาพร้อมกับพรรคพปช.


สี่ ลดความหวาดระแวงในเรื่องการสืบทอดอำนาจ ป้องกันมิให้เกิดเงื่อนไขใหม่ๆ ภาระงานคือ

- ปชส.การปฏิบัติภารกิจอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภารกิจทางการเมืองเพื่อให้ประชาชนโดยเฉพาะประชาชนรากแก้วไว้วางใจทหาร

- ป้องกันมิให้เกิดเงื่อนไขที่ประชาชนรากแก้วจะเกลียดชัง/หวาดกลัวทหาร

- สร้างความเชื่อมั่นในทุกฝ่ายเห็นว่าจะไม่มีการสืบทอดอำนาจ

- ป้องกันมิให้เกิดเงื่อนไขใหม่ๆ เพื่อที่ทุกฝ่ายจะได้เกิดความมั่นใจในการไม่สืบทอดอำนาจ


สมัครร้อง เอกสารลับเล่นงานพปช.

นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เปิดแถลงข่าวระบุว่ามีเอกสารลับแผนทำลายพรรคพลังประชาชน โดยนำเอกสารลับทั้ง 2 ฉบับมาโชว์ พร้อมกับเปิดอ่านเนื้อหาสาระในเอกสารลับบางส่วนให้สื่อมวลชน แต่ไม่อนุญาตให้ดูอย่างใกล้ชิด โดยระบุว่าเป็นแผนปฏิบัติการของหน่วยราชการหน่วยงานหนึ่งที่มีตัวย่อ 3 ตัว จัดทำขึ้นในการกำหนดภารกิจ โดยใช้ชื่อว่า ”แผนสกัดไม่ให้กลุ่มอำนาจเก่ากลับมามีอำนาจ”

ทั้งนี้ เนื่องจากการประชุมพรรคเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม มีผู้ส่งเอกสารลับของหน่วยราชการมาให้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นเอกสารที่มีการรายงานให้ผู้บังคับบัญชาที่มีตัวตนจริงถึงวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา โดยเอกสารชิ้นแรกลงวันที่ 14 กันยายน เอกสารชิ้นที่ 2 ลงวันที่ 26 กันยายน

สำหรับช่วงดังกล่าวเป็นปฏิบัติการที่คาบเกี่ยวช่วงตั้งแต่วันลงประชามติจนถึงวันลงปิดรับสมัคร หรือถึงวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้ โดยในเอกสารมีการรายงานการสั่งการ พร้อมแผนการว่าจะดำเนินการอย่างไรกับพรรคพลังประชาชน (พปช.) และมีตารางชัดเจนว่าเป็นการประสานงานสอดคล้องปฏิบัติการข่าวสาร คมช. แม้ว่าจะออกจากราชการไปแล้วแต่งานยังคาบเกี่ยวกันอยู่

นายสมัคร กล่าวว่า เนื้อหาข้อมูลเป็นการรายงานผลการปฏิบัติภารกิจต่างๆ ตามแผน มีการเชิญชวนประชาชนให้ร่วมเฉลิมฉลองประชาสัมพันธ์ ร่วมเชียร์นักกีฬาช่วงกีฬาซีเกมส์ แผนจัดทำสกู๊ปข่าวพิเศษเรื่องวันทำรัฐประหาร 19 กันยายน ชี้ให้เห็นผลร้าย สาเหตุหนึ่งเน้นย้ำเกิดจากการแตกความสามัคคี ทำให้บ้านเมืองตกต่ำ


เผยแผนสกัดพปช.

โดยเนื้อหาภารกิจตอนหนึ่งว่า สกู๊ปข่าวชี้ให้ประชาชนเห็นว่ากลุ่มอำนาจเก่าทำเพื่อประโยชน์ของคนกลุ่มเดียว ไม่คำนึงผลเสียหายต่อประเทศชาติ รวมทั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลร้ายจากนโยบายประชานิยมในระยะยาวซึ่งพรรคพลังประชาชนจะนำกลับมาอีก รวมทั้งจัดชุดสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดตั้งจุดตรวจสกัดเส้นทางในการเข้าสู่กรุงเทพฯ จัดชุดเกาะติดแสดงกำลังกดดันแกนนำกลุ่มอำนาจเก่า

นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคพลังประชาชนต้องคดีทุจริตแม้จะชนะเลือกตั้งก็จะต้องโทษ และไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี หรือหากพรรคพลังประชาชนจะชนะเลือกตั้งก็ไม่สามารถเป็นรัฐบาลได้ ตลอดจนสร้างความวุ่นวายให้ประเทศ หากทำตามนโยบายที่ประกาศไว้นิรโทษกรรมอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และยุบคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรจะออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้งจนนำไปสู่การทำรัฐประหารอีก นายสมัคร ยังระบุอีกว่ากำหนดนโยบายให้ทุกพื้นที่สื่อต่างๆ กับทุกพรรค ยกเว้นพรรคพลังประชาชน จะถูกจับตาดูอย่างใกล้ชิด รวมทั้งมีแผนปฏิบัติการนอกระบบในการให้ข่าวลือโดยใช้สื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาอยู่เบื้องหลังอย่างไรและข้อมูลต่างๆ


จวกเลวทรามจ้องเล่นงาน"แม้ว"ไม่เลิก

“ผมมองว่าทำไมข้าราชการระดับสูงถึงทำเรื่องต่ำเลวทรามเช่นนี้ เมื่อปฏิวัติแล้ว ก็เอาผิดเขาไม่ได้ ก็ใช้วิธีตามล้างตามเช็ด ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ทำเลวทรามกับบ้านเมืองด้วยการร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เห็นได้ชัดว่าเป็นการคิดสกปรก เล่นการเมืองทางลัด ผมอ่านเอกสารดูแล้ว เห็นชัดว่าต้องเป็นคนใจคอสกปรกถึงทำเอกสารเช่นนี้ได้ เท่าที่ตรวจสอบดูเป็นนายทหารยกพันเอก ที่เป็นคนรับปฏิบัติการจากหน่วยงาน 3 ตัวย่ออีกที" นายสมัคร กล่าว

นายสมัคร ระบุด้วยว่าได้ข้อมูลว่าพูดถึงขั้นให้เด็ดหัว ไอ้ตัวคนที่เป็นหัวหน้าพรรคซึ่งก็หมายถึงตน จะได้สิ้นเรื่อง ซึ่งเมื่อดูจากเหตุการณ์ที่ จ.แพร่ ไม่ต้องดู ก็รู้ว่าเป็นของจริง เป็นแผนสกัดที่เล่นกันถึงขั้นรุนแรงเอาเป็นเอาตาย ที่มาบอกตรงนี้ไม่ได้กลัวหรือถอย เราไม่ถอย เพียงแต่อยากจะร้องทุกข์กับประชาชนให้สังคมรับรู้ว่าพรรคพลังประชาชนกำลังถูกอำนาจนอกระบบจัดการอยู่

ทั้งนี้ ตนไม่เคยประกาศว่าจะไปล้างแค้นใคร อดีตนายกฯ ก็ไม่ได้ประกาศล้างแค้นเช่นกัน ทำไมถึงร้อนตัวกันไปเอง ทำอะไรไว้แล้วคิดว่าจะเป็นอย่างนั้น

“ผมประกาศเลยว่า ไม่อยากจะไปแตะต้องคนสกปรกพวกนี้ มันเป็นเอง มันโดนมันตายเอง ขอแนะนำให้ไปอ่านหนังสือเรื่อง ”ไม่อยากเล่า”แล้วจะรู้ว่าคนที่เล่นสกปรกกับผมจะได้รับผลอย่างไร ไม่ได้โฆษณาขายหนังสือ แต่ต้องพูดไว้เพราะเป็นโอกาสเดียว พรุ่งนี้อาจไม่ได้พูด

ด้าน พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนออกมาเปิดเผยเอกสารสารลับจากหน่วยราชการหนึ่งซึ่งมีอักษรย่อ 3 ตัวที่มีแผนการสกัดกั้นไม่ให้พรรคพลังประชาชนจัดตั้งรัฐบาลว่า ยังไม่เห็นเอกสารดังกล่าว คงต้องไปสอบถามเรื่องนี้จาก คมช.ว่า เป็นอย่างไร เพราะตนได้ลาออกจากประธานคมช. ถือว่าหมดหน้าที่ตรงนั้นแล้ว และในวันที่ 24 ต.ค.นี้จะชี้แจงเรื่องนี้อีกครั้ง

เมื่อถามว่า ต่อไปหากมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคมช.จะดำเนินการอย่างไร พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ให้ไปสอบถามคมช.เอง เมื่อถามว่าเหตุใดเอกสารดังกล่าวจึงหลุดออกมาได้ พล.อ.สนธิ ยิ้มและปฏิเสธที่ตอบคำถาม ก่อนเดินเลี่ยงผู้สื่อข่าวไป

ด้านพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก คมช.กล่าวว่าตนยืนยันไม่ได้ว่าเอกสารนั้นจริงหรือไม่จริงอย่างไร สมมุติหากเอกสารที่นายสมัครออกมาแฉเป็นเอกสารจริง ก็ไม่ถูกต้องที่ตนจะเอารายละเอียดมาชี้แจงว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ และหากสมมุติว่าเป็นเอกสารไม่จริง ก็จะมีการไปสืบต่ออีกว่า แล้วที่จริงมันเป็นอย่างไร ซึ่งจะทำให้ไม่รู้จักจบจักสิ้น

“คงเป็นการพยายามทำลายความน่าเชื่อถือกองทัพ หากเราไปเต้นตามกระแสจะทำให้นายทหารหรือผู้ที่เกี่ยวข้องเอกสารเหล่านั้นมาเปิดเผย ก็จะนำเอกสารอื่นมาเปิดเผยกันอีกไม่มีวันสิ้นสุด ดังนั้นกองทัพและ คมช. คงจะตรวจสอบไปตามขั้นตอน” โฆษก คมช.กล่าว

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า คมช.ไม่มีความจำเป็นต้องไปชี้แจงนายสมัคร เพราะไม่รู้ว่าเมื่อชี้แจงไปแล้วเขาจะเชื่อหรือไม่ การเปลี่ยนแนวความคิดของคนที่เชื่อแบบหนึ่งเพื่อให้เกิดความเข้าใจและเชื่ออีกแบบหนึ่งคงเป็นเรื่องยาก เหมือนกับกลุ่มพีทีวี.ที่พยายามชี้แจงมาตลอดว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชาชน ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนใจคนบางกลุ่มที่ยังเชื่อมั่นว่า 2 กลุ่มนี้มีความเกี่ยวข้องกัน

เมื่อถามว่า จะมีการตรวจสอบเอกสารดังกล่าวหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า คงตรวจสอบกันตามหน้าที่ แต่ไม่อยากให้ความสำคัญ ถือว่าเป็นเชิงการเมืองอย่างหนึ่ง เมื่อถามว่า ถือเป็นอีกครั้งที่เอกสารทางราชการหลุดออกมา พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เป็นบทเรียนเพราะเราวิตกกับเรื่องเหล่านี้มากเกินไป จึงมีเอกสารหลุดออกมาซึ่งไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ ทางที่ดีที่สุดคืออย่าไปให้ความสนใจจะดีที่สุด และเชื่อว่าคนส่วนใหญ่เข้าใจกองทัพ

เมื่อถามว่า หากเป็นเอกสารปลอมจะฟ้องร้องหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เราไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ แต่คงมีการตรวจสอบว่าจริงหรือไม่จริงอย่างไร เมื่อถามว่า ต่อไปต้องเข้มงวดการเก็บเอกสารมากขึ้น พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เป็นปกติเพราะเป็นเรื่องความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ดังนั้นต้องมีกลุ่มคนที่พยายามดำเนินการทางลับและไม่ลับ คงไปห้ามลำบากที่จะป้องกันไม่ให้มีการรั่วไหล

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ปัจจุบันกองทัพมีความชัดเจนพยายามไม่เข้าไปวุ่นวายกับการเมือง การตกลงใจจะเลือก ส.ส.ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของประชาชนหากพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมด้วยความบริสุทธิ์ ก็ไม่เห็นมีอะไรที่น่าตกใจ


--------------------------------------------------------------------------------
โดย : ประชาไท วันที่ : 24/10/2550



http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=10013&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai

เว็บไซต์ Hi,Thaksin เปิดเอกสารลับ ‘ตารางงานปฏิบัติการข่าวสาร’ โดยคมช.

ที่มาภาพ : เว็บไซต์ไฮ-ทักษิณดอทเน็ต

ที่มาข่าวบาวส่วน : เว็บไซต์คมชัดลึก เว็บไซต์แนวหน้า

http://hi-thaksin.net/contentdetail.php?ParamPage=2&ParamID=74383

เปิดคำสั่งลับคมช.กำจัดพลังประชาชน



อ่านบทความตอนที่แล้ว

มาแล้วครับ เอกสารลับทั้ง 8 หน้าที่ผ่านการตรวจสอบแล้วว่า เป็นของจริง เป็นความจริง เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเป็นอันตรายต่อพรรคพลังประชาชน ที่ตกเป็นเป้าสังหารของคมช. ในการเลือกตั้งวันที่ 23 ธันวาคม 2550 นี้

ดู และ อ่าน กันให้ละเอียด ทุกตัวอักษร ทุกถ้อยคำ ทุกการกระทำที่ตระเตรียมไว้ในแผน ปฏิบัติการทำลายพรรคพลังประชาชน แล้วขอได้โปรดช่วยกันแสดงความคิดเห็นกันอย่างเต็มที่ กว้างขวาง และ พูดได้ดังที่ใจของท่านอยากจะพูด อยากจะแสดงออก

วันพรุ่งนี้ ผมจะมาคุยด้วย จะมาแสดงความคิดเห็นของผมให้ได้อ่าน เพื่อแลกเปลี่ยนกัน

ผมอยากให้ทุกท่านได้แสดงความคิดเห็น อย่างเป็นอิสระ โดยไม่ถูกชี้นำจากผู้ใดทั้งสิ้น

มีหลายท่านแนะนำให้ผมนำเอกสารทั้ง 8 หน้านี้ส่งไปให้คุณสมัคร สุนทรเวช หรือ ผู้บริหารพรรคพลังประชาชน ผมเชื่อว่าหลังจากที่เอกสารทุกหน้าปรากฎในเวปไซต์นี้แล้ว หากผู้บริหารพรรคพลังประชาชน จะนำไปดำเนินการตามความเหมาะสม ตามสมควร ก็ดำเนินการได้เลย โดยที่ผมไม่ต้องนำไปมอบให้ และผมเชื่อว่า พรรคพลังประชาชน ไม่ยอมอยู่แบบงอมืองอเท้าให้ถูกรังแกข้างเดียวโดยไม่ต่อสู้อย่างแน่นอน

แต่ที่ผมอยากเห็นมากกว่าปฏิกิริยาของพรรคพลังประชาชน ก็คือ อาการ ท่าที ของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี นายอภิชาติ สุขคนานนท์ ประธานกกต. ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร และจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เมื่อประชาชนได้ทราบแผนการชั่วร้ายของคมช. ที่มีต่อพรรคพลังประชาชน แล้ว

เมื่อวันนี้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้สั่งให้เตรียมแผนปฏิบัติการอันชั่วร้ายนี้ ได้กลายมาเป็นรองนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่โดยตรงเกี่ยวกับการป้องกันการซื้อเสียงเลือกตั้ง และรณรงค์ให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม

ผมกำลังรอดูว่า ประธานกกต. และ นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง และเป็นผู้มีหน้าที่ปฏิบัติรักษาการตามพระราชกฤษฎีกา จะมีอาการเช่นไร กับเอกสารลับชุดนี้

สำหรับผมแล้ว เรื่องลับที่ถูกนำมาเปิดเผยในครั้งนี้

แม้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ จะปลดพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน จะลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติ ว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียงตำแหน่ง ก็ยังไม่เพียงพอ ต้องปลดพล.อ.สนธิ ออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และไม่ให้มีหน้าที่ยุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น อีกต่อไป ในทุกๆ ส่วน

เกือบลืมไป คนสำคัญอีกคนที่ผมอยากเห็นว่าจะแสดงอาการอย่างไร ก็คือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งได้ประกาศนโยบายนำทหารกลับเข้ากรมกอง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง จะแสดงความจริงใจต่อคำพูดของตนเองให้ประชาชนเห็นอย่างไร หรือจะแสดงความซื่อสัตย์ต่อพล.อ.สนธิ ด้วยการให้หน่วยต่างๆ ในกองทัพบก ปฏิบัติรับใช้ตามคำสั่งที่ปรากฎนี้ ด้วยความภักดี ต่อไป

สุดท้าย ผมอยากเห็นอาการของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร มีอาการอย่างไร มีความรู้สึกร้อนหนาวอย่างไรกับการกระทำของพล.อ.สนธิ ในครั้งนี้

การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 นี้ ยังจะเป็นที่เชื่อถือได้หรือไม่ ว่า สุจริต และเที่ยงธรรม

คนเดียวที่ผมไม่คาดคิดว่าจะแสดงอาการ แสดงความคิดเห็น แสดงให้เห็นว่ารู้ร้อนรู้หนาวกับสิ่งที่เกิดขึ้น กระทั่งแสดงความรับผิดชอบกับเอกสารชุดนี้ ผมก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น ก็คือ

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคมช. ผู้กระทำการอันอัปยศให้แก่กองทัพ และ ทำลายระบอบประชาธิปไตย อย่างไม่หยุดหย่อน

เพราะจอมเผด็จการอย่างพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ย่อมไม่มีสำนึกแห่งประชาธิปไตย อยู่ในหัวใจ เช่นประชาชนคนทั่วไป แบบเราๆ ท่านๆ ทั้งหลาย

ดาวน์โหลดเอกสารคลิกที่นี่

























http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=68823

'สนธิ'ปัดไม่รู้แผนล้มพปช.โบ้ยไปถามคมช.พร้อมแจงพรุ่งนี้

โดยทีมข่าว INN News 23 ตุลาคม 2550 18:03:51 น.

รองนายกฯ สนธิ ปฏิเสธไม่ทราบกรณีเอกสารลับแผนล้มพรรคพลังประชาชน ที่ สมัคร สุนทรเวช ออกมาแฉเผย เตรียมชี้แจงพรุ่งนี้



พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ออกมาเปิดเผยเอกสารลับซึ่งเป็นแผนจ้องล้มพรรคพลังประชาชน โดย พล.อ.สนธิ ทำหน้ายิ้ม ๆ พร้อมกล่าวว่า ตนเองไม่ทราบ ต้องไปถามคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เมื่อถามย้ำว่าเอกสารที่ออกมาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นสมัยที่ พล.อ.สนธิ เป็นประธาน คมช. พล.อ.สนธิ กล่าวย้ำว่า ไม่ทราบ ต้องไปถาม คมช.

ทั้งนี้ได้ตั้งข้อสังเกตหรือไม่ว่า ทำไมนายสมัคร นำเอกสารตราหัวลับมากออกมาเปิดเผยได้ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ตนเองยังไม่เห็นเอกสาร ให้ไปถาม คมช. เพราะตนเองพ้นหน้าที่มาแล้ว เอาไว้ค่อยชี้แจงพรุ่งนี้


http://www.prachatai.com/webboard/topic.php?id=505104

จากเว็บบอร์ด ประชาไท สังคมและการเมือง

--------------------------------------------------------------------------------
โพสต์: tiger101

ID#505104 เมื่อ: 2550-10-23 14:20:30

นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าววันนี้ (23 ต.ค.) ว่า ได้รับเอกสารลับจากหน่วยราชการ ที่มีอักษรย่อ 3 ตัว มีผู้รับคำสั่งเป็นนายทหารระดับพันเอก ว่า เอกสารดังกล่าวมีเนื้อหาแผนปฏิบัติการให้สกัดกั้นและจัดการกับขั้วอำนาจเก่า โดยมีความพยายามที่จะทำลายล้างพรรคพลังประชาชน ด้วยวิธีการนอกระบบ ตั้งแต่การออกสื่อให้ข้อมูลลดความน่าเชื่อถือของนโยบายประชานิยม และการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของพรรคพลังประชาชน รวมทั้งผลเสียหากพรรคพลังประชาชนได้เป็นรัฐบาล ตลอดจนชี้ให้เห็นว่า พรรคพลังประชาชนไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

"สุดท้ายรุนแรงถึงขั้นเอาชีวิต โดยได้ยินมาว่า ให้เด็ดหัวตัวคนที่เป็นหัวหน้าพรรค หมายถึงผมให้สิ้นเรื่องสิ้นราว" หัวหน้าพรรคพลังประชาชนกล่าว และว่า ขอยืนยันว่าเอกสารข้อมูลที่ได้รับมาเป็นของจริง หากทางรัฐบาล หรือ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) อยากได้ข้อมูล ให้ติดต่อมาที่ตน ตนพร้อมจะเปิดเผยข้อมูล

หัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวต่อกรณีมีความพยายามในการรวมพรรคของพรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรคประชาราช และ พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ว่า ตนไม่สามารถบอกได้ว่า เป็นแผนขั้นที่ 4 ขั้นที่ 5 ของฝ่ายทหารหรือไม่ ที่จะเป็นการส่งสัญญาณให้พรรคต่างๆ โดดเดี่ยวพรรคพลังประชาชน ส่วนตัวมองว่า เท่าที่ติดตามสถานการณ์ของกลุ่มของพรรคการเมืองที่จะรวมพรรคในขณะนี้คล้ายกับตลกในรายการก่อนบ่ายคลาย

http://www.thairath.com/online.php?section=newsthairathonline&content=65588



ปีที่ 58 ฉบับที่ 18172 วันอังคาร ที่ 23 ตุลาคม 2550 เกี่ยวกับไทยรัฐ มูลนิธิไทยรัฐ ศูนย์ข้อมูลไทยรัฐ

:. หน้าแรกไทยรัฐ .: ข่าวประจำวัน คอลัมน์ประจำวัน เดลี่@เวบ สายตรงต่างแดน ร่วมงานกับไทยรัฐ ติดต่อโฆษณา

การเมือง เศรษฐกิจ กีฬา บันเทิง วิทยาการ สังคม-สตรี การศึกษา การเกษตร ต่างประเทศ กทม.



แฉเอกสารลับราชการ ใบสั่ง'ตาย'หัวหน้า พปช. [23 ต.ค. 50 - 12:30]



นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าววันนี้ (23 ต.ค.) ว่า ได้รับเอกสารลับจากหน่วยราชการ ที่มีอักษรย่อ 3 ตัว มีผู้รับคำสั่งเป็นนายทหารระดับพันเอก ว่า เอกสารดังกล่าวมีเนื้อหาแผนปฏิบัติการให้สกัดกั้นและจัดการกับขั้วอำนาจเก่า โดยมีความพยายามที่จะทำลายล้างพรรคพลังประชาชน ด้วยวิธีการนอกระบบ ตั้งแต่การออกสื่อให้ข้อมูลลดความน่าเชื่อถือของนโยบายประชานิยม และการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของพรรคพลังประชาชน รวมทั้งผลเสียหากพรรคพลังประชาชนได้เป็นรัฐบาล ตลอดจนชี้ให้เห็นว่า พรรคพลังประชาชนไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

"สุดท้ายรุนแรงถึงขั้นเอาชีวิต โดยได้ยินมาว่า ให้เด็ดหัวตัวคนที่เป็นหัวหน้าพรรค หมายถึงผมให้สิ้นเรื่องสิ้นราว" หัวหน้าพรรคพลังประชาชนกล่าว และว่า ขอยืนยันว่าเอกสารข้อมูลที่ได้รับมาเป็นของจริง หากทางรัฐบาล หรือ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) อยากได้ข้อมูล ให้ติดต่อมาที่ตน ตนพร้อมจะเปิดเผยข้อมูล

หัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวต่อกรณีมีความพยายามในการรวมพรรคของพรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรคประชาราช และ พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ว่า ตนไม่สามารถบอกได้ว่า เป็นแผนขั้นที่ 4 ขั้นที่ 5 ของฝ่ายทหารหรือไม่ ที่จะเป็นการส่งสัญญาณให้พรรคต่างๆ โดดเดี่ยวพรรคพลังประชาชน ส่วนตัวมองว่า เท่าที่ติดตามสถานการณ์ของกลุ่มของพรรคการเมืองที่จะรวมพรรคในขณะนี้คล้ายกับตลกในรายการก่อนบ่ายคลายเครียด


http://proxify.com/p/011010A1000110/687474703a2f2f68692d7468616b73696e2e6f72672f636f6e74656e7464657461696c2e7068703f506172616d49443d3734333732

ฉิบหาย! "สนธิ"ทิ้งทวนปักธงรบศึกเลือกตั้ง
22/10/07 11:26 4661 48



(คลิ๊กอ่านเอกสาน"ลับ"ที่นี่)
ดังที่ "ประชาทรรศน์" เคยนำเสนอเอกสาร "ลับมาก" ของฝ่ายทหารไม่ว่าจะเป็น กอ.รมน. กองทัพภาคที่ 1 ฯลฯ ที่มีคำสั่งให้กำลังพลลงพื้นที่ปฏิบัติการสกัดกั้นกลุ่มการเมืองบางกลุ่ม ที่เป็นฝ่ายตรงข้าม ร่วมกับ นายก อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในช่วงของการลงประชามติรับ-ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ รวมถึงคำสั่งให้มีการดิสเครดิตกลุ่มอำนาจเดิม มาแล้ว

พฤติกรรมดังกล่าวได้สร้างความกังวลสงสัยในตัว พล.อ.สนธิ และกองทัพมากยิ่งขึ้น ว่าจะมีปฏิบัติการแบบเดียวกันในการเลือกตั้งครั้งที่กำลังจะมาถึงนี้หรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อ พล.อ.สนธิ พยายามทุกหนทางที่จะเข้ามามีบทบาทเหนือการเลือกตั้ง

ในที่สุดก็มีความกระจ่างมากขึ้น เมื่อพบว่า คมช. ได้มีคำสั่งให้ทหารทำการรณรงค์เกี่ยวกับการเลือกตั้ง มีแนวทางคล้ายกับเมื่อคราวลงประชามติ ที่มุ่งสกัดกั้นฝ่ายตรงกันข้าม และสนับสนุนกลุ่มการเมืองบางกลุ่มตามแนวทางของผู้บังคับบัญชา ไม่ได้เป็นการรณรงค์ด้วยความเป็นกลางดังที่กล่าวอ้าง

เอกสารที่ คมช 0002/1492 ดังกล่าวถูกเสนอขึ้นมาโดย พล.อ.วินัย ภัททิยกุล เลขาฯ คมช. ถึง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่ยังเป็นประธาน คมช. อยู่ในขณะนั้น โดยพล.อ.สนธิ ได้ลงนามอนุมัติเมื่อ 28 กันยายน 2550 เป็นการลงนามทิ้งทวนก่อนลาออกเพื่อมารับตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงเพียงไม่กี่วัน

เนื้อหาในเอกสารดังกล่าวเป็นการสรุปความผิดพลาดจากการการเคลื่อนไหวในการลงประชามติ และแนวทางในการณรงค์สำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

เอกสารระบุว่าข้อผิดพลาดในครั้งนั้นเกิดจากระยะเวลาในการณรงค์มีจำกัด งบประมาณไม่ทันต่อการปฏิบัติและไม่เพียงพอ ทำให้การปฏิบัติของชุดวิทยากรไม่สามารถ "ชี้นำ" ให้รับร่างรัฐธรรมนูญได้

สืบเนื่องกันกองทัพได้จัดให้มีโครงการรณรงค์ต่อต้านการซื้อเสียง ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตุว่าเสมือนเป็นการต่อสู้ทางยุทธวิธี เป็นการ "สร้างสนามเลือกตั้งให้เป็นสนามรบ" ดังจะเห็นได้จากรายละเอียดในเอกสารบันทึกการเตรียมการโครงการรณรงค์ต่อต้านการซื้อเสียง

ในการประชุมเตรียมการครั้งแรก มีข้อความที่น่าสนใจหลายข้อ อาทิ ข้อ 1. ต่างพื้นที่ ต่าง "การรบ/ยุทธวิธี" ต้องวิเคราะห์ฝ่ายตรงข้ามให้ชัดเจนว่ามีขีดความสามารถแค่ไหน จึงสามารถวางแผนใช้กำลังหรือกลยุทธได้ ทั้งยังระบุด้วยว่าต้องดูว่าทำอย่างไรจึงจะไม่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง

รวมทั้งในข้อ 7. ยังระบุให้เสนอทหารเข้าเป็นกรรมการในหน่วยเลือกตั้ง ข้อ 14. ในการจัดอบรมให้ดึงเอาผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่นมาร่วมรับฟังด้วย โดยคัดเลือกวิทยากรที่มีแนวทางเดียวกับฝ่ายทหาร และเพื่อไม่ให้เกิดความน่าเบื่อให้เสนอเรื่องปากท้อง เรื่องใกล้ตัวอื่นๆ ก่อน แล้วจึงค่อยสรุปเรื่องที่ทหารต้องการจะให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ข้อ 16. ให้ประสานงานกับ กกต. แล้วแบ่งงานกันทำ โดยงานในทางเปิดเผยให้ กกต. ทำ ส่วนในทาง "ลับ" ทหารจะเป็นฝ่ายทำ หรือในข้อ 18. ระบุว่าในการอบรมรณรงค์ ควรจะมีการ "ชี้นำ/แกมบังคับ" ให้เลือกหมายเลขที่ต้องการเลย และให้ไปชักชวนญาติพี่น้องของตนเองด้วย โดยหาข้อมูลความดีของบุคคลที่เราชี้นำมาชี้แจงกำลังพล

นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่าจะต้องดูผู้บังคับบัญชาด้วยว่าต้องการให้เลือกพรรคการเมืองใด

ขณะที่การประชุมเตรียมการโครงการรณรงค์ต่อต้านการซื้อเสียง ครั้งถัดมาก็มีหลายประเด็นที่น่าสนใจ และสะท้อนถึงความไม่บริสุทธิ์ ยุติธรรม และความไม่เป็นธรรม ที่จะเกิดขึ้นกับการเลือกตั้งชัดเจน

โดยมีการระบุไว้ในวัตถุประสงค์ว่าจะต้องทำอย่างไรให้รู้ว่าใครเป็น "ฝ่ายเรา" โดย คมช. ต้องวิเคราะห์แต่ละพื้นที่ภาคต่างๆ ของไทยว่าภาคไหนมีแนวโน้มเป็นฝ่ายเรา หรือ "ฝ่ายตรงข้าม" แล้วจึงกำหนดกำลังวิทยากรเข้าไปใน "พื้นที่ข้าศึก" เพื่อการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ

ไม่ "รบมั่ว" และใช้เครื่องมือไม่คุ้มค่า รวมทั้งระบุว่าต้องดูว่า "ผู้บังคับบัญชาต้องการให้เลือกพรรคการเมืองใด"

แนวทางตามเอกสารของ คมช. ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นได้ชัดเจนว่า การที่ทหารอกมาระบุถึงการรณรงค์เพื่อต่อต้านการซื้อเสียงนั้น เป็นเพียงฉากบังหน้า แต่แท้ที่จริงแล้วทหารต้องการเข้ามาชี้นำการเลือกตั้ง โดยการสกัดกั้นกลุ่มการเมืองบางกลุ่มที่เป็นฝ่ายตรงกันข้าม และสนับสนุนพรรคการเมืองบางพรรค

(อ่านรายละเอียดข่าว และเอกสารลับครบถ้วนทุกหน้า ใน "ประชาทรรศน์" รายสัปดาห์ ฉบับประจำวันที่ 27 ตุลาคม-2 พฤศจิกายน 2550 บนแผงหนังสือทั่วประเทศ)

ขณะเดียวกัน นายวรพล พรหมิกบุตร อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวในการสัมมนา "การใช้อำนาจตามระบอบรัฐประหาร คมช. กับแนวโน้มความไม่เป็นธรรมในการเลือกตั้งทั่วไป" ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ซึ่งจัดโดย คณะนักวิชาการเพื่อประชาธิปไตยและสันติวิธี (คปส.) ระบุว่าในช่วงการรณรงค์ให้ประชาชนไปลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2550 มีข้อมูลจากประชาชนรากหญ้า และองค์กรพันธมิตร นักวิชาการจากจังหวัดต่างๆ ว่ามีการปฏิบัติงานของภาครัฐที่เป็นระบอบรัฐประหารในขณะนั้น ให้เจ้าหน้าที่การข่าวของกอ.รมน.ทั้งในระดับภาค ระดับจังหวัด และกรุงเทพ ใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทย โดยผ่านองค์กรปกครอง โดยเชื่อมองค์กรปกครองท้องถิ่นทั้งอบต. อบจ. สามารถบ่งชี้และสันนิษฐานไว้ว่าบิดเบือนการทำประชามติให้เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลและสภาร่างรัฐธรรมนูญขณะนั้นร่วมกันตาม คมช. ต้องการ

จนเมื่อหนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์นำเอกสารของกอ.รมน.กับกองทัพภาคที่ 1 มาเปิดเผย ซึ่งเป็นสำเนาเอกสารที่ประทับตราว่า "ลับมาก" เอกสารดังกล่าวสรุปประเด็นได้ว่า เอกสารนี้เป็นเอกสารของฝ่ายการข่าว ปฏิบัติการในลักษณะที่เป็นปฏิบัติทางฝ่ายทหาร ที่เรียกว่า ไอโอ หรือเรียกว่าสงครามจิตวิทยา ซึ่งเป็นลักษณะข้อความชวนเชื่อ

ซึ่งการกระทำเช่นนี้จะมุ่งไปสู่การเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรม ตามที่มีการวิจารณ์กันของสื่อมวลชนทั้งกระแสหลักและทางเลือกว่า รัฐบาลมีการใช้อำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่ง ที่ใช้ชื่อว่า คณะกรรมการการดำเนินงานแห่งชาติตามวาระการรณรงค์แก้ปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียง โดยให้พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานคณะกรรมการชุดนี้ ซึ่งเป็นการใช้อำนาจทับซ้อนกับอำนาจองค์กรอิสระคือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

ทั้งนี้ รัฐบาลปัจจุบันมีการปฏิบัติงานแบบรวมอำนาจให้อยู่ในกลุ่มเดียว เค้าโครงนี้อาจเรียกได้ว่าไม่ใช่รัฐบาลแต่เป็นรัฐทหาร ที่เริ่มการความชัดเจนในการใช้อำนาจบริหารการปกครองแฝงในภาครัฐมากขึ้นเรื่อยๆ
ขณะเดียวกันในประเด็นของ พรบ.การรักษาความมมั่นคงภายในราชอาณาจักร ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบไปเมื่อ 16 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น แม้ว่าวิป สนช. จะขอให้มีการนำกลับไปทบทวนในประเด็นการริดรอนสิทธิ และในประเด็นการควบคุมตัวก็ตาม แต่ก็ยังเป็นที่กังวลของหลายฝ่าย โดยเฉพาะผลกระทบที่จะเกิดขึ้นทั้งในช่วงที่จะมีการเลือกตั้งและหลังจากนั้น

โดยในวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา องค์กรสิทธิมนุษยชน 14 องค์กร อาทิ คณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน (ครส.) สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) องค์การ Human Rights Watch องค์การ Amnesty International Thailand ฯลฯ ได้จัดการเสวนา "รวมพลังคัดค้าน พรบ.ความมั่นคง" และร่วมกันแถลงข่าวระบุว่าต้องต่อสู่เพื่อความถูกต้อง

ทั้งนี้ องค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งหมด มีความเห็นร่วมกันว่า แม้จะมีการปรับปรุงแก้ไขร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวแล้ว โดยเปลี่ยนนายกรํฐมนตรีมาเป็นผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.กอ.รมน.) แทนผู้บัญชาการทหารบกดังกล่าวที่ระบุไว้ในร่างกฎหมายเดิมแล้วแต่นายกรัฐมนตรีก็สามารถมอบอำนาจให้ผู้บัญชากองทัพบกในฐานะ รอง ผอ.รมน.ใช้อำนาจแทนได้ และเนื้อหาของร่างกฏหมายดังกล่าวยังให้อำนาจทหาร หรือ กอ.รมน. ใช้อำนาจในสภาวะการปกติในทุกพื้นที่ที่อาจกระทบกระเทือนต่อสิทธิเรีภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง

ยิ่งไปกว่านั้น การใช้อำนาจ ของ กอ.รมน. สามารถจำกัดและริดรอนอำนาจการตรวจสอบของศาล เท่ากับเป็นการตัดอำนาจของศาลยุติธรรมในการเยียวยาและมีความยุติธรรมต่อประชาชน

พร้อมกันนี้จึงได้ฝากข้อเรียกร้องถึง พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตนกลิน รวมถึง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ดังนี้

1. ขอให้รัฐบาลของ พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ คณะรัฐมนตรี และสมาชิกนิติบัญญัติแห่งชชาติ ยุติการผลักดันร่าง พรบ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักรโดยทันที เพื่อให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งครั้งหน้า เป็นผู้พิจารณาเหตุผลด้านความมั้นคงภายในแทนกองทัพ

2. การออกกฏหมายดังกล่าว จะเป็นผลเสียต่อกองทัพและการเมืองไทยในระยะยาว จะทำให้สังคมการเมืองไทยเป็นสังคมกึ่งเผด็จการ ที่มีการเลือกตั้ง เป็นเพียงฉากหนึ่งในละครของระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น ทางองค์กรจึงขอเรียกร้องให้ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ซึ่งมีส่วนเสียต่อกฏหมายดังกล่าว ออกมาชี้แจงความชัดเจนของกองทัพต่อสาธารณะด้วย

3. เรียกร้องให้ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หยุดการสนับสนุนร่างกฏหมาบฉบับนี้ เพราะเป็นร่างกฏหมายที่อาจขัดต่อเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ 2550 รวมทั้งยังขัดต่อกติกาสากลระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนอีกหลายฉบับที่ประเทศไทยเป็นภาคีอยู่

ประดาบ

ไม่มีความคิดเห็น: