วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

เผด็จการทหารไทย พฤศจิกายน 2550

http://www.prachatai.com/05web/th/home/10357
ข่าวมอนิเตอร์ประจำวันที่ 27 พฤศจิกายน 2550

‘สนธิ’ ระบุซื้ออาวุธ3แสนล้านรัฐบาลใหม่ เพื่อดูแลประชาชนให้อยู่ดีมีสุข


กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ - ผู้สื่อถามถามพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลินถึงกรณีที่กระทรวงกลาโหม เตรียมทำข้อเสนอจัดซื้ออาวุธ จำนวน 3 แสนล้านบาทในรัฐบาลหน้า ซึ่งมีเสียงวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม เพราะประเทศไม่ได้สู้รบกับใคร พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติ ว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียง (ครส.) กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลที่แล้วได้จัดทำแพ็กเก็จในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ เพื่อทำให้กองทัพเข้มแข็ง ซึ่งทุกประเทศก็ทำเหมือนกันหมด ครั้งนี้ก็เป็นแผนงานที่กองทัพต้องวางเอาไว้

ทั้งนี้เคยชี้แจงในที่ประชุมหลายแห่งแล้วว่า ต้องอย่าลืมว่าในอนาคตบ้านเราทรัพยากรของชาติที่จะนำมาให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข เริ่มหมดลงไปทุกที ดังนั้นจึงต้องมีอำนาจของชาติที่จะใช้ในการคุ้มครองผลประโยชน์ของชาติ เช่น ที่อยู่ในทะเล เป็นต้น ดังนั้นทางด้านความมั่นคงจึงต้องเตรียมเรื่องนี้เอาไว้


พล.อ.สนธิ กล่าวว่าการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียง (ครส.) กล่าวถึงกรณีที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ระบุว่ามีพรรคการเมืองบางพรรคจ้างทำโพลล์ชี้นำแทนการซื้อเสียง ว่า ต้องเป็นเรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไปตรวจสอบ เพราะการทำโพลบางทีก็เป็นผลได้ผลเสียกับผู้จัดทำ อย่างไรก็ตามตนเคยพูดเรื่องนี้ในที่ประชุม ครส.ไปครั้งหนึ่งแล้วว่า กกต.จะต้องศึกษาเรื่องการทำโพลด้วย แต่จะมีการสั่งการห้ามไม่ให้มีการเผยแพร่ผลโพลล์หรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับ กกต. ส่วนผลโพลล์จะออกมามีผลต่อคะแนนของพรรคใดพรรคหนึ่งหรือไม่ คงต้องให้ กกต.เป็นคนคิด แต่ กกต. และ ครส. หารือกันได้อยู่แล้วในเรื่องนี้ ส่วนที่ กกต.ออกมาเปิดเผยวิธีการซื้อเสียงแบบใหม่ผ่านทางไปรษณีย์ โอนเงินให้หัวละ 1,000 บาทนั้น เป็นสิ่งที่รู้กันอยู่แล้ว จึงได้บอกว่าถ้าประชาชนออกมาช่วยกันใช้สิทธิ์ลงคะแนนมากๆ ก็จะแก้ปัญหาได้


พล.อ.สนธิ กล่าวถึงกรณีที่แกนนำ 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เปิดเวทีปราศรัยโจมตี คมช.และทหาร ว่า ก็ไม่เป็นไร เพราะประชาชนจะพิจารณาเอง ส่วนที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ระบุว่าจะเปิดเผยเอกสารลับของ คมช.ที่มีเนื้อหาสกัดกั้นพรรค พปช.เพิ่มเติมอีกนั้น จะมีหรือไม่ตนไม่ทราบ

"ที่ระบุว่า คมช.ไปล็อคเลือกตั้งไม่ให้พปช.เป็นรัฐบาลนั้น ไม่เป็นความจริง นักการเมืองแต่ละท่านเป็นตัวของตัวเองอยู่แล้ว เพราะท่านเป็นนักการเมืองอาชีพ ทางเราไม่มีความรู้ทางการเมือง นักการเมืองคงไม่มาฟัง อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะมีการพูดอย่างไร ประชาชนทั้ง 65 ล้านคนจะพิจารณาเอง "พล.อ.สนธิ ระบุ


เมื่อถามว่า นายจาตุรนต์ ออกมาเรียกร้องให้ พล.อ.สนธิแสดงจุดยืนให้ชัดเจน ว่าไม่มีการทำสัญญาลับกับบางพรรคการเมือง พล.อ.สนธิ กล่าวว่า “ต้องไปถามพรรคการเมือง มาถามผมไม่ได้ ผมบอกว่าผมไม่รู้เรื่องในเรื่องนี้ ต้องไปถามพรรคการเมืองต่างๆ ส่วนการที่พรรคพปช.พยายามโจมตีเพื่อดิสเครดิตตน และ คมช.ในช่วงการเลือกตั้งนั้น ก็บอกแล้วว่า มันเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่ง แต่ไม่เป็นไร เราก็เฉยๆ ไว้ จะได้ไม่ไปเพิ่มกระแสให้กับอีกด้านหนึ่ง”

เมื่อถามย้ำว่า ส่วนตัวยอมรับได้หรือไม่ หากพรรคพปช.ชนะการเลือกตั้ง และบ้านเมืองกลับมาวุ่นวายเหมือนช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่รู้ ตอบไม่ได้ ส่วนถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับไทย ก็ต้องเข้าสู่ขบวนการทางฝ่ายกฎหมาย
-------------------------------------------------------------------------------------
โดย : ประชาไท วันที่ : 27/11/2550


http://www.prachatai.com/webboard/topic.php?id=536946
สังคมและการเมือง

--------------------------------------------------------------------------------
โพสต์: เสรีชน

ID#536946 | เมื่อ: 2550-11-13 23:50:21

ไปไม่รอด คนเราเวลาดวงตก ช้างมาลากก็ฉุดไม่ขึ้น ยามมีอำนาบารมีหน้าตาก็ผ่องใส ยามสิ้นอำนาจวาสนา ผิวหน้ากลับหมองคล้ำ ถ้าไม่มีอคติฉันทาคติจนเกินไป คงไม่มีใครปฎิเสธได้ว่า วันนี้ สนธิ บุญยรัตนกลินดวงตกต่ำใกล้จะถึงที่สุดแล้ว

ความชั่วเมื่อยังไม่ให้ผล คนทำชั่วเข้าข้างตนเอง นึกว่าไม่มีผลจริง แถมคิดโง่ๆ ว่า ฉันไม่ใช่พุทธเป็นอิสลาม แต่กฎแห่งกรรมแม้เทวาพระเป็นเจ้าองค์ใดศาสนาใดก็ช่วยไม่ได้ เพราะกรรมคือ สัจจธรรม ที่ไม่มีใครหนีพ้น

เอกสารลับทำลายพรรค พปช ที่ทุกคนคิดว่าจะเงียบไป แต่ กกต ดำเนินเรื่องเงียบๆ ตามจี้ถึงที่สุด คนที่คิดว่า
สมัครขลาด เอาเอกสารเท็จมาใช้ งานนี้ ยุ่งแล้วเพราะสมัครและทีมทนายเขาโผล่ไปให้การกับอนุ กกต ตามด้วย
นายแพทย์ เหวง โตจิราการ และกลุ่มประชาธิปไตยทั้ง
ประทีป อึ้งทรงธรรม
นายเมธาพันธ์ โพธิธีรโรจน์ และ
นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท ยื่นหลักฐานให้ กกต ดำเนินการกับพลเอกสนธิ ซึ่งก่อนการดำเนินการ กกต ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่ยอมให้ คณะกรรมการรณรงค์ป้องกันซื้อสิทธิ์ขายเสียง ของพลเอกสนธิ เข้ามาเกี่ยวข้องกับ กกต ไม่ขอความร่วมมือจากกรมการนี้แต่อย่างใด เรียกว่าตบหน้ากันแต่ฉาดแรกว่า ไม่ยอมเป็นเครื่องมือบัง จะทำหน้าที่อย่างเป็นกลางจริงๆ

ซึ่งในวันถัดไป อนุ กกต จะเรียกพลเอกสนธิ มาสอบ พร้อม
พันเอกฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เจ้าไอเดียความคิดบัดซบด้วย

บังพลาดไปที่คำพูดหลายอย่างของเขาทั้งทางทีวีทางสื่อส่อเป็นนัยรับว่าเอกสารจริง โดยหารู้ไม่ว่า มีเสียง มีภาพและเทปยืนยัน แถมทำท่ายวนๆ มีโมโหว่า เป็นเรื่องความมั่นคง ใครๆ ก็ทำ นี่คือ คำรับโดยปริยายแล้ว และยังออกอาการโอหังถึงจริงก็ไม่กลัวเพราะเขาคิดว่าเขายังใหญ่ใครก็ทำอะไรไม่ได้ ขณะที่นายก พลเอกสุรยุทธ์ ที่แสดงความโง่ โฉ่งฉ่างรับว่าเอกสารจริง แต่เถียงว่าเป็นเรื่องเก่า

ในทางกฎหมาย คำรับที่เป็นผลร้ายกับตัวเอง คือ คำพยานที่ศาลรับฟังได้อย่างดี เพราะธรรมชาติของคน คนจะไม่พูดปรักปรำตนเอง

ทั้งนี้ นพ.เหวงที่ยื่นให้สอบเอกสารนี้ด้วย กล่าวยืนยันว่า แม้คณะกรรมการชุดนี้ จะให้ความมั่นใจ ในการทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างตรงไป-ตรงมา แต่เห็นว่า ควรใช้กระบวนการนิติวิทยาศาสตร์เข้าช่วย เพราะนิติวิทยาศาสตร์ ไม่เคยโกหกใคร รวมทั้งควรเร่งนำเอกสารของจริงจาก คมช. มาตรวจสอบ ก่อนที่จะมีการแก้ไข

เชื่อเหอะ งานนี้ ฉัตรเฉลิม ถ้านายคิดจะแก้ไขเอกสาร ก็โง่ถึงที่สุดเพราะมีประจักษ์พยานรู้เห็นเอกสารเป็นร้อยยคนในกองทัพ และประการสำคัญที่สุด พลเอกสนธิ ไม่ใช่ ผบ ทบ ที่จะให้คุณให้โทษย้ายใครในกองทัพได้ต่อไปแล้ว

ความหนักใจเรื่องเอกสารลับทำให้ คมช ตื่นแต่เช้ามาประชุมกันเจ็ดโมงโดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับใคร แต่สอง คมช กบฎ คือ สะพรั่ง ไม่มาร่วมตามเคย ส่วนเสรีพิสุทธิ์ หลังบังเกษียณแล้วก็อ้างว่าติดราชการหายตัวไปเลย เพราะเขาเป็น ผบ ตำรวจแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะกินน้ำใต้ศอกพึ่งร่มโพธิ์ของแขกกบฎคนนี้อีก

ยากครับที่จะรอด กะจะใช้ คตส เล่นสมัครคดีรถดับเพลิง แต่ คตส ก็มีฐานะง่อนแง่น ไม่มี รธน ใหม่รองรับ รอวันที่ พปช จะยุบ ถึงเรียกสมัครไป ไม่ไป คตส ก็ทำอะไรไม่ได้ อย่างมากก็แจ้งตำรวจ ตำรวจก็ดึงคดีรอผลการเลือกตั้งไปอีก แบบเดียวกับที่ คตส โดนพิณทองทา สะบัดก้นใส่ ถึงวันนี้ พิณทองทาก็ยังไม่ติดคุก ตำรวจยังไม่เรียกสอบ
ฉะนั้น ถึง คตส เรียกไปแจ้งข้อหา ก็ต้องส่งให้อัยการฟ้อง อัยการยุคชัยเกษมไม่เหมือนยุคพัชระ ไม่ง่ายหรอกครับที่จะตีตราให้ คตส เพราะ สุรยุทธ์จะมาสั่งยังไ ในเมือ่อีกสองเดือนสุรยุทธ์ก็จบแล้ว ฉะนั้น แฟนๆ คุณสมัครใจเย็นได้ cool งานนี้ไม่ใช่ยุค คมช สั่งซ้ายขวาหันแล้ว

หมดค่าแล้ว คตส และพลเอกสนธิ บุญ กรรมมาทันแล้ว
พวกคุณอยู่ไปก็เหมือนคนตายเพราะพวกคุณเป็นแค่สุสานเผด็จการที่รอวันโดนทำลายทิ้งเท่านั้นเอง !!!


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=71367
ผบ.ทบ.เมินพปช.ไล่ลั่นไม่กลัวทักษิณล้างแค้น

โดยทีมข่าว INN News 06 พฤศจิกายน 2550 16:00:01 น.
ผบ.ทบ. เมินเสียงเรียกร้องให้ คมช. ลาออก ของ พรรคพลังประชาชน ลั่น ทำเพื่อชาติไม่กลัวคำขู่กลับมาล้างแค้น ของ " พ.ต.ท.ทักษิณ "


พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ยืนยัน คมช. จะทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง แม้ว่าทางพรรคพลังประชาชนจะยื่นหนังสือเรียกร้องให้ คมช. ลาออกจากตำแหน่งก็ตาม พร้อมระบุสามเหตุที่ คมช. ยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 ถือเป็นการทำตามหน้าที่ เพื่อหยุดการใช้อำนาจที่มีปัญหาในขณะนั้น ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องให้ใครมาบอกว่า คมช.ควรทำหน้าที่อย่างไร

ส่วนกรณีเว็บไซต์ที่ต่างประเทศเผยแพร่บทสัมภาษณ์ของ นายจักรภพ เพ็ญแข ที่ระบุหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมามีอำนาจก็จะดำเนินการกับนายทหารที่ยึดอำนาจนั้น ผบ.ทบ.กล่าวว่าไม่มีความกังวล เพราะทำงานเพื่อชาติ

นอกจากนี้ ผบ.ทบ. กล่าวว่า พรรคพลังประชาชนไม่ต้องกังวลว่าทหารจะเข้าไปแทรกแซงการเลือกตั้ง พร้อมขอให้ทางพรรคดำเนินการอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบเอกสารลับนั้น แม้จะมีการหารือในที่ประชุม คมช.เมื่อช่วงเช้าแต่ก็ไม่สามารถเปิดเผยได้แต่หากหน่วยใดที่มีอำนาจตามกฎหมายร้องขอมาก็ยินดีให้ความร่วมมือ


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=71338
กก.สอบเอกสารลับประชุมนัดแรกวางกรอบทำงาน3ส่วน

โดยทีมข่าว INN News 06 พฤศจิกายน 2550 15:06:42 น.
คณะกรรมการตรวจสอบสอบเอกสารลับ คมช. ประชุมครั้งแรก วางหลักการตรวจสอบ 3 ส่วน
เชิญสมาพันธ์ประชาธิปไตยให้ปากคำรายแรก


นายสุพล ยุติธาดา ประธานคณะกรรมการตรวจสอบเอกสารลับของ คมช.เปิดเผยภายหลังการประชุม ครั้งแรกว่า ที่ประชุมได้วางกรอบการทำงานไว้ 3 ส่วน คือการสอบสวนไปยังสมาพันธ์ประชาธิปไตย และพรรคพลังประชาชน จากนั้นจะสอบสวนบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตีพิมพ์เอกสารดังกล่าว และสอบสวนไปยังฝ่ายทหาร ว่าเอกสารลับเป็นของจริงหรือไม่ โดยในวันอังคารหน้าจะเตรียมเชิญสมาพันธ์ประชาธิปไตย มาสอบสวนเป็นรายแรก ในฐานะผู้ร้องเรียน ซึ่ง กกต.ได้ให้อำนาจในการเชิญผู้มาให้ปากคำอย่างเต็มที่ โดยไม่มีการเข้าไปแทรกแซงใด ๆ ส่วนจะมีการใช้กฎหมายการเลือกตั้งดำเนินการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องยุติ หรือไม่นั้น นายสุพล กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับ กกต. เนื่องจากทางคณะกรรมการของตนทำเพียงการตรวจสอบข้อเท็จจริงและเสนอผลต่อ กกต.เท่านั้น

พร้อมกันนี้ นายสุพล ยังเปิดเผยด้วยว่า ได้มีสำเนาเอกสารดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการประมวลรายละเอียด ของเนื้อหา


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=70866

เลขาพปช.แฉทหารควงปืนM16จี้หัวผู้สมัคร

โดยทีมข่าว INN News 03 พฤศจิกายน 2550 12:01:55 น.

เลขาธิการพรรคพลังประชาชน แสดงตัว เลขาธิการ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อำนาจเจริญ ที่อ้าง ถูกทหารข่มขู่ เพื่อขอความเป็นธรรม พร้อมเรียกร้องอย่าใช้ความรุนแรง โดยตั้ง "พล.อ.เรืองโรจน์" รับข้อร้องเรียน


นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน นำ นายสมบัติ ตันทอง เลขาธิการของนายชัยศรี กีฬา ว่าที่ผู้สมัครของพรรค จ.อำนาจเจริญ ที่อ้างว่า ถูกทหารตรวจค้นรถยนต์ ขณะเดินทางกลับจากการปราศรัย และได้มีการนำปืนขนาด เอ็ม 16 จี้บริเวณท้ายทอย เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา แถลงข่าวขอความเป็นธรรมกับผู้ที่มีอำนาจของบ้านเมืองให้กำชับผู้ใต้บังคับบัญชาทุกหน่วย อย่าได้ใช้ความรุนแรงต่อผู้รณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง และวางตัวเป็นกลางทางการเมืองอย่างแท้จริง เพราะไม่เช่นแล้วจะกระทบต่อการเลือกตั้งได้ พร้อมกันนี้ ทางพรรค ได้มอบหมายให้ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ รองห้วหน้าพรรค เป็นประธานในการดูแลรับเรื่องต่างๆ จากผู้สมัคร ที่เกี่ยวกับการสกัดกั้นการหาเสียง

พร้อมกันนี้ เลขาธิการพรรคพลังประชาชน ยังเรียกร้องให้ รัฐบาล ยกเลิกกฎอัยการศึกในทุกพื้นที่ เพราะเกรงว่าจะก่อให้เกิดปัญหาต่อการเลือกตั้งได้

ทั้งนี้เลขาธิการพรรคพลังประชาชน คาด ภายในวันที่ 5 - 6 พ.ย.นี้ ทางคณะกรรมการบริหารพรรคจะมีการอนุมัติเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง ขณะเดียวกัน ไม่ขอยืนยันชัดเจนว่า ตระกูลอยู่บำรุง จะมีรายชื่ออยู่ใน ว่าที่ผู้สมัครของพรรคฯหรือไม่ ซึ่งต้องรอติดตามในวันดังกล่าว รวมถึง ความชัดเจนของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีด้วยแต่ยอมรับว่าได้มีการพูดคุยกันจริง พร้อมเผยรายชื่อ ผู้ที่จะเข้ามาเป็นทีมเศรษฐกิจของพรรคฯ อาทิ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณอดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท. และนายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตผู้แทนการค้าไทย ขณะที่มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคฯจะได้รับคะแนนเสียงเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นอกจากนี้ เลขาธิการพรรคพลังประชาชน เห็นว่า เป็นเรื่องที่ยินดีทีทาง กกต. ได้ตั้งคณะกรรมการสอบเอกสารลับของ คมช.ที่ทางพรรค นำออกมาเปิดเผย แต่จะเป็นรูปธรรมมากน้อยแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับคณะกรรมการดังกล่าว

วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

เผด็จการทหารไทย ตุลาคม 2550 และ บันทึกจากเรื่องจริง เหตุการณ์ 14-15 ตุลา วันมหาวิปโยค 2516


บทความ : ทำไมต้องคัดค้านกฎหมายความมั่นคง

ศราวุฒิ ประทุมราช

กฎหมายความมั่นคงที่ว่านี้ หมายถึง ร่างพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร พ.ศ.... ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการเมื่อ 19 มิถุนายน 2550 และมอบให้คณะกรรมการกฤษฎีกา ทำการยกร่างให้เป็นกฎหมาย ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา คณะกรรมการประสานงานรัฐบาลและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป รัฐบาล) ได้ประชุมหารือกันก่อนนำร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติ และมีมติให้นำร่างนี้กลับไปให้กฤษฎีกาพิจารณาอีกครั้ง เพราะไม่เห็นด้วยที่ ร่างฯ นี้ ให้อำนาจฝ่ายทหารกระทำตามอำนาจหน้าที่ ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองและกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง

เมื่ออ่านดูหลักการ เหตุผล และสาระสำคัญของร่างพรบ.ความมั่นคงฉบับนี้ แล้ว ได้เกิดคำถามขึ้นมาหลายประการ ดังนี้

1. เหตุผล และ ความจำเป็น ที่ต้องตรากฎหมายความมั่นคง รัฐบาลได้อ้างเหตุผลว่า ปัจจุบันปัญหาความมั่นคงเกิดจากบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่หลากหลาย มีความรุนแรง รวดเร็ว ขยายตัวได้อย่างกว้างขวาง จนกระทบต่อความสงบเรียบร้อยในประเทศ การมีกฎหมายความมั่นคงจะสามารถสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานราชการและประชาชนให้สามารถป้องกันและขจัดภัยต่อความมั่นคงตั้งแต่ในระดับท้องถิ่น ภูมิภาค จนถึงระดับประเทศได้ โดยจะต้องจัดให้มีหน่วยงานหลัก คือ กอ.รมน. ให้รับผิดชอบโดยตรง ต่อการจัดการความมั่นคงดังกล่าว

คำถามก็คือ ขณะนี้มีสถานการณ์อะไรที่กระทบต่อความมั่นคงในประเทศ จนถึงขนาดต้องมีการออกกฎหมายฉบับนี้ และกฎหมายที่มีอยู่แล้ว ไม่เพียงพอในการจัดการความมั่นคงหรือ กฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคงที่ใช้อยู่ในปัจจุบันได้แก่

1) ประมวลกฎหมายอาญา ในหมวดที่ว่าด้วย ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ซึ่งมีหมวดแยกย่อย ไปทั้งความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในและภายนอกราชอาณาจักร และมีหมวดเฉพาะที่ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย ในมาตรา 135/1 ถึง มาตรา 135/4 ที่บัญญัติไว้มีข้อความสรุปได้ว่า การใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการใด ที่เกิดอันตรายแก่ชีวิต ทรัพย์สินของบุคคลหรือของราชการ สิ่งแวดล้อม หรือน่าจะก่อความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างสำคัญ เป็นความผิดฐานก่อการร้าย การลอบวางระเบิด เข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ หรือทหาร ตำรวจ การฆ่ารายวัน ที่เกิดขึ้นภาคใต้ ย่อมอยู่ในความหมายของความผิดฐานก่อการร้าย ตามกฎหมายนี้ทั้งสิ้น

และแน่นอน ความผิดฐานล้มล้างรัฐธรรมนูญ ล้มอำนาจนิติบัญญัติ ตุลาการ ด้วยกำลังทหาร ก็เป็นความผิดในหมวดความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักรด้วย

2) พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 ที่ให้อำนาจฝ่ายทหาร โดยแม่ทัพภาค ประกาศเขตการใช้กฎอัยการศึกได้ทั่วประเทศหรือบางส่วนของประเทศ โดยฝ่ายทหารมีอำนาจประกาศห้ามออกนอกเคหสถาน ห้ามการชุมนุม ห้ามเดินทาง ห้ามขายสินค้าบางชนิด ฯลฯ ในจังหวัดชายแดนทั่วประเทศ ในบางอำเภอ ตำบล ก็ยังคงใช้กฎอัยการศึกอยู่

3) พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ประกาศให้กรณีใดเป็น “สถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง” ในกรณีที่มีการก่อการร้าย การใช้กำลังประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน หรือมีเหตุอันควรเชื่อว่ามีการกระทำที่มีความรุนแรงกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยในชีวิตหรือทรัพย์สินของรัฐหรือบุคคลและมีความจำเป็นที่จะต้องเร่งแก้ไขปัญหาให้ยุติได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที

เช่น สถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จัดเป็น “สถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง” เพราะมีการก่อการร้าย มีการใช้กำลังประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน ซึ่งการจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวเป็นอำนาจหน้าที่ของกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.)

ดังนั้น ขณะนี้มีกฎหมายรองรับการจัดการความมั่นคงพอสมควร มีหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านความมั่นคงตามกฎหมายอยู่แล้ว ได้แก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ฝ่ายปกครอง ตามประมวลกฎหมายอาญา ฝ่ายทหาร ตามพรบ.กฎอัยการศึก และ กอ.สสส.จชต. ตามพรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

นอกจากนี้ ยังมี ‘สภาความมั่นคงแห่งชาติ’ ที่มีกฎหมายต่างหากรองรับอีก หากจะต้องมีกฎหมายความมั่นคงให้อำนาจ กอ.รมน.อีกหน่วยงานหนึ่งแล้ว จะเพิ่มความซับซ้อนในการทำงานและงบประมาณแผ่นดินหรือไม่

2. คำถามต่อสาระสำคัญของร่างกฎหมายความมั่นคง เพราะมีบทบัญญัติที่กระทบสิทธิมนุษยชนและขัดต่อหลักนิติธรรม (The Rule of Law) หลายประการ เช่น จำกัดเสรีภาพในการเคลื่อนย้าย และเสรีภาพในการชุมนุม โดย ห้ามออกนอกเคหสถานภายในเวลาที่กำหนด ให้ยุติการชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ในที่สาธารณะ ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ หรือกำหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคม หรือการใช้ยานพาหนะ ห้ามเข้าหรือให้ออกจากบริเวณพื้นที่ อาคาร หรือ สถานที่ที่กำหนด เป็นต้น

แต่สิ่งที่สำคัญ ก็คือ การที่ กอ.รมน. ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายนี้ มีอำนาจเป็นพนักงานสอบสวน และสามารถส่งผู้กระทำผิดทุถูกจับกุมเข้ารับการฝึกอบรมแทนการถูกดำเนินคดีก็ได้

โดยหลักนิติธรรมนั้น เจ้าพนักงานในการจับกุมย่อมไม่มีอำนาจในการสอบสวน และเมื่อมีการกล่าวหาใครว่าเป็นผู้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อผู้นั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดแล้วไม่ได้ และผู้ต้องหาต้องได้รับการสันนิษฐานว่าไม่มีความผิด จนกว่าศาลจะพิพากษา

จากหลักการดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า มีการละเลยหลักนิติธรรม เพราะเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.สามารถเป็นตำรวจ อัยการ ศาล ได้ในเวลาเดียวกัน เพราะสามารถจับกุม สอบสวน และทำหน้าที่อัยการและศาลด้วย โดยหากพบว่าผู้ถูกจับน่าจะหลงผิด ก็ไม่ส่งฟ้อง แตนำไปควบคุมเพื่อรับการอบรมได้ถึงหกเดือนแทนการดำเนินคดี

ประเด็นต่อมา ประกาศ คำสั่ง หรือการที่เจ้าหน้าที่กอ.รมน.ปฏิบัติตามกฎหมายนี้ ไม่อยู่ในบังคับของศาลปกครองก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงมีการ ‘นิรโทษกรรม’ ล่วงหน้า ให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติตามกฎหมายนี้ ไม่ต้องรับผิดชอบทั้งทางแพ่ง อาญา หรือทางวินัย เมื่อก่อความเสียหายแก่ประชาชน ตรงกันข้ามกลับเขียนว่า ให้ผู้ได้รับความเสียหายไปฟ้องร้องเอาเองได้ ซึ่งขัดต่อหลักนิติธรรมอีกข้อหนึ่งด้วย

3. ประการสุดท้าย ทำไมต้องเร่งรัดในการจะต้องให้ร่างกฎหมายความมั่นคงรีบผ่านในรัฐบาลรักษาการนี้ อย่าลืมว่า รัฐบาลนี้มีที่มาจากการรัฐประหาร จึงไม่มีความชอบธรรมที่จะพิจารณากฎหมายที่กระทบกระเทือนสิทธิเสรีภาพของประชาชน

คำตอบหนึ่ง แม้อาจมองในแง่ร้ายไปหน่อย แต่ก็พอจะมีเหตุผลบ้าง ก็คือ ร่างกฎหมายนี้เตรียมไว้เพื่อการ สืบทอดอำนาจคณะรัฐประหารหรือไม่ และร่างกฎหมายนี้ก็เขียนขึ้นเพื่อเตรียมรื้อฟื้น กอ.รมน. เท่านั้น เพราะที่ผ่านมา กอ.รมน. ไม่มีกฎหมายรองรับ และถูกลดอำนาจลงในยุครัฐบาลทักษิณ การรื้อฟื้นคืนชีพ กอ.รมน.จึงเป็นการตั้งแท่นเพื่อขจัดอำนาจเก่าที่อาจ “เอาคืน” คณะรัฐประหาร ในโอกาสต่อไป

คำถามเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ประชาชนทุกคนต้องติดตาม และเฝ้าดูอย่ากระพริบตา เพราะฝ่ายที่ต้องการให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านก็ออกมาสกัดกั้นการแสดงความคิดเห็นไว้ว่า ประชาชนผู้บริสุทธิ์ก็อย่าได้กลัวกฎหมายฉบับนี้เลย เพราะกฎหมายฉบับนี้ ใช้สำหรับโจร หรือผู้ไม่หวังดีต่อบ้านเมือง

จึงต้องขอบอกท่านผู้อ่านอีกครั้งว่า ก็นั่นน่ะซิ กฎหมายนั้น ควรใช้กับคนทุกคน ถ้าจะออกกฎหมายบังคับแก่คนเลวบางกลุ่มที่มีน้อยนิด มันคุ้มค่าแก่การลงทุนหรือไม่ เพราะคนบริสุทธิ์ก็จะถูกบังคับใช้โดยเจ้าพนักงานตามกฎหมายอยู่นั่นเอง

เจ้าหน้าที่ที่ลุแก่อำนาจย่อมมีอยู่เสมอๆ ในสังคมทุกสังคม เพราะฉะนั้น เลิกความคิดจะออกกฎหมายเพื่อความมั่นคงเสียที จะดีกว่าไหม


โดย : ประชาไท วันที่ : 30/10/2550


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=68762

'สมัคร'แฉหนังสือลับสกัดพปช.

โดยทีมข่าว INN News 23 ตุลาคม 2550 11:45:25 น.

หัวหน้าพรรคพลังประชาชน แฉ มีหนังสือทางราชการ สกัดกั้นไม่ให้พรรคพลังประชาชน มีอำนาจ ชี้ กลัวอำนาจเก่าจะล้างแค้น



นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า ได้รับเอกสารจากทางราชการที่มีเนื้อหา เป็นแผนสกัดกั้นพรรคพลังประชาชน หรือ สกัดกั้นขั้วอำนาจเก่า ไม่ให้มามีอำนาจใหม่ ซึ่งออกคำสั่งโดยนายทหารยศพันเอกคนหนึ่ง ซึ่งมองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกลัวว่า อำนาจเก่าคิดจะล้างแค้น แต่ความจริงแล้วเป็นการกลัวไปเองทั้งนั้น

นายสมัคร กล่าวอีกว่า การควบรวมพรรคเพื่อให้เกิดขั้วที่ 3 เดี๋ยวรวม เดี๋ยวเลิก เป็นเรื่องตลกและน่าอายที่น่าจะไปเป็นข่าวในช่วงก่อนบ่ายคลายเครียดมากกว่า

นอกจากนี้นายสมัคร กล่าวว่า ที่ออกมาเปิดเผยเอกสารลับจากทางราชการ เกี่ยวกับการสกัดกั้นพรรคพลังประชาชนครั้งนี้ เพื่อต้องการร้องทุกข์ให้ประชาชนรับทราบว่า มีคนคิดสกปรกจะเล่นการเมืองทางลับและขณะนี้ก็เริ่มขึ้นแล้ว ใน จ.แพร่ จ.พิจิตร และ จ.พังงา แม้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมองว่า เป็นการเมืองท้องถิ่น แต่ตนเชื่อว่าเป็นการเมืองระดับชาติมากกว่า โดยเฉพาะที่ จ.แพร่

นายสมัคร กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เหมือนกับดัก ดูจากกรณีป้ายโฆษณาที่มีการจำกัดอย่างมาก หากทำผิดก็โดนฟ้องร้องได้ และไม่ทราบว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ มีนักโทษลงเลือกตั้งหรืออย่างไร จึงได้จำกัดกันขนาดนี้


http://www.hi-thaksin.net/contentdetail.php?ParamID=74383

เปิดคำสั่งลับคมช.กำจัดพลังประชาชน
23/10/07 01:02 499 16



มาแล้วครับ เอกสารลับทั้ง 8 หน้าที่ผ่านการตรวจสอบแล้วว่า เป็นของจริง เป็นความจริง เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเป็นอันตรายต่อพรรคพลังประชาชน ที่ตกเป็นเป้าสังหารของคมช. ในการเลือกตั้งวันที่ 23 ธันวาคม 2550 นี้

ดู และ อ่าน กันให้ละเอียด ทุกตัวอักษร ทุกถ้อยคำ ทุกการกระทำที่ตระเตรียมไว้ในแผน ปฏิบัติการทำลายพรรคพลังประชาชน แล้วขอได้โปรดช่วยกันแสดงความคิดเห็นกันอย่างเต็มที่ กว้างขวาง และ พูดได้ดังที่ใจของท่านอยากจะพูด อยากจะแสดงออก

วันพรุ่งนี้ ผมจะมาคุยด้วย จะมาแสดงความคิดเห็นของผมให้ได้อ่าน เพื่อแลกเปลี่ยนกัน

ผมอยากให้ทุกท่านได้แสดงความคิดเห็น อย่างเป็นอิสระ โดยไม่ถูกชี้นำจากผู้ใดทั้งสิ้น

มีหลายท่านแนะนำให้ผมนำเอกสารทั้ง 8 หน้านี้ส่งไปให้คุณสมัคร สุนทรเวช หรือ ผู้บริหารพรรคพลังประชาชน ผมเชื่อว่าหลังจากที่เอกสารทุกหน้าปรากฎในเวปไซต์นี้แล้ว หากผู้บริหารพรรคพลังประชาชน จะนำไปดำเนินการตามความเหมาะสม ตามสมควร ก็ดำเนินการได้เลย โดยที่ผมไม่ต้องนำไปมอบให้ และผมเชื่อว่า พรรคพลังประชาชน ไม่ยอมอยู่แบบงอมืองอเท้าให้ถูกรังแกข้างเดียวโดยไม่ต่อสู้อย่างแน่นอน

แต่ที่ผมอยากเห็นมากกว่าปฏิกิริยาของพรรคพลังประชาชน ก็คือ อาการ ท่าที ของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี นายอภิชาติ สุขคนานนท์ ประธานกกต. ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร และจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เมื่อประชาชนได้ทราบแผนการชั่วร้ายของคมช. ที่มีต่อพรรคพลังประชาชน แล้ว

เมื่อวันนี้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้สั่งให้เตรียมแผนปฏิบัติการอันชั่วร้ายนี้ ได้กลายมาเป็นรองนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่โดยตรงเกี่ยวกับการป้องกันการซื้อเสียงเลือกตั้ง และรณรงค์ให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม

ผมกำลังรอดูว่า ประธานกกต. และ นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง และเป็นผู้มีหน้าที่ปฏิบัติรักษาการตามพระราชกฤษฎีกา จะมีอาการเช่นไร กับเอกสารลับชุดนี้

สำหรับผมแล้ว เรื่องลับที่ถูกนำมาเปิดเผยในครั้งนี้

แม้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ จะปลดพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน จะลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติ ว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียงตำแหน่ง ก็ยังไม่เพียงพอ ต้องปลดพล.อ.สนธิ ออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และไม่ให้มีหน้าที่ยุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น อีกต่อไป ในทุกๆ ส่วน

เกือบลืมไป คนสำคัญอีกคนที่ผมอยากเห็นว่าจะแสดงอาการอย่างไร ก็คือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งได้ประกาศนโยบายนำทหารกลับเข้ากรมกอง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง จะแสดงความจริงใจต่อคำพูดของตนเองให้ประชาชนเห็นอย่างไร หรือจะแสดงความซื่อสัตย์ต่อพล.อ.สนธิ ด้วยการให้หน่วยต่างๆ ในกองทัพบก ปฏิบัติรับใช้ตามคำสั่งที่ปรากฎนี้ ด้วยความภักดี ต่อไป

สุดท้าย ผมอยากเห็นอาการของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร มีอาการอย่างไร มีความรู้สึกร้อนหนาวอย่างไรกับการกระทำของพล.อ.สนธิ ในครั้งนี้

การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 นี้ ยังจะเป็นที่เชื่อถือได้หรือไม่ ว่า สุจริต และเที่ยงธรรม

คนเดียวที่ผมไม่คาดคิดว่าจะแสดงอาการ แสดงความคิดเห็น แสดงให้เห็นว่ารู้ร้อนรู้หนาวกับสิ่งที่เกิดขึ้น กระทั่งแสดงความรับผิดชอบกับเอกสารชุดนี้ ผมก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น ก็คือ

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคมช. ผู้กระทำการอันอัปยศให้แก่กองทัพ และ ทำลายระบอบประชาธิปไตย อย่างไม่หยุดหย่อน

เพราะจอมเผด็จการอย่างพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ย่อมไม่มีสำนึกแห่งประชาธิปไตย อยู่ในหัวใจ เช่นประชาชนคนทั่วไป แบบเราๆ ท่านๆ ทั้งหลาย

















ประดาบ

ความคิดเห็นที่ 1 :: วันที่ 23 ต.ค. 07 เวลา 01:12

liverpool ไม่เข้าใจเหมือนกันนะว่ามันกลัวอะไรกันนักกันหนา มีอะไรต้องปิดบังเหมือนวัวสันหลังแหวะยังไงยังงั้น หมดอำนาจเมื่อคงได้โดนดีเข้าสักวัน เลวจริงๆ


http://www.hi-thaksin.net/contentdetail.php?ParamID=74356

สนธิ สั่งทำลายพลังประชาชน แฉแผนบันไดขั้นที่ 4 – 5 – 6
22/10/07 00:11 6672 74



ขอประทานโทษ ที่หายหน้าไป 3 วัน เพราะมัวแต่ไปตามหาบันไดขั้นที่ 4- 5 -6 ของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี คนดีศรีเผด็จการ ที่เตรียมไว้สกัดกั้นพรรคพลังประชาชน ตามที่นัดกับ “ท่านพันเอก” ไว้

ตื่นเต้นมาก ที่จะได้พบกับ “ท่านพันเอก” ตัวเป็นๆ หลังจากที่ข่าวคราวจากท่านเงียบหายไปหลายนาน ได้รับอีเมลล์จากอีกครั้ง “ท่านพันเอก” ของพวกเรา ก็ถูกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่จังหวัดปัตตานี เสียแล้ว

แม้จะต้องเดินทางไกลถึงปัตตานี โดยที่ยังไม่รู้ว่าจะได้เอกสารอะไรติดมือกลับมา ผมก็ไม่ลังเลที่จะเดินทางทันที เพราะเครดิตของ “ท่านพันเอก” ในเรื่องเอกสาร “ลับ” ไม่เป็นที่สงสัย หรือหวาดระแวงต่อผม แม้แต่เวบเดียว

เป็นครั้งแรกที่ ผม กับ “ท่านพันเอก” ตัดสินใจพบปะกันแบบไม่ต้องปิดบังตัวตน ไม่ต้องนัดหมาย รับ-ส่งเอกสาร ในที่ลับตาคน เหมือนสายลับในหนังเจมส์บอนด์ อีกแล้ว เพราะเราต่างมั่นใจในความปรารถนาดีที่เราทั้งสองคนมีต่อประเทศชาติเหมือนกัน ตรงกัน

หลายท่านอาจจะงงว่า ผมกำลังพูดถึง “ท่านพันเอก” ที่ไหน กองทัพไทย หรือกองทัพชาติไหน เพราะเห็นไปไกลถึงปัตตานี ที่ไม่รู้ว่าวันนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยหรือไม่ แต่หลายท่านคงจำได้ถึง “ท่านพันเอก” ท่านนี้

“ท่านพันเอก” ที่ผมพูดถึงนี้ เป็นนายทหารผู้มีคุณูปการกับพวกเราอย่างมาก จากการที่ท่านนำเอกสาร “ลับ” และ “ลับมาก” ของกองทัพ และ คมช. ส่งมาให้พวกเราได้ดู ได้อ่าน ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของนายทหารใหญ่แต่ละคน อย่างที่เราไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้ และไม่น่าจะมีโอกาสได้รับรู้ หากว่า “ท่านพันเอก” ไม่นำเอกสารหลักฐานมาเปิดเผย

ความห่วงใยบ้านเมืองของ “ท่านพันเอก” ทำให้เราได้รู้ว่า กองทัพบก จ้างนายเชียรช่วง กัลยาณมิตร น้องชายสายโลหิต ของพล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร เป็นผู้จัดทำแผนปฏิบัติการประชาสัมพันธ์เชิงรุก หรือที่รู้จักกันในชื่อ แผนทำลายไทยรักไทย ด้วยเงินค่าจ้างเดือนละ 2,000,000 บาท เป็นเวลา 6 เดือน ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงาน อีกเกือบ 70 ล้านบาท

แผนงานของนายเชียรช่วง กัลยาณมิตร ที่วันนี้ เป็นเลขาธิการพรรคประชาราช ไปแล้ว มีตั้งแต่การจ้างนักศึกษาประชาชนเดิน ขบวนประท้วงรัฐบาลสิงคโปร์ วางหรีดดำที่หน้าสถานทูตสิงคโปร์ จ้างบุคคลทั่วไป ปฏิบัติการตอบโต้กระทู้โจมตีคมช. และโพสต์กระทู้ให้ร้ายนายกฯทักษิณ ซึ่งอยู่ในข้อ 2.4 ของแผนปฏิบัติการเชิงรุกฯ และเป็นที่มาของการเรียกพวกรับจ้างโพสต์กระทู้ในเวปไซต์ต่างๆ ว่า เป็นพวก “2.4” รวมไปถึงการจ้างนักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัยของรัฐ จำนวนหนึ่ง ไปเดินสายอภิปราย ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อ กล่าวหานายกฯทักษิณ เป็นฆาตรกรฆ่าตัดตอน ละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยมีนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ เป็นหัวหน้าทีม

ความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ฉ้อฉลของ “ท่านพันเอก” ทำให้เราได้รู้ว่า กองทัพภาคที่ 1 มีคำสั่ง “ลับ” ให้ทำลายธุรกิจของบริษัทเอไอเอส และ เครือชินคอร์ป และทำให้เห็นว่ารัฐบาลสิงคโปร์ ไม่จริงใจต่อประเทศไทย มีแผนการดักฟังโทรศัพท์ ล้วงความลับของกองทัพไทย และทำลายมวลชนของพรรคไทยรักไทย ให้หมดสิ้น ปล่อยข่าวล่วงหน้าพรรคไทยรักไทย ถูกยุบตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2550 ก่อนที่ตุลาการรัฐธรรมนูญ จะวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักไทย ในเวลาอีก 4 เดือนต่อมา

ความห่วงใยและซื่อสัตย์ต่อบ้านเมือง ประชาชน ของ “ท่านพันเอก” ทำให้ ประชาชนหูตาสว่าง และเห็นภาพชัดเจนมากว่า กองทัพที่นำโดยพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน มีแผนการที่จะก่อการรัฐประหาร ยึดอำนาจจากนายกฯทักษิณ ไว้ล่วงหน้า ไม่ใช่เป็นการยึดอำนาจแบบฉุกละหุก ตามที่โกหกและสร้างเรื่องขึ้นในภายหลัง มีการวางแผนที่จะทำลายพรรคไทยรักไทย นักการเมือง ประชาชน กลุ่มพลังมวลชน องค์กรประชาชน ที่สนับสนุนพรรคไทยรักไทย มาแต่ต้นและอย่างต่อเนื่อง โดยไม่คำนึงว่าคำสั่งและปฏิบัติการเหล่านั้น จะส่งผลกระทบ ส่งผลร้ายถึงประชา ชน และประเทศชาติอย่างไร

เอกสาร “ลับ” จากท่านพันเอก ที่ผมนำติดตัวกลับมาจากปัตตานี ในครั้งนี้ ทำให้ผมถึงกับขนลุกซู่ไปทั้งตัว หลังจากอ่านจบในรอบแรก และเมื่อเงยหน้าขึ้นมอง “ท่านพันเอก” ที่นั่งอยู่ตรงข้าม ในร้านน้ำชาแห่งหนึ่ง ในตัวเมืองปัตตานี ท่านก็หลบตาลงต่ำ แล้วพูดเบาๆ ในลำคอ พอได้ยินแต่ไม่ชัดนักว่า “ในฐานะทหาร ผมเสียใจ”

ผมได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ แล้วเลื่อนเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะ คืน ก่อนจะพูดขึ้นว่า คำสั่งในเอก สารนี้ ไม่มีทางทำให้ผมเชื่อได้เลยว่าเป็นเรื่องจริง หากไม่ใช่ว่าได้มาจากนายทหารระดับสูงที่เคยเปิดเผยเอกสารลับที่กองทัพต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงมาแล้วทุกครั้ง ไม่เคยมีพลาดแม้แต่ครั้งเดียว

ผมถามว่า “ท่านเสียใจเรื่องอะไร”

ท่านพันเอก บอกว่า “ผมเสียใจที่มีทหารบางคนในกองทัพ คิดลั่งการให้กำลังพลปฏิบัติการเช่นนี้ ผมก็ไม่เชื่อในครั้งแรกที่ได้เห็น แต่จากการตรวจสอบกับเพื่อนที่อยู่ในหน่วยปฏิบัติและได้รับเอกสารชิ้นนี้ด้วย ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง”

ผมถามว่า “ท่านคิดไหมว่าหากเอกสารฉบับนี้ถูกเปิดเผยออกไป จะเกิดอะไรขึ้นกับกองทัพ และผู้ออกคำสั่ง”

ท่านพันเอก บอกว่า “ผมคิดอยู่หลายวัน ได้ข้อสรุป เปิดออกไปแล้ว กองทัพได้รับผลกระทบแน่นอน อดีตผู้บังคับบัญชาเสียหาย แต่ถ้าไม่เปิดเอกสารให้สังคมรับรู้ ประเทศชาติ จะเสียหาย และวันหนึ่งเมื่อความจริงถูกเปิดเผยออกมา ว่ามีเอกสารฉบับนี้ หลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว กองทัพ จะเสียหายมากกว่าที่ถูกแฉในเวลานี้”

ผมถามว่า “ท่านมั่นใจความปลอดภัยของตัวเองแค่ไหน หลังจากเอกสารถูกเปิดเผยออกไปแล้ว” เหตุที่ถามเช่นนี้ เพราะผมรู้สึกผิดตั้งแต่ได้รับอีเมลล์ ว่าท่านถูกย้ายมาอยู่ปัตตานี ว่าเป็นเพราะเอกสารที่ผมเปิดเผยออก ใช่หรือไม่

ท่านพันเอก บอกว่า “ไม่ต้องห่วงผมหรอก คุณไปห่วงประเทศชาติดีกว่า ไม่มีผม ประเทศ อยู่ได้ ไม่มีประเทศ ทั้งคุณกับผม อยู่ไม่ได้

คำตอบของท่าน ทำเอาผมจุกในอก พูดไม่ออก และทำให้ผมต้องแกล้งหันหน้าออกไปนอกร้านน้ำชา ไม่ให้ท่านพันเอกเห็น น้ำตาที่เอ่อท้น ขึ้นมาแล้ว

“ทำไมกองทัพ มีทหารที่คิดแบบท่าน น้อยเหลือเกิน ทำไมทหารใหญ่ ไม่คิดแบบท่านบ้าง บ้านเมืองจะดีขึ้นกว่านี้เยอะ ทหารก็จะเป็นที่รักของประชาชน” ผมถามขึ้นหลังจากที่เราต่างคนต่างเงียบไปครู่หนึ่ง

ท่านพันเอก ตอบว่า “คุณเข้าใจผิด ทหารส่วนใหญ่รักประเทศชาติ และอยากอยู่ในสังคมด้วยความเข้าใจอันดีกับประชาชน เพราะทหารก็คือประชาชน แต่ผลประโยชน์ และอำนาจ ทำให้ทหารบางคน เปลี่ยนไป หลังจากที่เข้าไปพัวพันด้วย”

ก่อนที่ผมจะถามอะไรให้ยืดยาว เยิ่นเย้อออกไปอีก ท่านพันเอก ก็บอกว่า “เราคุยกันนานเกินไปแล้ว คุณกลับกรุงเทพฯ ไปวันนี้เลยดีกว่า เอาไว้วันหลัง คุยกันใหม่”

ผมรู้ด้วยน้ำเสียงว่า ไม่ใช่การไล่ แต่เป็นความห่วงใย ที่มาพร้อมกับมิตรภาพอันยิ่งใหญ่ จาก “ท่านพันเอก” ผมจึงลุกขึ้น แล้วลาท่าน ก่อนจะเดินออกจากร้านน้ำชา ทันที เพื่อที่ท่านจะได้ไม่ต้องกังวล ทั้งตัวผม และตัวท่านเอง

ผมเก็บเอกสาร 8 แผ่นที่ได้รับมาจาก “ท่านพันเอก” ด้วยหัวใจที่เต้นแรง แรงด้วยความตื่นเต้น ที่ผมจะได้ทำหน้าที่เปิดโปงความไม่ชอบมาพากลของกองทัพ และคมช. อีกครั้งหนึ่ง แรงด้วยความโกรธแค้น ชิงชัง ทหารบางคนที่กำลังทำลายบ้านเมืองให้ย่อยยับลงไปอีก ทั้งๆ ที่ทุกวันนี้บ้านเมืองและประชาชนก็บอบช้ำ เพราะมือของพวกเขามาแล้ว

กระบวนการตรวจสอบเอกสารของผม เริ่มต้นขึ้นทันทีที่กลับถึงกรุงเทพฯ ผมนัดเพื่อนคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ในหน่วยทหารหน่วยหนึ่ง แล้ว ขอให้ช่วยตรวจสอบหนังสือเลขที่ คมช.0003.5/480 ลงวันที่ 14 กันยายน 2550 ว่า เป็นเรื่องอะไร และมีเนื้อความว่าอย่างไร

3 วันถัดมา ผมก็ได้รับคำตอบว่า หนังสือที่ผมสอบถาม มีอยู่จริง และเป็นเรื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติการทางการเมืองและพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง แต่บอกไม่ได้ว่าเป็นพรรคอะไร ผมจึงถามนำขึ้นว่า พรรคพลังประชาชน ใช่หรือไม่ คำตอบคือ ใช่

ผมเริ่มถามทีละข้อ ทีละประเด็นเรียงกันมา ตามที่ผมจำได้ เพราะอ่านหลายเที่ยว สุด ท้ายเพื่อนผมก็เปิดกระเป๋าส่งเอกสารทั้ง 8 แผ่น เหมือนกับที่ผมได้รับจาก “ท่านพันเอก” ให้ แล้วบอกว่า “รู้หมดทุกอย่างแล้ว จะถามทำไม เอาไปเทียบดูแล้วกัน จะได้รู้ว่าเหมือนกันทุกตัว ของที่มึงมีอยู่ ก็จริงเท่าที่กูไปเอามานี่ล่ะ”

ไฮไลต์ของเนื้อความในเอกสาร “ลับ” ฉบับนั้น เขียนไว้ในหน้าที่ 2 ว่า ..

“ ข้อ 2.2.3 สนับสนุนการรวมตัวที่สร้างสรรค์ของกลุ่มการเมืองต่างๆ โดยมีงานการปฏิบัติการข่าวสาร ดังนี้

2.2.3.1 ชี้ให้ประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งชนชั้นกลางเห็นข้อเท็จจริงในการรวมตัวกันของกลุ่มการเมืองต่างๆ

2.2.3.2 ชี้ให้ประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งชนชั้นกลางเห็นความคล้ายคลึงกันของนโยบายอดีตพรรคทรท. และ พปช.

2.2.3.3 ชี้นำ/ชักจูงให้ประชาชนรากแก้วต่อต้านการกลับมาของกลุ่มอำนาจเก่าผ่านทางพปช. โดยแสดงให้เห็นว่านโยบายต่างๆ ของทรท.ซึ่งเป็นผลเสียต่อประเทศและประชาชน ก็จะกลับมาด้วย

2.2.3.4 ชี้ให้ทุกฝ่ายเห็นถึงความคดโกง/ทุจริต/ไม่ชอบธรรมของกลุ่มอำนาจเก่าซึ่งกำลังจะกลับมาพร้อมกับพรรคพปช.

2.2.3.5 สร้างกระแสให้ทุกฝ่ายต่อต้านการกลับมาของกลุ่มอำนาจเก่า โดยผ่านทางพรรคพปช.”

คำสั่งลับของคมช. ฉบับนี้ ออกจากส่วนราชการ สปค.ศปศ.คมช. ลงนามโดยพ.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข รองจก.ยก.ทบ./ผช.หน.สปค.ศปศ.คมช. ทำการแทน จก.ยก.ทบ./รองหน.สปค. ศปศ.คมช. เรื่อง การปฏิบัติการข่าวสารตั้งแต่ปัจจุบันถึงวันปิดรับสมัครเลือกตั้ง เรียน ผบ.ทบ. /ประธานคมช. เพื่อขอให้พิจารณาอนุมัติปฏิบัติการตามแผนที่นำเสนอ ซึ่งระบุไว้อย่างละเอียดยิบว่าจะทำลายพรรคพลังประชาชน อย่างไร

คำสั่งลับของคมช. ฉบับนี้ ได้รับอนุมัติให้ปฏิบัติการได้ตามที่นำเสนอทุกข้อ โดยพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และ ประธานคมช. ในขณะนั้น

แม้กระทั่งการปฏิบัติการ “เชิญบุคคลที่ 3 ที่เป็นผู้นำทางความคิด / นักวิชาการ ออกรรายการวิทยุ / โทรทัศน์ วิเคราะห์เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหากพรรคพปช. ชนะเลือกตั้งแล้วดำเนินนโยบายที่ประกาศไว้ คือ นิรโทษกรรม อดีตกรรมการบริหารพรรค ทรท. และ ยุบคตส. ว่าหลายฝ่ายคงยอมไม่ได้ โดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตร ซึ่งจะออกมาเคลื่อนไหว และทำให้ประเทศเกิดความวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง และอาจนำไปสู่การรัฐประหารครั้งใหม่ เป็นวงจรที่ไม่สิ้นสุด” ซึ่งอยู่ในหน้าที่ 4 ของแผนปฏิบัติการทำลายพรรคพลังประชาชน ที่ระบุว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรักความสามัคคีให้เกิดขึ้นในชาติ

คำสั่งลับของคมช. ฉบับนี้ เป็นการแสดงให้เห็นว่าพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน มีจุดมุ่ง หมายอย่างไรต่อการเลือกตั้งวันที่ 23 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ และเหตุใดจึงต้องการมีและใช้อำนาจเข้าไปแทรกแซง ควบคุม ชี้นำ การจัดการเลือกตั้งของกกต. และกำลังดำเนินการอย่างเข้มข้นอยู่ในขณะนี้

ความกังวลของประชาชนทั้งประเทศที่ว่า หากพรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้ง แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป เหตุการณ์จะสงบหรือไม่ บ้านเมืองจะกลับคืนสู่ความเรียบร้อย สันติสุข หรือไม่ ก็มีคำตอบอยู่แล้วในคำสั่งลับฉบับนี้ว่า

“อาจนำไปสู่การรัฐประหารครั้งใหม่ เป็นวงจรที่ไม่สิ้นสุด”

ทั้งๆ ที่อ่านประโยคนี้มาแล้วไม่น้อยกว่าร้อยรอบ แต่เมื่อเขียนถึงประโยคนี้ ผมก็แทบจะหมดแรงที่จะเขียนต่อไป และสะกดอารมณ์ไว้ไม่ได้

“ผมขอโทษนะครับ ท่านพันเอก ผมเกลียดและชิงชังทหาร มากแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนครับ ทั้งๆ ที่รู้ว่าทหารเลวที่ไม่มากนัก แต่ทำไมทหารดีต้องอยู่ใต้คำสั่งทหารเลว อยู่ร่ำไป”

วันนี้ เขียนได้แค่นี้แล้วล่ะครับ อารมณ์โกรธ และ เกลียด ทำให้ไม่มีสมาธิพอที่จะเขียนหนังสือเล่าข้อความที่อยู่ในคำสั่งลับฉบับนี้ ต่อไป

พรุ่งนี้ ผมจะนำเอกสารทั้งฉบับ จำนวน 8 หน้า มานำเสนอให้ได้ชมกัน หลังจากผ่านการตรวจสอบขั้นสุดท้าย ว่าไม่ได้มีการทำสัญลักษณ์ หรือ เครื่องหมายสำหรับการตรวจ สอบแหล่งที่มาของเอกสาร เพื่อความปลอดภัยของ “ท่านพันเอก” เสร็จสิ้นลง

อันที่จริง ตั้งใจว่าจะนำเสนอพร้อมกัน แต่อดใจไม่ไหว เมื่อได้เห็นความเลวร้ายของ พ.อ.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ ผู้จัดทำแผน พ.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข ผู้นำเสนอแผน และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้อนุมัติให้ปฏิบัติตามแผน

แผนที่ทำให้เราได้เห็นว่าบันไดขั้นที่ 4 - 5 – 6 สำหรับการทำลายพรรคพลังประชาชน เป็นเช่นไร

จึงต้องมาบอกเล่าให้ทราบก่อน แล้ววันพรุ่งนี้ เมื่อการตรวจสอบเอกสารเสร็จเรียบร้อย พวกเราทุกคนจะได้เห็นความเลวร้ายของพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าขบวนการทำลายพรรคพลังประชาชน พร้อมๆ กัน

อดใจรอวันพรุ่งนี้ครับ



ประดาบ

ความคิดเห็นที่ 1 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 01:35 แก้ไขล่าสุดเมื่อ 22 ต.ค. 07 เวลา 10:25

liverpool มันช่างเลวได้ใจบ้านสี่เสาจริงๆ แล้วจะรู้ว่าพลังประชาชนที่แท้จริงเป็นอย่างไร เจอกัน 23 ธ.ค.นะบัง

ความคิดเห็นที่ 2 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 01:41

ทักทาย ชินชา ต้องไม่ "ลับ" แล้ว และสมควรเปิดเผยให้สื่อมวลชนได้รับทราบ แล้วให้อยู่ในดุลย์พินิจว่าควรอย่างไรที่จะวินิจฉัยดำเนินการกับผู้คิดทำลายระบบพรรคการเมือง เสมือนหนี่ง
ทำลายประเทศชาติด้วย เพราะแต่ละพรรคการเมืองย่อมมีจุดจบของตัวเองหากไม่ดำเนินการตามครรลองครองธรรม"ในระบอบประชาธิปไตย" โดยไม่ต้องรับกรรมจากผู้ตั้งธงกลั่นแกล้ง จากผู้ที่ทำการไม่ลับกับเมียสองคนโดยประชาชนรู้กันทั่วประเทศ

ความคิดเห็นที่ 3 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 01:49

ชาญ ไอ้บัดซบเอ้ย

ความคิดเห็นที่ 4 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 01:59

piya444



รายชื่อคณะกรรมการสกัดกั้นกลุ่มอำนาจเก่า......
คณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง........พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ดูแลด้านความมั่นคง เป็นประธานคณะกรรมการฯ/ นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี / พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธาน
และมีกรรมการอีก 47 คน อาทิ นายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี /พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม/ นายพงศ์-โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย/ นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม /นายไกรสร พรสุธี ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร/ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ /นายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ /นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
รวมทั้ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท. ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง นายกสมาคมนักข่าวนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นายกสมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และนักวิชาการอีกจำนวนหนึ่ง
โดยคณะกรรมการฯชุดนี้ มีอำนาจหน้าที่ดังนี้ คือ 1. กำหนดนโยบายและวางแผนดำเนินการตามวาระแห่งชาติในการแก้ปัญหาซื้อสิทธิขายเสียง 2. ส่งเสริมการเรียนรู้ประชาธิปไตยให้แก่ประชาชน รณรงค์ให้การเลือกตั้งปราศจากการซื้อสิทธิขายเสียง 3. สร้างความรู้ ความเข้าใจ และค่านิยมอันดีให้แก่ประชาชน 4. ส่งเสริมให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐวางตัวเป็นกลางฯ
.........รัฐบาลมุ่งที่จะจัดการกับเครือข่ายกลุ่มอำนาจเก่า …..พุ่งเป้าเล่นงานพรรคพลังประชาชนภายใต้การนำของนายสมัคร สุนทรเวช ที่ตัดต่อพันธุกรรมแปลงสภาพมาจากพรรคไทยรักไทย…….สกัดไม่ให้ขั้วอำนาจเก่า หวนคืนกลับเข้ามามีอำนาจอีก…ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ คมช. ในการยึดอำนาจจากรัฐบาล “ทักษิณ”

ความคิดเห็นที่ 5 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 02:29

piya444 คณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 264/2550 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ดังนี้
องค์ประกอบ รองนายกรัฐมนตรี (พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน) เป็น ประธานกรรมการ / รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (รองศาสตราจารย์ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์) และ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็น รองประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หรือผู้แทน /ปลัดกระทรวงกลาโหม หรือผู้แทน /ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ หรือผู้แทน /ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือผู้แทน / ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือผู้แทน/ ปลัดกระทรวงมหาดไทย หรือผู้แทน ปลัดกระทรวงแรงงาน หรือผู้แทน /ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ หรือผู้แทน / ปลัดกระทรวงยุติธรรม หรือผู้แทน /ปลัดกรุงเทพมหานคร หรือผู้แทน / ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือผู้แทน/รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (พลโท บันเทิง พูนขำ) โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หรือผู้แทน / อธิบดีกรมการปกครอง หรือผู้แทน /อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น หรือผู้แทน / อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ หรือผู้แทน / เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือผู้แทน / ประธานโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย หรือผู้แทน / กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือผู้แทน / ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทรูวิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ผู้แทน / ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 หรือผู้แทน / ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกองทัพบกช่อง 5 หรือผู้แทน /ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 หรือผู้แทน ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 9 อสมท. หรือผู้แทน / ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 หรือผู้แทน /ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี หรือผู้แทน/ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย หรือผู้แทน / นายกสมาคมอาสาสมัครสาธารณสุขไทย หรือผู้แทน / นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย หรือผู้แทน / นายกสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย หรือผู้แทน /นายกสมาคมนักข่าวบันเทิง หรือผู้แทน / นายกสมาคมวิทยุสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือผู้แทน / นายกสมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือผู้แทน / นายทวี สุรฤทธิกุล / นายธนภน วัฒนกุล /รองศาสตราจารย์ นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ / นายปรีชา บัววิรัตน์เลิศ / นายศิวะ แสงมณี / ศาสตราจารย์ สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ / และนายสมภพ เจริญกุล โดยมี เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นกรรมการและเลขานุการ / รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร (นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์)/ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี / พลตรี มารุต ปัชโชตะสิงห์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนายุทธศาสตร์และติดตามนโยบายพิเศษ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี / ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและประสานงานคณะรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี / ผู้อำนวยการสำนักประสานงานการเมือง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี / ผู้อำนวยการ สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี /และผู้อำนวยการกองคลัง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการและ ผู้ช่วยเลขานุการ
อำนาจหน้าที่
1. กำหนดนโยบายและวางแผนการดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง
2. ส่งเสริมการเรียนรู้ประชาธิปไตยให้กับประชาชนทุกภาคส่วน และรณรงค์ให้การเลือกตั้งปราศจากการซื้อสิทธิขายเสียง และตั้งอยู่บนพื้นฐานของความสุจริตและเที่ยงธรรม และความสมานฉันท์
3. สร้างความรู้ความเข้าใจ ค่านิยมและจิตสำนึกที่ดี ให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้ตระหนักถึงผลกระทบอันจะเกิดจากการซื้อสิทธิขายเสียง และมีส่วนร่วมในการรณรงค์แก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง
4. ส่งเสริมให้ข้าราชการและพนักงานของรัฐวางตัวเป็นกลางในการเลือกตั้ง
5. ประเมินผลและติดตามผลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด และให้รายงานปัญหาและอุปสรรคต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบเป็นระยะ ๆ
6. ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ สนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการอย่างเต็มความสามารถและรวดเร็ว เพื่อให้การดำเนินงานดังกล่าวบรรลุเป้าหมาย
7. แต่งตั้งที่ปรึกษา คณะอนุกรรมการ และคณะทำงาน เพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานตามที่เห็นสมควร
8. ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
สำหรับการเบิกจ่ายเบี้ยประชุม ให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ส่วนค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการอื่น ๆ ที่จำเป็นในการปฏิบัติงาน ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีตามระเบียบของทางราชการ
ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการยุติบทบาทภายใน 15 วันทำการ นับแต่วันที่คณะกรรมการการเลือกตั้งรับรองและประกาศผลการเลือกตั้งทุกเขตแล้วเสร็จอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป

ความคิดเห็นที่ 6 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 02:35

Guest ไอ้ ควาย มัน ชาติชั่ว

ความคิดเห็นที่ 7 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 03:19

Guest เศร้าใจจังเลย
ช่วยกันบอกๆต่อๆไปถึงเรื่องที่แสนจะเลวร้ายนี้ด้วยนะครับ
และพวกเรามาช่วยกันเลือกพรรคพลังประชาชนเถอะครับ

ความคิดเห็นที่ 8 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 03:42

รักทักษิณ บอกตรงๆ ครับ อ่านแล้วเกลียดไอ้บังและกลุ่มพวกมันมากครับ ผมเชื่อว่าต้องมีทหารกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับสนธิต้องทำการปฏิวัติเอารัฐธรรมนูญคืนครับ ไม่นานหรอกครับ นี่พวกมันยึดได้แค่ปีเดียวเอง ของพวกนี้ต้องใช้เวลาในการล้างแค้น ผมเชื่อว่าท่านทักษิณถ้าได้กลับมาครั้งนี้คงต้องล้างบางกันแบบหมดเปลือกแน่นอน

ความคิดเห็นที่ 9 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 03:44

Guest โปรดส่งสำเนาฉบับสมบูรณ์ให้แก่สถานทูตอเมริกันในกรุงเทพ ฯ เพื่อส่งต่อถึงทำเนียบประธานาธิบดีอเมริกันให้เห็นธาตุแท้ของทหารไทยทำลายประชาธิปไตย และช่วยดำเนินการบางอย่างเพื่อขัดขวางทำลาย

ความคิดเห็นที่ 10 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 04:07

Guestคนแม่ลาว/เชียงราย ขอให้คุณช่วยเผยแพร่ความจริงของพวกทหารเลว ๆ ออกมาให้หมด จะได้รู้กันเสียทีว่าสิ่งที่ถูกต้องและความเป็นธรรมมันยังมีอยู่ในโลก นี้ สังคมโลกเขาจะรู้ว่าการเลือกตั้งบริสุทธิ์อย่างไร คนไหนทำไม่ดีต้องได้รับผลในทางไม่ดี พวกทหารเลว ๆต้องถูกขจัดออกไป ทหารที่ดีต้องกล้าเผยความจริงออกมาและต้องต่อสู้เพื่อความถูกต้อง

ความคิดเห็นที่ 11 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 05:21

Guest คิดว่าที่เขาทำเช่นนี้ก็เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเขาเอง ผลประโยชน์ที่ถูกนายกทักษิณทำลายลงไป

ความคิดเห็นที่ 12 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 07:31

rangsun อ่านบทความแล้วมีอารมณ์เดียวกับคุณประดาบ เป็นกำลังใจให้ท่านพันเอก ตั้งแต่เปิดเผยเอกสารของทหารจ้างเชียรชั่ว และเอกสารเกี่ยวกับการดักฟังโทรศัพท์ของ เอไอเอส แล้ว สวรรค์มีตาคงให้ท่านพันเอกเป็นผู้นำกองทัพให้หารรักประชาธิปไตยที่แท้จริง

ความคิดเห็นที่ 13 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 07:36

Guest ไอ้บังชาติชั่วมึงเจอพวกกูแน่ 23 ธค สาด

ความคิดเห็นที่ 14 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 07:44

ลูกพยัคฆ์ คาดการณ์ว่าจะเกิดความวุ่นวาย จนนำไปสู่การรัฐประหารอีก ...มันดูถูกประชาชนอีกตามเคย -ไม่มีทางที่ทหารนอกคอกไม่กี่คนจะทำลายพลังประชาชนได้ ถึงจะวางตัวคนเป็นนายกฯ รวมกันตั้งรัฐบาลลูกผสมไว้แล้ว คนเจ้ากี้เจ้าการ ที่คิดว่าตัวยังมีอำนาจ สถาปนาตัวเองเป็นผู้พิทักษ์บ้านเมือง คุมการเลือกตั้ง สกัดพรรคพลังประชาชนทุกรูปแบบ ..หมายสูงเพื่อครองอำนาจเบ็ดเสร็จ ...ตั้งแต่ยึดอำนาจ รวบอำนาจมาได้ ไม่เคยมีสักวันที่นายพลนอกราชการคนนี้จะหยุดนิ่ง คงปฏิบัติการตามแผนบันไดหลายขั้นเดิบอกมี 4 ขั้น ตอนนี้เพิ่มเป็น 6 ขั้นแล้ว สงสารกองทัพไทยเสื่อมทรุดเสียหายมากกว่าครั้งใด ไม่ยอมกลับคืนกรม เพราะชาวบ้านได้เห็นแล้วว่า ไม่มีเหตุผลในการทำรัฐประหาร นอกจากการแย่งอำนาจและผลประโยชน์กัน ..พูดไม่ออก ใบ้กิน ทำตัวเป็นพระเตมีย์ใบ้ กันไปหมด ปล่อยให้คนชั่วครองเมือง ชาวบ้านเดือร้อนทุกหย่อมหญ้าเพราะสื่อมวลชนสำคัญตัวผิด สื่อมวลชนหลงลืมหน้าที่ของตัวเอง ยอมเป็นลูกกระจ้อกของเผด็จการ

ความคิดเห็นที่ 15 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 08:03

Guest99 คุณธรรมนำไทย ....
ทำดีให้เด็กดู ...
ถุย ไอ้อัปฯ จัญฯ โคตรกบฏ

ความคิดเห็นที่ 16 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 08:05

guest ใหม่ๆมันด่าสิงค์โปร ดักฟังโทรศัพท์ AIS GSM แต่ของDTAC ฝรั่งหัวล้านมันซื้อไปหมดแล้วแถมมานั่งบริหารเอง ออกโฆษณาทางTV "ผมจะจัดให้ครับ" ไม่เห็นมันด่าว่าเขาดักฟังโทรศัพท์เลย คนที่ซื้อขายหุ้นทุกคนเขาก็รู้ว่าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไม่ต้องเสียภาษี ไอ้สนธิบัง มึงไม่มีความรู้แล้วก็มาว่า นายกทักษิณโกงภาษี เปิดหูเปิดตาดูโลกเขาบ้างก่อนที่จะหลุด ปากพูดอะไรออกมา โง่แล้วยังอวดฉลาด ยิ่งพูดยิ่งเสียคน ขึ้นมาเป็นผบ.ทบ.ได้ยังไงวะ ขี้ขลาดเห็นแก่ตัว ย้ายลูกชายยศ พ.ต.ต. หนีโจรใต้จากยะลามาอยู่กองปราบ มึงคิดได้ยังไงวะเนี่ย แล้วลูกคนอื่นๆที่เขาอยากย้ายหนีบ้าง จะทำยังไงวะ ขวัญกำลังใจทหารหมดกันคราวนี้ พี่ๆน้องๆ ทหารที่อยู่ภาคใต้ ถ้าเข้ามาอ่านก็ระวัง รักษาตัวกันให้ดีๆนะครับ ถ้าตายหรือพิการ ลูกเมีย ก็ต้องโดนไล่ออกมาอยู่นอกค่ายแน่นอน ถ้าตายก็หมดเวร ลูกเมียก็เป็นหมาข้างถนน ถ้าพิการทำอะไรไม่ได้อาจโดนเมียทิ้ง เพราะไม่พอกิน แถมเจ้าหนี้ก็ตาม ผมเห็นของจริงมา กว่า 50 ปีแล้วครับ ผมแนะนำให้บังสนธิ กล่าวขอโทษประชาชน ว่าผมถูกไอ้ปีศาจคาบไปป์ฟันดำ กับขันทีเฒ่าหลอกใช้งาน แล้วลาออกเงียบๆ ไปอยู่บ้านใช้เงินให้สนุก แบบเสธ.หนั่น ไม่เปลืองตัว ให้ชาวบ้านเขามาด่า ดีกว่านะครับ ทำอะไรก็นึกถึง ลูกตัวเองบ้าง ยศแค่ พ.ต.ต. อายุยังน้อย ยังมีอนาคตอีกไกล ถ้าการเมืองเปลี่ยนขั้ว ลูกชายบังได้กลับไปอยู่ยะลา หรือนราธิวาสอย่างแน่นอน "เพื่อความเหมาะสม" ยังไง แล้วโจรใต้หรือญาติพี่น้องโจรใต้ที่โดนยิงโดนอุ้มหาย หรืออยู่ในถังแดง มันรู้ว่าเป็นลูกบัง มันจะทำยังไงกับลูกบังดีนะ ถ้ามันจับได้ มันคงตัดหัวถ่ายคลิปมือถือ เอาไว้โชว์แน่นอน หัวลูกประธาน คมช. ผบ.ทบ. รองนายก ผมแนะนำบังให้ดูพลเอกอาทิตย์ กำลังเอก เป็นตัวอย่าง เมื่อก่อนมีอำนาจ ก็กร่างน่าดู ลูกชายคุมหน่วย 123 เรียนแบบ 191แล้วตอนนี้เป็นยังไง หมดบารมี ไม่มีใครพูดถึงเลย ดวงคนเรามีขึ้นมีลง เหมือนน้ำขึ้นน้ำลงนะครับ ทำความดีมากๆนะบังนะ กลับลำยังไม่สายนะครับ

ความคิดเห็นที่ 17 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 08:07

555 บ้านเมืองนี้ทหารดีๆๆไปไหนหมด จะปล่อยให้ทหารเลวๆๆทำลายประชาชนและประเทศชาติไปถืงไหน คมช.มันชั่วจริงๆๆ รากหญ้าจะเลือกพลังประชาชนชะอย่างมืงอย่ายุ่ง ประเทศไทยไม่ใช่ของบังสนธิโว้ย?

ความคิดเห็นที่ 18 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 08:27

คนรู้ไส้บัง บังเห้ยมานาน โง่ก็แสนโง่ ดีแต่มีมือมีตีนเท่านั้นเอง ลำพังำไม่มีท่าหรอก

ความคิดเห็นที่ 19 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 09:06

gimlly FW.Mail ต่อให้ทราบโดยทั่วกัน โปรดฟังอีกครั้ง

ความคิดเห็นที่ 20 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 09:25

รานี "สนธิ สั่งทำลายพลังประชาชน แฉแผนบันไดขั้นที่ 4 – 5 – 6"

คิดได้แต่ในเรื่องที่ไม่สร้างสรรนะ ยังงี้ประเทศจะเจริญได้ไง ถ้าไม่เลิกนิสัยทำลายล้างฝ่ายตรงข้าม เผด็จการยังคงครอบงำจิตใจอยู่มากมาย นะคะ

ความคิดเห็นที่ 21 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 09:38

Guest พวกเราใจเย็นๆ อีกไม่กี่เดือนน้าหมักแขวนคอมันแน่

ความคิดเห็นที่ 22 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 10:10

ปรวย salty head ช่วยแปลเอกสารเหล่านั้น
แล้วนำไปให้สื่อต่างประเทศด้วยครับ

ความคิดเห็นที่ 23 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 10:55

Guest http://www.hi-thaksin.org/contentdetail.php?ParamID=74356
เป็น link คุณประดาป เกี่ยวกับข้อความทั้งหมดข้างบนนี้ ช่วยกันส่งต่อให้เพื่อนๆด้วยนะคะ

ความคิดเห็นที่ 25 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 10:59

บังเอง เห็นทักษินรวยแล้วมันอิจฉา ไม่ทำอย่างนี้ก็ไม่รวยล้นฟ้า รู้ดีว่าเวรกรรมไม่มีจริง เสวยสุขมาปีกว่าแล้ว ก็ยังยังสบายดีอยู่ ทำชั่วอะไรก็ได้ สื่อก็รุมกันเชียร์ คุณธรรมหรือจะสู้กระสุนปืน คิดจะเป็นใหญ่ทางลัด ต้องหัดฆ่าคนเป็น ปล้นคนแล้วแบ่งเงินที่ปล้นมาเอาไปทำบุญ ก็เห็นมีคนอนุโมทนา อยู่เมืองไทย แค่ปากบอกว่ารักชาติ เกลียดคนโกง รักราชบัลลังก์ มีคุณธรรม เท่านี้ ก็ตั้งเป้าทำชั่วได้แล้ว คนไทยเชื่อคนแบบนี้จริง ๆ

ความคิดเห็นที่ 26 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 11:08

guest Please send the documents to the UN, USA, England and สื่อต่างประเทศ to see how cruel of the COUP.

I'm cursing every second, every minute, every hour and every day for those COUP to go to HELL soon.

Those people do not worth to live on EARTH.

ความคิดเห็นที่ 27 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 11:08

Guest ขอโทษครับ ผมอ่านเอกสารแล้วทำไมไม่เห็นมีอะไร
ขออ่านฉบับอื่นๆอีกหน่อย

ดูอย่างเป็นกลางนะ ขอเอาแบบจะๆหน่อย

ความคิดเห็นที่ 29 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 11:21

Guest เลวจังเลย เวรกรรมมีจริง ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงโทษคนชั่ว ปีศาจคาบคัมภีร์ทั้งหลายให้ได้รับโทษทัณฑ์แสนสาหัส ทั้งในโลกนี้ ในนรกภูมิ และโลกหน้า เพี้ยง ๆ ๆ ๆ ๆ

ความคิดเห็นที่ 31 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 11:26

Guest ประเทศไทย ไม่มีทหารดีๆเลยหรึอ

ความคิดเห็นที่ 32 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 11:28

คนพระนคร อย่างนี้ต้องนำมาเปิดเผยครับ

ความคิดเห็นที่ 33 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 11:44

คนไทย มันเลวจริง ๆ สร้างหลักฐานเท็จ ทำลายชาติ ตัวจริงเลย คนมันชั่ว

ความคิดเห็นที่ 34 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 11:48

Jumjim forward is detail to your family, your friends to connect to hurry and me also. พวกเราอย่ามัวเกลียดชังบรรดาท่าน เลว ๆ ทั้งหลายเหล่านี้อย่างเดียวนะคะ ขอโปรดได้ส่งต่อข้อความหรือปริ้นเอกสารเหล่านี้ให้พี่น้องและเพื่อน ๆ ของท่านและท่านที่สามารถเข้าเน็ตและรับข่าวสารจาก HI -THAKSIN.....ได้โปรดส่งข่าวสารให้ผู้ที่ไม่สามารถเหมือนพวกเรา . ได้รับทราบความน่าเกลียด น่าชัง.......มันน่า ยิงกระบาลเสียรู้แล้วรู้รอด นะเจ้าคะ พวกเฮีย เฮีย ทั้งหลายนี้ จริง..ดังว่าเราปล่อยให้คนเลวไม่กี่คนทำ บ้านเมืองพินาศ แล้วคนดีละ ทำไมท่านยอมเขา..........ถีงเวลาแล้วหรือยังคะ ที่เราต้องกำจัด เสนียดพวกนี้ออกไป............แค่นี้ก่อนนะคะ เดี้นยจะไปส่งข่าวให้ญาติที่ต่างจังหวัดได้รับทราบ......... ร้อนใจ ดังไฟสุมทรวง.........ปริ้นเสร็จพอดี 1 ดรีมกระดาษเท่านั้นเอง [1 ดรีม = 450 แผ่น] แล้วเดี้ยนจะ ส่งต่อข่าวไปให้เพื่อนที่ Europe ด้วยคะ............. ขอสิ่งศักดิ์จงดลบันดาล ให้ชาติพ้นเสนียด ....... ผิดนะเจ้าคะ ...ให้เสนียดพ้นชาติไทย ถึงจะถูกคะ...........

ความคิดเห็นที่ 35 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 11:50

Guest อ่านแล้วเศร้าใจ..

ความคิดเห็นที่ 36 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 11:52

GuestThai Patriot Khun Pradaap, are you going to bring the secret plan to show Khun Samak or not? It is a good idea if you bring it to show them.

I belive Khun Samak will then have something to fight back with.

Thank you for your help and don't forget to take care of yourself too.

ความคิดเห็นที่ 37 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 12:14

phim** เมื่อ เสาร์ที่ 20 /10/50 สังเกตุป้ายพรรคพลังประชาชนที่ติดไว้ตามแยกปากเกร็ดและแถวตลาดท่าน้ำปากเกร็ดถูกเก็บหมดเลย บางป้ายก็ถูกทำลายด้วย นี่หรือ การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ และ ยุติธรรม หรือ

ความคิดเห็นที่ 38 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 12:16

Guest เรื่องยึดอำนาจรอบใหม่ตามที่ บังธิและลิ้วล้อ จะเปรยเพื่อข่มขู่ฝ่าย พปช. บ่อยๆนั้น ขณะนี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเหมือนคราวที่แล้ว เพราะนายทหารส่วนใหญ่รู้แล้วว่าขณะนี้กองทัพไทยอยู่ในสภาพอ่อนแอเพียงใด จากการถูกตัดความช่วยเหลือจากมิตรประเทศ และถูกห้ามขายอาวุธ อาหลั่ย และอุปกรณ์ซ่อมบำรุงจากอเมริกา และยุโรป ทำให้กองทัพไทยขณะนี้อยู่ในสภาพใกล้อัมพาต ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้หากมีการรุกรานจากภายนอก หรือแม้แต่หากเกิดสงครามประชาชนขึ้น กองทัพก็ไม่สามารถยันการรบได้นานนัก และการบอยคอตทางการค้าจากนานาประเทศ ก็จะทำให้กลุ่มทุนเก่า ที่หนุนเผด็จการเปรม เสียหายมหาศาลจนอาจถึงล้มละลายได้ และทรัพย์สินของกลุ่มทุนเก่าที่อยู่ในต่างประเทศก็อาจถูกมาตรการอายัดทรัพย์ แบบที่เกาหลีเหนือและพม่า ถูกกระทำ ดังนั้นการยึดอำนาจรอบใหม่ จึงเป็นเรื่องที่ฝ่ายทุนเก่าเองจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นแน่นอน เป็นเพียงคำข่มขู่แบบเขียนเสือให้วัวกลัวเท่านั้น, ขอให้ ปชช. เดินหน้าช่วยกันหาเสียงแบบปากต่อปาก เพื่อร่วมกันแสดงพลังประชาชน ทวงคืนอำนาจอธิปไตยของเรากลับคืนมา ในวันที่ 23 ธ.ค.50 นี้ ด้วยความมุ่งมั่นและภูมิใจ.

ความคิดเห็นที่ 39 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 13:02

Guest ก่อนอื่น ต้องขอขอบคุณท่านพันเอกและทหารดีๆอีกบางส่วนที่กล้านำหนังสือลับและข้อเท็จจริงมาเปิดเผย
ขอประนามสาปแช่งทหารชั่วๆ ที่ยอมทำตัวเป็นหมารับใช้ให้กับไอ้กาลีเฒ่าและไอ้ตู๊ดบัง
ความเห็นส่วนตัว ยิ่งกีดกัน ยิ่งตี พรรคพลังประชาชนจะยิ่งเข้มแข็งและยิ่งเติบใหญ่
ถ้าทหารชั่วๆคิดจะก่อการรัฐประหารอีก คงไม่ง่ายอย่างที่คิด จะได้รับการต่อต้านทั้งจากทหารที่ดีและประชาชน
พวกทหารชั่วๆ หมารับใช้กลุ่มพาลทะมิด นักวิชามาร และนักการเมืองที่ชอบกินฉี่ทหาร
พวกนี้คงไม่แก่ตาย และจะไม่มีแผ่นดินอยู่

ความคิดเห็นที่ 40 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 14:44

คนไทยในต่างแดน ให้ทางพปช. นำเอกสารเหล่านี้ ไปยื่นร้องเรียนต่อ กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ หรืออาจจะเป็น ศาลปกครอง ได้หรือไม่ เพื่อที่จะได้ใช้เป็นยันต์กันหมาหมู่กัดเอา เพราะตอนนี้ประเทศเรามีรัฐธรรมนูญใช้แล้ว ประชาชน หรือแม้แต่พรรคการเมืองต่างๆ น่าที่จะได้รับการคุ้มครองตามสมควร พวกเราอย่ายอมให้ไอ้พวกหมาหมู่ มันทำร้าย ไล่กัดอยู่ฝ่ายเดียว
ประเทศไทย ไม่ใช่ของพวกมันเพียงฝ่ายเดียว ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน บอกตรงๆ ว่าเอียนพวกมนุษย์ พันธุ์หมาๆพวกนี้มาก เมื่อไหร่ มันจะพ้นไปจากแผ่นดินไทย เสียที มันจะทำอะไร มันไม่คิดถึงประเทศชาติ มันคงอยากให้ประเทศไทย เหมือนประเทศปากีสถาน (ไม่แน่ใจ ว่ามันคิดอะไรอยู่ในใจ)

ความคิดเห็นที่ 41 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 15:50

Guest เอาเอกสาร ไปยื่น กกต. แล้วให้คณะ ตุลาการรัฐธรรมนูญ ชี้ขาด
คาดว่า จะมีมติ ให้ ยุบ กองทัพบก

ความคิดเห็นที่ 42 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 16:20

คนเมืองนนท์ เหี้ยมากไอ้สนธิ แล้วจะเจอกันไอ้แขกแดกหมู

ความคิดเห็นที่ 44 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 16:26

singha21 เมื่อไรจะกำจัดคนเลวพวกนี้เสียทีนะ
จะปล่อยให้พวกมันทำลายล้างอยู่อย่างนี้หรือ

ความคิดเห็นที่ 45 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 16:33

tunlee สยองขวัญ! กับผู้มีอำนาจในปัจจุบันนี้ ปากก็บอกมีคุณธรรม จริยธรรม โกหก รายวัน ชั่วร้ายที่สุด มันกำลังจะพาบ้านเมืองเข้าสู่ระบอบสังคมนิยมที่ครอบด้วยระบอบตะหาน!

ความคิดเห็นที่ 46 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 17:12

Guest ไอ้บังและคมช. นี่มันเลวได้ใจจริงๆ

ความคิดเห็นที่ 47 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 17:32

pround
I read with tear, i know nothing about true soldier but now I know.
The General(Great Soldier who never die) is so brave he willing to risk his life to safe Thailand and safe Thai people, eventhough he know what will happen to him,and this I call courage, intrigrity . He know this might be the last chance for him to breath again but you know what" he take it!". I am so pround to born Thai and it is honour to know you Mr.Gerneral . lets goodness of this land protect you from any harm.
I love you, we love you

slute to Thai soldiers.

ความคิดเห็นที่ 48 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 18:02

ชนินทร์ ทุกอย่างมันวางแผนกันไว้หมดแล้ว ไม่รู้จะทำอย่างไรดีก็ได้แต่ขออ้อนวอนพระสยามเทวาธิราชเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยคุ้มครองคนที่คิดดีทำดีเพื่อประเทศไทยด้วยเถิดสาธุ

ความคิดเห็นที่ 49 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 18:30

เกลียด คมช. พวกคนชั่ว อ่านแล้วเศร้าใจอ่ะ เข้าใจคุณประดาบเลยอารมณ์โกรธจนไม่สามารถเขียนได้ เหมือนผมที่โกรธจนไม่สามารถอ่านจนจบได้เลยครับ ทำไมคนเลวมันถึงได้อยู่ทนทานดีจัง ทำไมกรรมมันตามพวกมันช้าจัง สงสารในหลวงนะครับ ทำไมพวกนี้ไม่มีสำนึกบ้างเลย ถ้าประเทศชาติสูญสิ้นแล้วพวกมันจะอยู่ยังไง มันไม่รักแผ่นดินนี้เลยหรือ ระยำจริง ๆ

ความคิดเห็นที่ 50 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 18:48

siri ขอสาปแช่งพวกเหล่ามารจงพินาศวอดวายทั้งวันนี้และอนาคต

ความคิดเห็นที่ 51 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 19:23

kiddo ความเห็นใดก็ตามที่บอกว่าอ่านแล้วเฉยๆ ก็ต้องขอให้เหตุผลแบบเป็นกลางจริงๆ ก็คือ มันเป็นความเลวที่คาดถึงได้จากเผด็จการทหารสันดานกาพวกนี้ รวมทั้งอีตุ๊ดแก่หัวหน้ามันนะแหละ เลวแบบนี้สำหรับพวกมันถือว่าเด็กๆ เพราะความเลวของพวกแก๊งค์สี่เสานั้น เลยชั้นทรราชามานานแล้ว
แล้วพลังประชาชนจะสั่งสอนมัน

ความคิดเห็นที่ 52 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 19:28

โลตัส ทหารด้วยกันเห็นแล้วยังเศร้าใจเลย ตอนแรกมีคนถามมันว่ายึดอำนาจครั้งนี้ไม่เป็นการเนรคุณคุณทักษิณหรือ มันตอบว่า ชาติต้องมาก่อน ตอนนี้ไม่ต้องปฏิเสธหรอก ตัวมันเองเกลียดชังคุณทักษิณ ถ้ามันดีจริง มันก็ต้องเดินสายกลางมาตั้งแต่ต้นแล้ว คนมันเนรคุณไม่รู้จักบุญคุณคน เลวจริงๆ

ความคิดเห็นที่ 53 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 19:43

Guest เราตั้งสติแล้วก็ช่วยกันหาเสียงให้พลังประชาชนกันดีกว่านะ สู้ สู้ ค่ะ ด้วยความบริสุทธ์ และไม่ผิดศีลค่ะ นรก สวรรค์มีจริงค่ะ

ความคิดเห็นที่ 54 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 19:46

J.Oz คนพวกนี้ ทำไมจิตใจถึงได้ผิดมนุษย์มนา
ในหัวจิตหัวใจไม่มีความรักในแผ่นดินเกิดเลยหรือยังไง

ความคิดเห็นที่ 55 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 19:50

Guest คนไทยลืมแล้วหรือต้นเหตุเกิดจากความอิจฉาของคนหัวขาว(ท่านทักษิณเก่งกว่า) มันถึงแย่จนบัดนี้

ความคิดเห็นที่ 56 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 20:12

สิงห์ดำ เรียน คห 27 เค้ายังไม่ได้เอาอะไรมาลง ไอ้ที่เค้ารุมด่ากันน่ะ เค้าเห็นตามที่คุณประดาปเห็น คุณนี่ ถ้าเป็น 2.4 ก็ไปอยู่ที่อื่น ไม่ต้องมาเป็นกง เป็นกลาง ที่ที่ต้องการคนที่เอียงมาทางนายกทักษิณ ไม่ใช่ตรงกลาง

ความคิดเห็นที่ 57 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 20:25

แล้วพวกมันจะได้รู้กันว่า ประชาชนจะเลือกใคร

เจอแขกกับเจองู เค้าให้ตีแขกก่อน แล้วค่อยเอางูขว้างใส่หน้าแขก

ความคิดเห็นที่ 58 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 20:33

Guest อารมณ์เดียวกับคุณประดาบและทุกๆ ความคิดเห็น ไม่รู้ว่าจะใช้คำไหนด่ามันถึงจะเหมาะสมกับความชั่ว แม้แต่ชื่อมันยังไม่อยากเอ่ยให้เป็นเสนียดปาก
ประทับจำคำพูดของท่านพันเอกมาก “ ไม่ต้องห่วงผมหรอก คุณไปห่วงประเทศชาติดีกว่า ไม่มีผม ประเทศ อยู่ได้ ไม่มีประเทศ ทั้งคุณกับผม อยู่ไม่ได้" แล้วประเทศไทยยัง
เหลือทหารดีๆ อย่างนี้อีกสักกี่คน ทำไมถึงทำอะไรไอ้ชาติชั่วคนนี้ไม่ได้ ถ้าขืนปล่อย
ให้เป็นอย่างนี้ อีกหน่อยประเทศไทย คงไม่มีใครเขาคบค้าสมาคมด้วย (หมายถึงนานาประเทศ) เศร้าใจจริงๆและเครียดมากด้วย ไม่รู้อีกนานแค่ไหนที่คนในประเทศจะยิ้มได้อย่างภาคภูมิใจ

ความคิดเห็นที่ 59 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 21:05

คนระดับกลาง อึ้งมาก.......ไม่อยากเชื่อเลย ก็ไหนว่า ให้การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นเป็นประชาธิปไตยจริงๆ..........ก็น่าจะยอมรับการตัดสินใจของประชาชนสิ.

ความคิดเห็นที่ 60 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 21:28

Children My computer fiiled.
I tried to fixed them it able but cannot typing Thai.

I wanna to do something to make a thai peaple see this thing is politic game.

ความคิดเห็นที่ 61 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 21:38

Guest เลวถึงใจพระเดชพระคุณดีแท้ ขอทหารดีๆที่มีอยู่มากคงต้องลุกขึ้นสู้แล้ว ประชาชนพร้อมจะร่วมด้วยกับท่านแน่ (อย่างน้อยผมคนนึง) ...........ต้องขอทหารดีเพราะประชาชนอย่างผมไม่มีรถถัง

ความคิดเห็นที่ 62 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 21:59

น้ำตาลไหม้ เผด็จการเป็นอย่างนี้
หนูๆดูเอาไว้
อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
ยังไงก็อย่าได้ลืมคำพูดของใครบางคนเสียเล่า
ท่เขาเดินสายพ

เผด็จการ เป็นอย่างนี้
หนูๆดูเอาไว้
อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
นึกถึงคำพูดของใครบางคน
ที่เดินสายพูดตามโรงเรียนตาหาน
เขาว่า"ชาติบ้านเมืองเป็นของศักดิ์สิทธิ์
ไม่ใช่ของคนกลุ่มใด
พระสยามเทวาธิราชมืจริง
และจะลงโทษคนที่คิดร้ายต่อชาติบ้านเมือง"
สาธุ
กราบนมัสการพระสยามเทวาธิราช

ความคิดเห็นที่ 64 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 22:22

mn http://www.youtube.com/watch?v=aicDhToD_Yg

ความคิดเห็นที่ 65 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 22:27

Guest นำไปเผยแพร่ทางสื่อมวลชนให้ได้นะครับ แล้วมันจะกระจายไปเอง ถ้ามัวแต่เผยแพร่ในเว็บก็คงรู้แค่เพียงพวกเราที่เล่นและเข้ามาดูอยุ่ทุกวัน ทำยังไงก็ได้ที่จะทำให้เอกสารเหล่านี้ถูกเผยแพร่ออกไป ผมคิดว่าถ้าทำได้นะครับ อย่างน้อยๆที่สุดมันก็จะวางตัวลำบากและตอบคำถามสังคมไม่ได้ว่าเพราะเหตุใด จะเสียเท่าไรก็คิดว่าคุ้มนะครับถ้าสามารถทำให้เอกสารพวกนี้ออกสู่สังคมได้ จริงๆนะครับ

ความคิดเห็นที่ 66 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 22:31

Guest กล้าจะเอาข้อมูลลับๆ นี้ออกมาแฉต่อหน้าสาธารณะชนได้หรือ ถ้ากล้าเอามาโชว์ ก็จะช่วยด่าพวก คมช/รัฐบาล ด้วยนะ แต่ถ้าไม่กล้าก็แสดงว่าคุณเมคข้อมูลนี้ขึ้นมาเอง ขอท้ายเลยนะ กล้าๆ หน่อย เอามาโชว์ออกข่าวตามหนังสือพิมพ์ทุกฉบับเลย ถ้าเป็นความจริงผมจะยืนเคียงข้างคุณและความถูกต้องเสมอ แต่ถ้าคุณไม่กล้าแสดงว่าหน้าตัวเมียเมคเอกสารขึ้นมาเองเพื่อหลอกคนรับจ้างโพสตามเวป แต่ผมว่า คห.นี้ของผมคุณคงจะบล็อคไว้ เพราะคุณมันก็พวกไม่กล้าสู้ความจริง

ความคิดเห็นที่ 67 :: วันที่ 22 ต.ค. 07 เวลา 23:10

Guest คหที่๒๗ คือพวกทีคอยเข้ามาแทรกแล้วทำลายไม่ต้องเสแสร้งหรอกครับการต่อสู้ในเวลาปัจจุบันมันถูกแบ่งออกเป็น ๒ ขั้วอย่างชัดเจนแล้วระหว่างประชาชนที่ต่อสู้เพื่อชาติและประชาธิปไตยและความเป็นธรรมของสังคมโดยมีพรรคพลังประชาชนเป็นขบวนการแนวหน้ากับอีกขั้วหนึ่งคือพวกศัตรูของประชาชนโดยมีพวกศักดินาและลูกสมุนที่เป็นขี้ข้ารับใช้พวกเขาโดยมีกลุ่มทหารเลวๆจำนวนไม่กี่คนและพวกนักวิชาการขายตัวเป็นลูกมือให้แก่พวกเขาเพื่อการสืบทอดอำนาจของครอบครัวของตนเองและลูกหลานของพวกเขาต่อไป เดี๋ยวนี้ความเป็นกลางในสังคมมันไม่มีแล้วถ้าคุณไม่เข้าข้างประชาชนคุณก็คือศัตรูของประชาชน ฉนั้นอย่ามาเสแสร้งจงไปเสียที่อื่น
สำหรับเรื่องการปฏิวัติรัฐประหารที่พวกทหารเอามาขู่นั้นไม่ต้องกลัวหรอกให้มันทำเลยมันทำมาแล้วช่วงหนึ่งปีกว่ากำลังของพวกมันยิ่งออ่นลงถ้ามันจะยึดอำนาจอีกก็คือการขุดหลุมฝังพวกมันเองทั้งหมดของพวกศักดินานั้นเลยซึ่งกำลังอ่อนแอลงมากทุกทีก็คงจะมีวิธีเดียวที่พวกมันคิดว่าจะต่ออายุมันออกไปได้ แต่ประชาชนมีความตื่นตัวมากแล้วประชาชนมีจิตสำนึกเราเคยมีประชาธิปไตยมีสิทธิเสรีภาพแต่ถูกพวกมันปล้นเอาไปพวกมันนึกว่ามันจะเอาอำนาจมากดขี่ประชาชนได้เหมือนที่มันเคยทำมาแล้ว ถ้าชาติไม่มีประชาชนแล้วพวกมันก็อยู่ไม่ได้ ถ้ามันจะอยู่ได้ต้องมีประชาชนหนุนหลังแต่บัดนี้มันได้ถูกแยกตัวออกไปจากประชาชนแล้วมันจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดของพวกมัน เราต้องเดินหน้าต่อไป

คนโคราช

ความคิดเห็นที่ 68 :: วันที่ 23 ต.ค. 07 เวลา 00:55

Guest ไอ้ฟาย คห.66 ไปดูในราชดำเนินไป เขาเอาออกมาแล้วไอ้ฟาย แล้วเอ็งจะยอมอยู่ฝ่าย ปชต.มั้ย ถ้าไม่อย่างที่ท้าไว้ขอให้ชีวิตมีแต่ความชิบหาย ทำอะไรก็ไม่ขึ้น

ความคิดเห็นที่ 69 :: วันที่ 23 ต.ค. 07 เวลา 01:12

Guest อี..ป...แน่เลยไม่ยอมแพ้..จนกระทั้งสิ้นลม...เชื่อเถอะ..

ความคิดเห็นที่ 70 :: วันที่ 23 ต.ค. 07 เวลา 01:15

Guest ดูแผ่นที่ 3-4 แล้วจะรู้ดนมันชั่ว...เต๊มๆๆ...สุดชั่วจริงๆ...

ความคิดเห็นที่ 71 :: วันที่ 23 ต.ค. 07 เวลา 01:26

Guest คห66 ..
คิดอะไรอยู่..ฝังใจอะไรหรือเปล่า...
ข่าวนี้ไปทั่วโลกแล้ว......


http://www.prachatai.com/webboard/topic.php?id=503583

สนธิ สั่งทำลายพลังประชาชน แฉแผนบันไดขั้นที่ 4 – 5 – 6
สังคมและการเมือง


--------------------------------------------------------------------------------
โพสต์: rider

ID#503583 เมื่อ: 2550-10-22 10:07:23



ขอประทานโทษ ที่หายหน้าไป 3 วัน เพราะมัวแต่ไปตามหาบันไดขั้นที่ 4- 5 -6 ของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน

รองนายกรัฐมนตรี คนดีศรีเผด็จการ ที่เตรียมไว้สกัดกั้นพรรคพลังประชาชน ตามที่นัดกับ “ท่านพันเอก” ไว้

ตื่นเต้นมาก ที่จะได้พบกับ “ท่านพันเอก” ตัวเป็นๆ หลังจากที่ข่าวคราวจากท่านเงียบหายไปหลายนาน ได้รับอีเมลล์จากอีกครั้ง “ท่านพันเอก” ของพวกเรา ก็ถูกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่จังหวัดปัตตานี เสียแล้ว

แม้จะต้องเดินทางไกลถึงปัตตานี โดยที่ยังไม่รู้ว่าจะได้เอกสารอะไรติดมือกลับมา ผมก็ไม่ลังเลที่จะเดินทางทันที เพราะเครดิตของ “ท่านพันเอก” ในเรื่องเอกสาร “ลับ” ไม่เป็นที่สงสัย หรือหวาดระแวงต่อผม แม้แต่เวบเดียว

เป็นครั้งแรกที่ ผม กับ “ท่านพันเอก” ตัดสินใจพบปะกันแบบไม่ต้องปิดบังตัวตน ไม่ต้องนัดหมาย รับ-ส่งเอกสาร ในที่ลับตาคน เหมือนสายลับในหนังเจมส์บอนด์ อีกแล้ว เพราะเราต่างมั่นใจในความปรารถนาดีที่เราทั้งสองคนมีต่อประเทศชาติเหมือนกัน ตรงกัน

หลายท่านอาจจะงงว่า ผมกำลังพูดถึง “ท่านพันเอก” ที่ไหน กองทัพไทย หรือกองทัพชาติไหน เพราะเห็นไปไกลถึงปัตตานี ที่ไม่รู้ว่าวันนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยหรือไม่ แต่หลายท่านคงจำได้ถึง “ท่านพันเอก” ท่านนี้

“ท่านพันเอก” ที่ผมพูดถึงนี้ เป็นนายทหารผู้มีคุณูปการกับพวกเราอย่างมาก จากการที่ท่านนำเอกสาร “ลับ” และ “ลับมาก” ของกองทัพ และ คมช. ส่งมาให้พวกเราได้ดู ได้อ่าน ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของนายทหารใหญ่แต่ละคน อย่างที่เราไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้ และไม่น่าจะมีโอกาสได้รับรู้ หากว่า “ท่านพันเอก” ไม่นำเอกสารหลักฐานมาเปิดเผย

ความห่วงใยบ้านเมืองของ “ท่านพันเอก” ทำให้เราได้รู้ว่า กองทัพบก จ้าง
นายเชียรช่วง กัลยาณมิตร น้องชายสายโลหิต ของพล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร
เป็นผู้จัดทำแผนปฏิบัติการประชาสัมพันธ์เชิงรุก หรือที่รู้จักกันในชื่อ แผนทำลายไทยรักไทย ด้วยเงินค่าจ้างเดือนละ 2,000,000 บาท เป็นเวลา 6 เดือน ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงาน อีกเกือบ 70 ล้านบาท

แผนงานของนายเชียรช่วง กัลยาณมิตร ที่วันนี้ เป็นเลขาธิการพรรคประชาราช ไปแล้ว มีตั้งแต่การจ้างนักศึกษาประชาชนเดิน ขบวนประท้วงรัฐบาลสิงคโปร์ วางหรีดดำที่หน้าสถานทูตสิงคโปร์ จ้างบุคคลทั่วไป ปฏิบัติการตอบโต้กระทู้โจมตีคมช. และโพสต์กระทู้ให้ร้ายนายกฯทักษิณ ซึ่งอยู่ในข้อ 2.4 ของแผนปฏิบัติการเชิงรุกฯ และเป็นที่มาของการเรียกพวกรับจ้างโพสต์กระทู้ในเวปไซต์ต่างๆ ว่า เป็นพวก “2.4” รวมไปถึงการจ้างนักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัยของรัฐ จำนวนหนึ่ง ไปเดินสายอภิปราย ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อ กล่าวหานายกฯทักษิณ เป็นฆาตรกรฆ่าตัดตอน ละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยมี นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ เป็นหัวหน้าทีม

ความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ฉ้อฉลของ “ท่านพันเอก” ทำให้เราได้รู้ว่า กองทัพภาคที่ 1 มีคำสั่ง “ลับ” ให้ทำลายธุรกิจของบริษัทเอไอเอส และ เครือชินคอร์ป และทำให้เห็นว่ารัฐบาลสิงคโปร์ ไม่จริงใจต่อประเทศไทย มีแผนการดักฟังโทรศัพท์ ล้วงความลับของกองทัพไทย และทำลายมวลชนของพรรคไทยรักไทย ให้หมดสิ้น ปล่อยข่าวล่วงหน้าพรรคไทยรักไทย ถูกยุบตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2550 ก่อนที่ตุลาการรัฐธรรมนูญ จะวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักไทย ในเวลาอีก 4 เดือนต่อมา

ความห่วงใยและซื่อสัตย์ต่อบ้านเมือง ประชาชน ของ “ท่านพันเอก” ทำให้ ประชาชนหูตาสว่าง และเห็นภาพชัดเจนมากว่า กองทัพที่นำโดยพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน มีแผนการที่จะก่อการรัฐประหาร ยึดอำนาจจากนายกฯทักษิณ ไว้ล่วงหน้า ไม่ใช่เป็นการยึดอำนาจแบบฉุกละหุก ตามที่โกหกและสร้างเรื่องขึ้นในภายหลัง มีการวางแผนที่จะทำลายพรรคไทยรักไทย นักการเมือง ประชาชน กลุ่มพลังมวลชน องค์กรประชาชน ที่สนับสนุนพรรคไทยรักไทย มาแต่ต้นและอย่างต่อเนื่อง โดยไม่คำนึงว่าคำสั่งและปฏิบัติการเหล่านั้น จะส่งผลกระทบ ส่งผลร้ายถึงประชา ชน และประเทศชาติอย่างไร

เอกสาร “ลับ” จากท่านพันเอก ที่ผมนำติดตัวกลับมาจากปัตตานี ในครั้งนี้ ทำให้ผมถึงกับขนลุกซู่ไปทั้งตัว หลังจากอ่านจบในรอบแรก และเมื่อเงยหน้าขึ้นมอง “ท่านพันเอก” ที่นั่งอยู่ตรงข้าม ในร้านน้ำชาแห่งหนึ่ง ในตัวเมืองปัตตานี ท่านก็หลบตาลงต่ำ แล้วพูดเบาๆ ในลำคอ พอได้ยินแต่ไม่ชัดนักว่า “ในฐานะทหาร ผมเสียใจ”

ผมได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ แล้วเลื่อนเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะ คืน ก่อนจะพูดขึ้นว่า คำสั่งในเอก สารนี้ ไม่มีทางทำให้ผมเชื่อได้เลยว่าเป็นเรื่องจริง หากไม่ใช่ว่าได้มาจากนายทหารระดับสูงที่เคยเปิดเผยเอกสารลับที่กองทัพต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงมาแล้วทุกครั้ง ไม่เคยมีพลาดแม้แต่ครั้งเดียว

ผมถามว่า “ท่านเสียใจเรื่องอะไร”

ท่านพันเอก บอกว่า “ผมเสียใจที่มีทหารบางคนในกองทัพ คิดลั่งการให้กำลังพลปฏิบัติการเช่นนี้ ผมก็ไม่เชื่อในครั้งแรกที่ได้เห็น แต่จากการตรวจสอบกับเพื่อนที่อยู่ในหน่วยปฏิบัติและได้รับเอกสารชิ้นนี้ด้วย ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง”

ผมถามว่า “ท่านคิดไหมว่าหากเอกสารฉบับนี้ถูกเปิดเผยออกไป จะเกิดอะไรขึ้นกับกองทัพ และผู้ออกคำสั่ง”

ท่านพันเอก บอกว่า “ผมคิดอยู่หลายวัน ได้ข้อสรุป เปิดออกไปแล้ว กองทัพได้รับผลกระทบแน่นอน อดีตผู้บังคับบัญชาเสียหาย แต่ถ้าไม่เปิดเอกสารให้สังคมรับรู้ ประเทศชาติ จะเสียหาย และวันหนึ่งเมื่อความจริงถูกเปิดเผยออกมา ว่ามีเอกสารฉบับนี้ หลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว กองทัพ จะเสียหายมากกว่าที่ถูกแฉในเวลานี้”

ผมถามว่า “ท่านมั่นใจความปลอดภัยของตัวเองแค่ไหน หลังจากเอกสารถูกเปิดเผยออกไปแล้ว” เหตุที่ถามเช่นนี้ เพราะผมรู้สึกผิดตั้งแต่ได้รับอีเมลล์ ว่าท่านถูกย้ายมาอยู่ปัตตานี ว่าเป็นเพราะเอกสารที่ผมเปิดเผยออก ใช่หรือไม่

ท่านพันเอก บอกว่า “ไม่ต้องห่วงผมหรอก คุณไปห่วงประเทศชาติดีกว่า ไม่มีผม ประเทศ อยู่ได้ ไม่มีประเทศ ทั้งคุณกับผม อยู่ไม่ได้

คำตอบของท่าน ทำเอาผมจุกในอก พูดไม่ออก และทำให้ผมต้องแกล้งหันหน้าออกไปนอกร้านน้ำชา ไม่ให้ท่านพันเอกเห็น น้ำตาที่เอ่อท้น ขึ้นมาแล้ว

“ทำไมกองทัพ มีทหารที่คิดแบบท่าน น้อยเหลือเกิน ทำไมทหารใหญ่ ไม่คิดแบบท่านบ้าง บ้านเมืองจะดีขึ้นกว่านี้เยอะ ทหารก็จะเป็นที่รักของประชาชน” ผมถามขึ้นหลังจากที่เราต่างคนต่างเงียบไปครู่หนึ่ง

ท่านพันเอก ตอบว่า “คุณเข้าใจผิด ทหารส่วนใหญ่รักประเทศชาติ และอยากอยู่ในสังคมด้วยความเข้าใจอันดีกับประชาชน เพราะทหารก็คือประชาชน แต่ผลประโยชน์ และอำนาจ ทำให้ทหารบางคน เปลี่ยนไป หลังจากที่เข้าไปพัวพันด้วย”

ก่อนที่ผมจะถามอะไรให้ยืดยาว เยิ่นเย้อออกไปอีก ท่านพันเอก ก็บอกว่า “เราคุยกันนานเกินไปแล้ว คุณกลับกรุงเทพฯ ไปวันนี้เลยดีกว่า เอาไว้วันหลัง คุยกันใหม่”

ผมรู้ด้วยน้ำเสียงว่า ไม่ใช่การไล่ แต่เป็นความห่วงใย ที่มาพร้อมกับมิตรภาพอันยิ่งใหญ่ จาก “ท่านพันเอก” ผมจึงลุกขึ้น แล้วลาท่าน ก่อนจะเดินออกจากร้านน้ำชา ทันที เพื่อที่ท่านจะได้ไม่ต้องกังวล ทั้งตัวผม และตัวท่านเอง

ผมเก็บเอกสาร 8 แผ่นที่ได้รับมาจาก “ท่านพันเอก” ด้วยหัวใจที่เต้นแรง แรงด้วยความตื่นเต้น ที่ผมจะได้ทำหน้าที่เปิดโปงความไม่ชอบมาพากลของกองทัพ และคมช. อีกครั้งหนึ่ง แรงด้วยความโกรธแค้น ชิงชัง ทหารบางคนที่กำลังทำลายบ้านเมืองให้ย่อยยับลงไปอีก ทั้งๆ ที่ทุกวันนี้บ้านเมืองและประชาชนก็บอบช้ำ เพราะมือของพวกเขามาแล้ว

กระบวนการตรวจสอบเอกสารของผม เริ่มต้นขึ้นทันทีที่กลับถึงกรุงเทพฯ ผมนัดเพื่อนคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ในหน่วยทหารหน่วยหนึ่ง แล้ว ขอให้ช่วยตรวจสอบหนังสือเลขที่ คมช.0003.5/480 ลงวันที่ 14 กันยายน 2550 ว่า เป็นเรื่องอะไร และมีเนื้อความว่าอย่างไร

3 วันถัดมา ผมก็ได้รับคำตอบว่า หนังสือที่ผมสอบถาม มีอยู่จริง และเป็นเรื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติการทางการเมืองและพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง แต่บอกไม่ได้ว่าเป็นพรรคอะไร ผมจึงถามนำขึ้นว่า พรรคพลังประชาชน ใช่หรือไม่ คำตอบคือ ใช่

ผมเริ่มถามทีละข้อ ทีละประเด็นเรียงกันมา ตามที่ผมจำได้ เพราะอ่านหลายเที่ยว สุด ท้ายเพื่อนผมก็เปิดกระเป๋าส่งเอกสารทั้ง 8 แผ่น เหมือนกับที่ผมได้รับจาก “ท่านพันเอก” ให้ แล้วบอกว่า “รู้หมดทุกอย่างแล้ว จะถามทำไม เอาไปเทียบดูแล้วกัน จะได้รู้ว่าเหมือนกันทุกตัว ของที่มึงมีอยู่ ก็จริงเท่าที่กูไปเอามานี่ล่ะ”

ไฮไลต์ของเนื้อความในเอกสาร “ลับ” ฉบับนั้น เขียนไว้ในหน้าที่ 2 ว่า ..

“ ข้อ 2.2.3 สนับสนุนการรวมตัวที่สร้างสรรค์ของกลุ่มการเมืองต่างๆ โดยมีงานการปฏิบัติการข่าวสาร ดังนี้

2.2.3.1 ชี้ให้ประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งชนชั้นกลางเห็นข้อเท็จจริงในการรวมตัวกันของกลุ่มการเมืองต่างๆ

2.2.3.2 ชี้ให้ประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งชนชั้นกลางเห็นความคล้ายคลึงกันของนโยบายอดีตพรรคทรท. และ พปช.

2.2.3.3 ชี้นำ/ชักจูงให้ประชาชนรากแก้วต่อต้านการกลับมาของกลุ่มอำนาจเก่าผ่านทางพปช. โดยแสดงให้เห็นว่านโยบายต่างๆ ของทรท.ซึ่งเป็นผลเสียต่อประเทศและประชาชน ก็จะกลับมาด้วย

2.2.3.4 ชี้ให้ทุกฝ่ายเห็นถึงความคดโกง/ทุจริต/ไม่ชอบธรรมของกลุ่มอำนาจเก่าซึ่งกำลังจะกลับมาพร้อมกับพรรคพปช.

2.2.3.5 สร้างกระแสให้ทุกฝ่ายต่อต้านการกลับมาของกลุ่มอำนาจเก่า โดยผ่านทางพรรคพปช.”

คำสั่งลับของคมช. ฉบับนี้ ออกจากส่วนราชการ สปค.ศปศ.คมช. ลงนามโดยพ.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข (รูปเป็นของนรินทร์ ลักขณา)รองจก.ยก.ทบ./ผช.หน.สปค.ศปศ.คมช. ทำการแทน จก.ยก.ทบ./รองหน.สปค. ศปศ.คมช. เรื่อง การปฏิบัติการข่าวสารตั้งแต่ปัจจุบันถึงวันปิดรับสมัครเลือกตั้ง เรียน ผบ.ทบ. /ประธานคมช. เพื่อขอให้พิจารณาอนุมัติปฏิบัติการตามแผนที่นำเสนอ ซึ่งระบุไว้อย่างละเอียดยิบว่าจะทำลายพรรคพลังประชาชน อย่างไร

คำสั่งลับของคมช. ฉบับนี้ ได้รับอนุมัติให้ปฏิบัติการได้ตามที่นำเสนอทุกข้อ โดยพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และ ประธานคมช. ในขณะนั้น

แม้กระทั่งการปฏิบัติการ “เชิญบุคคลที่ 3 ที่เป็นผู้นำทางความคิด / นักวิชาการ ออกรรายการวิทยุ / โทรทัศน์ วิเคราะห์เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหากพรรคพปช. ชนะเลือกตั้งแล้วดำเนินนโยบายที่ประกาศไว้ คือ นิรโทษกรรม อดีตกรรมการบริหารพรรค ทรท. และ ยุบคตส. ว่าหลายฝ่ายคงยอมไม่ได้ โดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตร ซึ่งจะออกมาเคลื่อนไหว และทำให้ประเทศเกิดความวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง และอาจนำไปสู่การรัฐประหารครั้งใหม่ เป็นวงจรที่ไม่สิ้นสุด” ซึ่งอยู่ในหน้าที่ 4 ของแผนปฏิบัติการทำลายพรรคพลังประชาชน ที่ระบุว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรักความสามัคคีให้เกิดขึ้นในชาติ

คำสั่งลับของคมช. ฉบับนี้ เป็นการแสดงให้เห็นว่าพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน มีจุดมุ่ง หมายอย่างไรต่อการเลือกตั้งวันที่ 23 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ และเหตุใดจึงต้องการมีและใช้อำนาจเข้าไปแทรกแซง ควบคุม ชี้นำ การจัดการเลือกตั้งของกกต. และกำลังดำเนินการอย่างเข้มข้นอยู่ในขณะนี้

ความกังวลของประชาชนทั้งประเทศที่ว่า หากพรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้ง แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป เหตุการณ์จะสงบหรือไม่ บ้านเมืองจะกลับคืนสู่ความเรียบร้อย สันติสุข หรือไม่ ก็มีคำตอบอยู่แล้วในคำสั่งลับฉบับนี้ว่า

“อาจนำไปสู่การรัฐประหารครั้งใหม่ เป็นวงจรที่ไม่สิ้นสุด”

ทั้งๆ ที่อ่านประโยคนี้มาแล้วไม่น้อยกว่าร้อยรอบ แต่เมื่อเขียนถึงประโยคนี้ ผมก็แทบจะหมดแรงที่จะเขียนต่อไป และสะกดอารมณ์ไว้ไม่ได้

“ผมขอโทษนะครับ ท่านพันเอก ผมเกลียดและชิงชังทหาร มากแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนครับ ทั้งๆ ที่รู้ว่าทหารเลวที่ไม่มากนัก แต่ทำไมทหารดีต้องอยู่ใต้คำสั่งทหารเลว อยู่ร่ำไป”

วันนี้ เขียนได้แค่นี้แล้วล่ะครับ อารมณ์โกรธ และ เกลียด ทำให้ไม่มีสมาธิพอที่จะเขียนหนังสือเล่าข้อความที่อยู่ในคำสั่งลับฉบับนี้ ต่อไป

พรุ่งนี้ ผมจะนำเอกสารทั้งฉบับ จำนวน 8 หน้า มานำเสนอให้ได้ชมกัน หลังจากผ่านการตรวจสอบขั้นสุดท้าย ว่าไม่ได้มีการทำสัญลักษณ์ หรือ เครื่องหมายสำหรับการตรวจ สอบแหล่งที่มาของเอกสาร เพื่อความปลอดภัยของ “ท่านพันเอก” เสร็จสิ้นลง

อันที่จริง ตั้งใจว่าจะนำเสนอพร้อมกัน แต่อดใจไม่ไหว เมื่อได้เห็นความเลวร้ายของ (น้ำฝนกับพ.อ.ธีระวัฒน์ บุณยะวัฒน์) พ.อ.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ ผู้จัดทำแผน พ.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข ผู้นำเสนอแผน และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้อนุมัติให้ปฏิบัติตามแผน

แผนที่ทำให้เราได้เห็นว่าบันไดขั้นที่ 4 - 5 – 6 สำหรับการทำลายพรรคพลังประชาชน เป็นเช่นไร

จึงต้องมาบอกเล่าให้ทราบก่อน แล้ววันพรุ่งนี้ เมื่อการตรวจสอบเอกสารเสร็จเรียบร้อย พวกเราทุกคนจะได้เห็นความเลวร้ายของพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าขบวนการทำลายพรรคพลังประชาชน พร้อมๆ กัน

อดใจรอวันพรุ่งนี้ครับ

ขอบคุณคุณประดาบที่ให้ข้อมูล

โพสต์: 9

ID#503627 เมื่อ: 2550-10-22 10:49:41 IP: 203.156.70.213 x

พ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกท่าน ถ้าอยากให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น(เหมือน4-5ปีที่นายกทักษิณบริหารประเทศ) ถ้ามีเลือกตั้งทุกครั้งให้เลือกพรรคพลังประชาชน
พรรคเดียวโดยไม่ต้องสนใจพรรคอื่น ถ้าคนจนทุกคนเลือกพรรคนี้พรรคเดียว อย่างน้อยก็ 10 กว่าล้านเสียงพรรคพลังประชาชน ก็เป็นรัฐบาลตลอดไป ก็นำนโยบาย ต่างๆ ที่เคยทำมากลับมาใช้อีก พ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกท่านก็จะอยู่ดีกินดี ชีวิตคนจนก็จะดีขึ้นกว่าตอนนี้ หนทางเดียวที่พ่อแม่พี่น้องประชาชนคนจนทั่วประเทศทุกท่าน จะชนะเผด็จการได้แบบเด็ดขาด คือทุกท่านออกมาใช้สิทธิเลือกพรรคพลังประชาชน ให้มากที่สุด แล้วชัยชนะก็เป็นของพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนจนทุกท่าน "

โพสต์: ศ.ขอนแก่น

ID#503628 เมื่อ: 2550-10-22 10:50:08 IP: 203.151.46.130 x 10.6.1.236

ผมทำงงานในหน่วยงานราชการเกียวกับความลับ จะบอกให้ เอกสารที่เป็นเรื่องลับมาก ถ้าเป็นเอกสารเวียนถ้าจะมีจำนวนชุดและเลขหมายของชุดว่าแต่ละชุดแจกจ่ายไปที่ใดทุกตัวอักษรเหมือนกันเปะ แต่จะต่างกันตรงขึ้นต้นบรรทัดใหม่ครับ เพราะเดียวนี้สะดวกมาก แต่ก่อนใม่ค่อยใช้วิธีนี้เพราะใช้เครื่องโรเนียว ต่อมาถ่ายเอกสาร ตอนนี้พิมพ์จากเครื่องคอมพิวเตอร์ ถ้าจะตรวจสอบว่าเอกสารแต่ละชุดได้ทำเครื่องหมายไว้หรือหรือไม่ต้องนำเอกสารสองชุดมาทาบให้ตัวอักษรตรงกันสองตำแหน่งแล้วส่องกับแสง ถ้าเห็นว่ามีตำแหน่งตัวอักษรเคลื่อนไปแสดงว่าได้มีการทำเครื่องหมายไว้ หรืออีกวิธีหนึ่งคือใช้ปากกาจุดที่หัวอักษรตัวใดตัวหนึ่งไว้ครับ เหตุที่พันเอกต้องไปอยู่ปัตตานีอาะถูกตรวจสอบเพราะเหตุนี้ก็ได้นะครับ ทางที่ดีอย่าถ่ายเอกสารที่ว่านี้ออกทางเน็ตเลยครับเอาแค่เนื้อหาก็พอ

โพสต์: peoplepower

ID#503633 เมื่อ: 2550-10-22 10:51:40

ใจเย็นๆครับ
ผมจะบอกให้ที่คุณพูดมาไม่ผิดหรอก

เลือกตั้งครั้งหน้า ต้องไม่มี ทรท.

เป็นเป้าหมาย ถูกต้อง

แต่ คนคิดแผนฉลาดลึกล้ำครับ

เขาจะพยายามทำให้ คนที่ รักประชาธิปไตย ออกไปประท้วง

ผมเคยเตือนแล้ว ว่า ประท้วงเมื่อไร แพ้แน่นอนครับ

ฉะนั้น ตอนนี้ อย่าไปคิดมากครับ ไม่ว่า คุณจะได้ ข่าวอะไรออกมา


มันก็ไม่เลวร้ายไปกว่านี้แล้ว ครับ

ปล่อย พวก มัน ทำไปเถอะครับ

เราวางเฉยและ อยู่นิ่งๆ

เราจึงจะชนะครับ
มีทางเดียว

โพสต์: charoen

ID#503642 เมื่อ: 2550-10-22 10:59:57

ไม่มีผม ประเทศ อยู่ได้ ไม่มีประเทศ ทั้งคุณกับผม อยู่ไม่ได้

โพสต์: recruit

ID#503774 เมื่อ: 2550-10-22 12:44:56

แผนที่ 7 สุดท้าย
ยิงตัวตายเหมือนฮิตเล่อร์
ไม่รู้ว่าพระเจ้าจะยอมรับไปอยู้ด้วยหรือไม่

โพสต์: sarapaheylo



ID#503803 เมื่อ: 2550-10-22 13:08:02

ไม่ได้อ่านนะค่ะ มันยาวขอด่าเลยแล้วกัน
ไอ้พวกนี้พอมันเกษียรมันก็มารวมเชี้ยกันมาเล่นการเมือง คือบริหารประเทศ
แล้วพอตอนมันเชี้ยกันไม่สำเร็จมันก็คงเดินตามกันเข้าวัด แปลกมั้ย
แต่*****มันบวชไม่ได้ มันคงจบลงที่ระเบิดพลีชีพเหมือนที่พวกมันชอบทำกันแหงเลย

โพสต์: Leeds01

ID#503808 เมื่อ: 2550-10-22 13:17:00

ขออนุญาตบันทึกไว้เป็นเหตุการณ์หนึ่งใน"เผด็จการทหารไทย"
โปรดเยี่ยมชมผลได้ที่

http://leeds01-02.blogspot.com/


http://www.prachatai.com/webboard/topic.php?id=503474#503821

คำสั่งจากนรกล้มพรรคพลังประชาชน !!!
สังคมและการเมือง

--------------------------------------------------------------------------------
โพสต์: ธีระ โรจนาเปรมสุข

ID#503474 เมื่อ: 2550-10-22 08:15:43


คำสั่งจากนรกล้มพลังประชาชน !!!
http://hi-thaksin.net/contentdetail.php?ParamID=74356

โพสต์: num

ID#503480 เมื่อ: 2550-10-22 08:21:42

ผมเลือกพลังพลังประชาชน
ใครมาล้ม
เจอดีแน่

โพสต์: สมฆ



ID#503482 เมื่อ: 2550-10-22 08:25:55

คมช. คนมันชั่ว ชั่วไม่หยุดจริงๆ

พรรคพลังประชาชนต้องสอนให้รู้สำนึก

โพสต์: honeymons

ID#503494 เมื่อ: 2550-10-22 08:46:36

เตือนสติจาก มรดกหลวงพ่อ



โพสต์: วิเชียร

ID#503499 เมื่อ: 2550-10-22 08:56:28 IP: 203.107.203.139 x

จะมีแผนอย่างไร หรืออ้ายใครคิดก่อการอย่างไรต่อแต่นี้ไปรับรองคงต้องรับผิดชอบด้วยตัวเองและคงพอแล้วสำหรับคนไทยที่จะปล่อยให้อ้ายพวกบ้าสารเลวคิดคตทรยศทำอะไรตามใจตัวในบ้านนี้เมืองนี้อีกต่อไป จำเอาไว้ว่า 1 ปีที่ผ่านมาต้องถือว่าประชาชนเขาต้องอดทนอดกลั้นปล่อยให้มทุกๆอย่างมันเกิดขึ้นเพื่อประจักและสัมผัสความจริงเสียทีต่อหลายๆเหตุการณ์ของบ้านเมืองที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด ผู้คนต้องเสียเลือดเสียเนื้อไปไม่รู้เท่าไร ดังนั้นเที่ยวนี้จึงทำให้ทุกคนตั้งสติและพิสูตรความจริงและหาเหตุและหาตัวบุคคลต่างๆต่อการกระทำต่อบ้านเมืองมาโดยตลอด จนวันนี้ประชาชนแทบทุกคนได้รู้ ได้สัมผัส ได้รู้สึกถึงเหตุและผลและตัวบุคคลต่างๆที่กระทำชาติชั่วต่อแผ่นดินนี้มาโดยตลอด ดังนั้นเมื่อคนบางกลุ่มพยายามให้เกิดการเลือกตั้งและรับปากต่อประชาชนที่กำลังระเบิดเพื่อทำลายล้างอ้ายชาติชั่วอยู่ว่าจะยอมให้ประชาชนได้รับสิทธิในการเลือกบุคคลให้บริหารประเทศด้วยตัวของเขาเอง ดังนั้นทำให้ประชาชนค่อยคลายความเครียดแค้นลงไปบ้าง แต่ในที่สุดอ้ายสารเลวที่ฝังอยู่เป็นสันดานก็ยังไม่ละจากการกระทำชั่วอีก เพราะจุดประสงค์ของมันสูงเกินตัวและยังมีอีนางเงาที่ตลอดเวลาพยายามใช้เงินหรืออำนาจที่มันมีโอกาสดีกว่าคนอื่นกระทำการณ์ให้บ้านเมืองยังเป็นไปอย่างที่มันต้องการ ซึ่งมันและพวกกำลังหลงผิดและประเมิณสถานการณ์ต่ำเกินคาด และยังมีความเชื่อในทางผิดๆ หลงผิด คะนองตัว ดังนั้นก็คงต้องปล่อยให้พวกมันแสดงละครน้ำเน่าไปเรื่อยๆ เมื่อถึงเวลาพวกมันหรืออีนางเงาคงต้องกระอักจากการกระทำของตัวเอง เมื่อไม่มีแผ่นดินจะอยู่หรืออาจจะถูกประชาชนจับส่งลงนรกเท่านั้น

บอกไว้ก่อนว่าการประเมิณเข้าข้างตัวเอง หรือประเมิณประชาชนต่ำไป หรือเพราะคิดว่าตัวสามารถกุมอำนาจและสามารถสั่งให้บ้านเมืองเป็นไปตามที่ตัวเองต้องการ เที่ยวนี้บอกตรงๆว่ายากมาก เผลอๆสิ่งที่คาดไม่ถึงอาจเกิดขึ้นอย่างชนิดที่เรียกได้ว่า ต้องออกมาขอขมาและขอยกเว้นชีวิตของตัว และจะไม่คิดจะกระทำอย่างนี้อีกต่อไปก็เป็นได้ เพราะเที่ยวนี้ประชาชนเก็บความแค้นไว้ในใจตัวเองมากจริงๆ รอวันระเบิดเท่านั้

ถ้าจะให้ดี อยู่เฉยๆ ปล่อยให้ประชาชนเขาเลือกทางเดินของประเทศด้วยตัวของเขาเอง และปล่อยอ้ายชั่วให้ได้รับการลงโทษจากประชาชนเองดีกว่า ตัวเองอยู่เฉยๆ นั่งเฉยๆ และหลบฉากออกไป บางทีอาจจะช่วยให้ตัวเองอยู่รอดได้ในแผ่นดินนี้

ส่วนเรื่องการคิดว่าจะมาทำลายพรรคพลังประชาชน ไม่ว่าเกิดขึ้นเมื่อใดก็ขอประกาศว่า วันนั้นคือวันสิ้นสุดความอดทนอดกลั้น เสียที เพราะเท่ากับว่า ประกาศสงครามกับประชาชน แล้ววันนั้นคือวันที่ประชาชนจะพิสูตรให้เห็นว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินและเลือดเนื้อของประชาชนคนไทยทุกๆคน ไม่ใช่แผ่นดินของชาวคณะใดคณะหนึ่ง หรือ ของอ้ายพวกเควี้ยวที่ไม่รู้เป็นใครมาจากไหนแล้วคิดจะมาสถาปนาตัวเองให้อยู่เหนือประชาชนทั้งประเทศ รับรองมึงเจอดีแน่ๆ

โพสต์: มากะยอ

ID#503501 เมื่อ: 2550-10-22 08:57:48 IP: 209.200.53.204 x

ล้มพลังประชาชน เท่ากับทำลาย ประชาชนทั้งประเทศ

โพสต์: jaewjah



ID#503511 เมื่อ: 2550-10-22 09:05:31

สวัสดีค่ะ อาจารย์

จะทำได้หรือไม่ คอยดูกันค่ะ

พลังเป็นของประชาชนคงได้รู้ซึ้งในครั้งนี้ค่ะ

โพสต์: คน อี สาน

ID#503516 เมื่อ: 2550-10-22 09:09:23 IP: 125.26.38.25 x

โพสต์: ธีระ โรจนาเปรมสุข

ID#503474 เมื่อ: 2550-10-22 08:15:43

คำสั่งจากนรกล้มพลังประชาชน !!!
http://hi-thaksin.net/contentdetail.php?ParamID=74356

^^^^^^
^^^^^^
^^^^^^
บอก ตรง ๆ ว่า ก่อน หน้า นี้.....
เคย ดู กระ ทู้ ของ คุณ ...แล้ว ระ ยะ หลัง......ผ่าน ตลอด
มา วัน นี้ ...ชัก น่า สน ใจ อีก ครั้ง แล้ว....รัก ษา คุณ ภาพ ด้วย แฮ่ะ แฮ่ะ แฮ่ะ

โพสต์: กำธร

ID#503552 เมื่อ: 2550-10-22 09:40:08 IP: 202.28.27.3 x 10.4.17.248

ไม่รู้ว่าที่ตายที่แพร่เช้านี้เป็นด้วย หรือเปล่า

โพสต์: ชนร้องให้

ID#503585 เมื่อ: 2550-10-22 10:09:18 IP: 125.26.230.138 x

การเมืองประเทศไทยหลัง 19 กันยา ได้สร้างปรากฏการให้การเมืองภาคประชาชนที่แท้จริงแจ้งเกิด นั่นคือ

พรรค พลังประชาชน

การเลือกตั้งครั้งหน้า พลังบริสุทธ์ของประชาชน วสามารถระดมพลฝ่าด่านนรกได้ สส สัก 280 เสียง ประเทศไทยจะไม่มีการปฎิวัฒน์รัฐประหารสิ้นสุดยุคอำมาตยาธิปไตร พวกนักวิชาการกวนเมือง อีแอบ ทั้งหลายจะ สงบปากสงบคำ พรรคการเมืองน้ำเน่า ล่าอำนาจรัฐ จะหมดไป

โพสต์: สหาย บางไซ

ID#503637 เมื่อ: 2550-10-22 10:55:57 IP: 202.44.7.70 x

http://www.posttoday.com/topstories.php?id=198945
ยิงดับนายกฯอบจ.แพร่
วันที่ 22 ตุลาคม 2550

มือปืนรัว 9มม.กระหน่ำยิง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ขณะวิ่งออกกำลังกายกับภรรยา



เมื่อเวลา 07.30 น. ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายยิง นพ.ชาญชัย ศิลปอวยชัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ เสียชีวิตคาที่ บริเวณสระว่ายน้ำในองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ขณะวิ่งออกกำลังกายกับภรรยา ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ สาเหตุเบื้องต้น คาดว่าจะมาจากความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรงถึงขั้นแตกหักใน จ.แพร่

เวลาต่อมา ร.ต.ต.อิศราพันธุ์ อิศรางค์กูร ณ อยุธยา ร้อยเวรสอบสวน สภอ.เมืองแพร่ ซึ่งเดินทางไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ผู้ตายกับ ภรรยาจะมาออกกำลังที่สระน้ำทุกวัน และเนื่องจากยังเป็นเวลาเช้ามืด และหมอกลง จึงไม่มีใครสังเกตุเห็นหน้าคนร้าย เพียงแต่ทราบว่าเห็นชาย 2 คน ขับรถมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อ ดรีมทู สีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน คนขับใส่เสื้อผ้าร่มสีดำ หมวกแก็บ ขับหนีออกจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว

สำหรับนายแพทย์ชาญชัย เคยเป็นอดีตผู้สมัคร สส. ของพรรคประชาธิปัต์ คู่กับแม่เลี้ยงติ๊ก หรือ นางศริวรรณ ปราศจากศัตรู อดีต สส. พรรค ปชป. จังหวัดแพร่ และถือว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในจังหวัด ต่อมาในระยะหลัง นายแพทย์ชาญชัย ถูกทาบทามให้เปลี่ยนไปสังกัดพรรคพลังประชาชน

ทั้งนี้ ศพของนายแพทย์ชาญชัย จะถูกนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ วัดมิ่งเมืองวรวิหาร อ.เมือง จ.แพร่ และกำหนดรดน้ำศพ เวลา 15.30 น.

...นี่คือ หนึ่งในแผนมันหรือเปล่า

โพสต์: Leeds01

ID#503821 เมื่อ: 2550-10-22 13:29:35

ขออนุญาตบันทึกไว้เป็นเหตุการณ์หนึ่งใน"เผด็จการทหารไทย"

โปรดเยี่ยมชมผลได้ที่

http://leeds01-02.blogspot.com/


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=68280

อ.มธ.ติงรัฐอย่าเร่งออกกม.ความมั่นคงชี้ปท.ยังไม่เป็นปชต.

โดยทีมข่าว INN News 20 ตุลาคม 2550 16:34:05 น.

นักวิชาการ ติงรัฐฯ ไม่ควรนำ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายใน ออกมาบังคับใช้ตอนนี้ เนื่องจากบ้านเมืองยังไม่เป็นประชาธิปไตย



นายประสิทธิ์ ปิวาวัฒนพานิช อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ภาควิชากฎหมาย ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ถึงการอภิปรายวิพากษ์ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในว่า ขณะนี้ รัฐบาลหรือ สนช.ยังไม่ควรออก พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในมาใช้ในสถานการณ์บ้านเมืองที่ยังไม่เป็นประชาธิปไตย และยังไม่มีฝ่ายค้าน เนื่องจาก พ.ร.บ.ดังกล่าว มีอำนาจมากเหมือนกับต้องใช้ในประเทศที่กำลังมีภัยคุกคาม แต่ในทางตรงกันข้าม เมื่อประเทศไทยเราเป็นแบบนั้นหรือไม่ อีกทั้ง เนื้อหาของ พ.ร.บ.จะให้อำนาจหน้าที่กับนายกรัฐมนตรี ในการใช้ 2 กฎหมายควบคู่กันไปด้วย ทั้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายใน

ขณะเดียวกัน นายประวิทย์ โรจนพฤกษ์ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่นกล่าวว่า ถ้า พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในฉบับนี้ผ่านความเห็นประชาชน รัฐบาลและ สนช. ประเทศไทยจะเหมือนกับประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย ที่ไม่มีความเป็นประชาธิปไตย แม้จะมีการเลือกตั้ง ดังนั้นประชาชนต้องออกมาต่อต้าน พ.ร.บ.ฉบันนี้ไม่ให้สามารถนำออกมาใช้ได้


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=68220

นายกฯรับไม่พอใจผลงาน1ปี-ห่วงเลือกตั้ง

โดยทีมข่าว INN News 20 ตุลาคม 2550 08:45:27 น.

นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเปิดบ้านพิษณุโลกไม่พอใจผลงาน 1 ปี ยันร่างพ.ร.บ.รักษาความมั่นคงไม่ได้ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ พร้อมรับหนักใจเรื่องการดูแลการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ ยุติธรรม



พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวในรายการเปิดบ้านพิษณุโลก ถึงการทำงานในช่วงเวลาที่เหลือของรัฐบาล ว่า เรื่องหลักคือเรื่องการจัดงานเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในสัปดาห์หน้า จะมีการประชุมเกี่ยวกับการจัดงานพระราชพิธีต่างๆ และงานเฉลิมฉลอง ส่วนเรื่องที่สอง คือ เรื่องการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องสนับสนุนการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต. )ส่วนเรื่องเฉพาะหน้า คือ เรื่องการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม และ เรื่องเศรษฐกิจ

ส่วนการทำงานของรัฐบาล ในการสนับสนุนการเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ประชุมร่วมกับ กกต. วางกรอบการทำงานแล้ว ในส่วนของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ที่จะมาดูแลงานด้านการเลือกตั้ง ก็จะช่วยดูแลในเรื่องการประชาสัมพันธ์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า หนักใจในเรื่องการดูแลการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ ยุติธรรม ซึ่งการดูแลเรื่องนี้ ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน ทั้งประชาชน และพรรคการเมือง ในส่วนตัว คิดว่า ประชาชนน่าจะตื่นตัวและให้ความร่วมมือเรื่องไม่ขายเสียง แต่ไม่สามารถประเมินออกมาเป็นเปอร์เซนต์ได้

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ยังไม่พอใจผลงานการทำงานรอบ 1 ปีของตน ซึ่งยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเฉพาะอุปสรรปัญหาด้านการบริหารจัดการงบประมาณที่ยังล่าช้า เนื่องจากติดขัดขั้นตอนการจัดทำงบประมาณ ที่ต้องทำใหม่ทั้งหมด พร้อมกันนี้ยืนยันว่า การที่รัฐบาลออกร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคง
ในราชอาณาจักร ไม่ได้เป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน อย่างที่หล่ายฝ่ายเข้าใจ เพียงแต่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เป็นการป้องกันการก่อเหตุ ก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้น

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงประโยชน์ที่ได้รับ จากการเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยว่า ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ มากขึ้น นอกจากได้รับในรูปแบบของเงินตราแล้ว แต่อย่างไรก็ตามยืนยันว่า ชอบอาชีพทหารมากกว่าเป็นนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีการปรับขึ้นราคาสินค้าว่า เมื่อรัฐบาลต้องการกระตุ้นการใช้จ่าย ด้วยการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ก็เป็นเรื่องปกติที่ราคาสินค้าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่รัฐบาลจะพยายามดูแลการปรับขึ้นราคาสินค้าให้อยู่ในราคาที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับประชาชน โดยในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ก็ได้พยายามดูแลอย่างเข้มงวด ทั้งขู่และปรับ หากมีการพบเห็นการปรับขึ้นราคาสินค้าในจังหวะที่ไม่เหมาะสมต่อสภาวะเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม สินค้าที่มีความจำเป็นต้องปรับขึ้นราคา อย่าง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่ทางผู้ประกอบการขอปรับขึ้นราคา
1 บาทต่อซองนั้น ภาครัฐจะหาวิธีดูแลไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน โดยอาจะปรับให้มีการขายเป็นแพ็ค ซึ่งทำให้
การปรับขึ้นราคาดูน้อยลง และประชาชนก็สามารถเลือกซื้อในราคาที่ไม่แพงมากนัก

สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในขณะนี้ว่า ถือเป็นเรื่องปกติตามฤดูกาล ซึ่งเป็นช่วงฤดูในหนาวในกลุ่มประเทศยุโรป ที่มีความต้องการในการใช้นำมันสูง ประกอบกับ ความไม่สงบในประเทศตุรกีและอิรัก ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งรัฐบาลมองว่าน่าจะเป็นความผันผวนในระยะสั้นเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ราคาน้ำมันจะไม่ปรับตัวถูกลงเหมือนในอดีตที่ผ่านมาดังนั้นการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพงในระยะยาว รัฐบาลจึงได้เร่งส่งเสริมใช้พลังงานทางเลือก ทดแทนการใช้น้ำมัน

ทั้งนี้ การส่งเสริมการใช้น้ำมันทางเลือก รัฐบาล จึงได้เร่งศึกษาการใช้พลังงานนิวเคลียร์ ทดแทนการใช้น้ำมัน พร้อมทั้งการรับซื้อไฟฟ้าพลังน้ำจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีต้นทุนถูกกว่า มาทดแทนการใช้น้ำมัน

ด้านกรณีที่ชาวบ้านแฟลตดินแดง เตรียมมายื่นหนังสือในสัปดาห์หน้า เพื่อเรียกร้องไม่ให้การเคหะแห่งชาติทุบแฟลต
เพื่อสร้างใหม่ว่า เป็นเรื่องที่การเคหะฯกับกลุ่มชาวบ้านจะต้องทำความเข้าใจร่วมกันถึงความปลอดภัยและวิธีการแก้ปัญหาที่ไม่ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน โดยในการแก้ไขปัญหาควรทำเป็นลำดับขั้นตอนและมีกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน ซึ่งก็จะเป็นแนวทางที่แก้ไขปัญหาที่ดีได้ อย่างไรก็ตาม ในการชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ทางการเคหะฯ ควรนำสิ่งที่พิสูจน์ได้ทางวิศวกรรมมาแสดงให้ชาวบ้านเข้าใจถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น และต้องพยายามชี้แจงหลายๆครั้ง จนกว่าชาวบ้านจะเกิดความเข้าใจ


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=68160

วิปรัฐบาลตีกลับกม.ความมั่นคงชี้ยาแรงไปให้อำนาจจนท.เกิน

โดยทีมข่าว INN News 19 ตุลาคม 2550 19:22:13 น.

วิปรัฐบาลให้ครม.นำร่างกฎหมายความมั่นคงกลับไปพิจารณาใหม่ ชี้เป็นยาแรงเกินไป ให้อำนาจ จนท.มาก



ม.ร.ว.กำลูนเทพ เทวกุล สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานรัฐบาล สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิปรัฐบาล) เปิดเผยผลการประชุมวิป กรณีการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ....ว่า วิปมีมติเอกฉันท์ให้คณะรัฐมนตรีไปปรับร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวใหม่ เพราะตามหลักการของการมีกฎหมายความมั่นคง เพื่อลดระดับภาวะฉุกเฉินหรือภาวะกฎอัยการศึก คือ ให้มีการป้องกันไม่ให้เกิดภาวะดังกล่าวเสียก่อน อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายที่ส่งมานั้น วิปทุกคนรวมถึงวิปที่เป็นนายทหาร ยังติดใจสาระสำคัญหลายมาตรา เช่น การจับ ค้น การไม่สามารถตรวจสอบทางปกครอง หรือการที่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติตามคำสั่ง ไม่ต้องรับผิดทางอาญา แพ่ง วินัย หากกระทำการสมควรแก่เหตุ ทั้งนี้ บางเรื่องต้องไปศาลก็ต้องไป ไม่ใช่มายกเว้นไว้

“สาระของกฎหมายฉบับนี้ เหมือนเป็นยาแรงไปหน่อย ต้องลดยาให้พอดี ๆ กฎหมายฉบับนี้ต้องเดินไปในทางที่ถูกต้องพอสมควร ต้องทำให้มีเอกภาพในการบริหารและมีเจ้าภาพด้านความมั่นคง แต่วิปก็คำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชนเป็นอันดับแรก และส่วนหนึ่งต้องการให้กฎหมายฉบับนี้ป้องกันการที่นักการเมืองตีกัน แล้วสถานการณ์ต้องเดินมาถึงการที่ทหารเข้ามาดูแล ส่วนประเด็นที่ให้นายกรัฐมนตรีเป็น ผอ.รมน.และคำสั่งการให้เป็นมติ ครม.วิปฯ ไม่ติดใจ” ม.ร.ว.กำลูนเทพ กล่าว

ประธานวิปรัฐบาล กล่าวด้วยว่า ส่วนจะต้องให้รัฐบาลและสภาที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้พิจารณาจะดีกว่าหรือไม่นั้น ถ้าสมมติว่ารัฐบาลแก้มาแล้วหลักการพอไปได้ วิปก็จะเสนอให้สภาพิจารณา ทั้งนี้ ถ้ารัฐบาลแก้ไขและส่งมาเร็ว สภาก็จะพิจารณาได้เร็ว แต่ขณะนี้ต้องรอดูว่า รัฐบาลจะแก้ไขอย่างไร และวิปจะดูเรื่องนี้อีกครั้งในสัปดาห์หน้า


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=68134



ปธ.สนช.ยันผ่านกม.ความมั่นคงหรือไม่อยู่ที่รบ.

โดยทีมข่าว INN News 19 ตุลาคม 2550 16:29:39 น.

ประธานสภานิติบัญญัติฯ ยืนยัน สภาฯมีอำนาจผ่านกฎหมาย ความมั่นคง แต่ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาล ส่งเรื่องมาให้ดำเนินการหรือไม่

นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน สนช. กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการประสานงานรัฐบาลและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ วิปรัฐบาล มีมติตีกลับ ร่าง พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรว่า รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการดังกล่าวขึ้นมาและมีสมาชิก สนช.รวมอยู่ด้วย ซึ่งก็ถือเป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐบาลที่จะพิจารณาว่าจะส่งร่าง พ.ร.บ.ความมั่นคงดังกล่าว มาให้ สนช.พิจารณาหรือไม่

ส่วนที่มีการมองกันว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ควรออกฎหมายดังกล่าวนั้น ประธาน สนช.เห็นว่า ที่ผ่านมานั้น สนช.ก็ได้มีการผ่านกฎหมายเป็นร้อยฉบับ แม้แต่รัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายแม่ ก็ออกจาก สนช.ดังนั้นปัญหาอยู่ที่ว่า ควรจะรอหรือไม่ ในเมื่อกฎหมายเหล่านี้ถือเป็นกฎหมายธรรมดา ซึ่งหากมี ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งและเห็นว่า กฎหมายดังกล่าวไม่ดีนั้น ก็สามารถที่จะยกเลิกได้


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=68132

ผบ.ทบ.เรียกถกผบ.หน่วยแจงนโยบาย

โดยทีมข่าว INN News 19 ตุลาคม 2550 16:20:49 น.

ผู้บัญชาการทหารบก เรียกประชุมผู้บังคับหน่วยทั่วประเทศ เพื่อชี้แจงนโยบายกองทัพ



พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ได้เรียกประชุมผู้บัญชาการหน่วยทั่วประเทศจนถึงระดับกองพันเพื่อชี้แจงนโยบายของกองทัพบกโดยแบ่งนโยบายออกเป็น 2 ส่วนหลัก ประกอบด้วยส่วนพื้นฐานทั่วไปและส่วนเฉพาะ โดยในส่วนพื้นฐานทั่วไปนั้นจะเน้นการปฏิบัติได้จริง เพื่อให้กองทัพบกเป็นสถาบันหลักในสังคมเพื่อรองรับภัยคุกคามและความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ขณะที่ส่วนเฉพาะแบ่งออกเป็น 6 ด้าน ประกอบด้วย ด้านกำลังพลโดยจะเน้นการพัฒนาด้านกำลังพลควบคู่กับด้านของคุณธรรม ด้านการข่าวจะมีการเพิ่มเติมการมีส่วนร่วมของประชาชน ด้านยุทธการจะเน้นในส่วนของกำลังสำรอง ด้านการบำรุงจะเน้นความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ด้านการจัดการพลเรือนและด้านการบริหารงบประมาณจะมีการเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้น


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=68124

ผบ.ทอ.ยันเงินโจรใต้ไม่กระทบภาพลักษณ์ทหาร

โดยทีมข่าว INN News 19 ตุลาคม 2550 15:54:38 น.

ผบ.ทอ. ยันเงินโจรใต้ ไม่กระทบภาพลักษณ์ทหาร เชื่อมีขบวนการจ้องทำลาย ทหาร ตำรวจ



พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุก ผบ.ทอ. และผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธาน คมช.กล่าวถึงกรณีการแจ้งข้อมูล เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจยักยอกเงินของกลางในพื้นที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ว่า ยังไม่ทราบความคืบหน้าเพราะมีหลายสาเหตุและจำนวนเงินที่แท้จริงมีจำนวนเท่าใดไม่มีใครทราบนอกจากผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่เห็นว่าไม่กระทบต่อภาพลักษณ์ของทหาร เพราะมีหน่วยงานหลายฝ่ายเข้าไป และอาจจะมีขบวนการที่ทำให้ทหารและตำรวจเสียชื่อก็เป็นได้

พล.อ.อ.ชลิต ยังกล่าวถึงกรณีกองทัพอากาศ เตรียมจัดซื้อเครื่องบินขับไล่แบบกริ๊ฟเฟ่นของสวีเดน ทดแทนเครื่องบินขับไล่เอฟ 5 ปลดประจำการ ทำให้สหรัฐอเมริกา ออกมาต่อว่าเป็นเอกสิทธิ์ของประเทศในการจัดซื้อ ทั้งนี้เชื่อว่าการจัดซื้อดังกล่าวจะไม่ทำให้เป็นปัญหากับสหรัฐฯ


http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=68101

'สนธิ'รับหนักใจข่าวซื้อตัว ส.ส.

โดยทีมข่าว INN News 19 ตุลาคม 2550 14:28:03 น.

รองนายกฯ"พล.อ.สนธิ" รับทราบโครงสร้างการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศ ชี้ เป็นกระทรวงหลักที่ต้องชี้แจงต่อสังคมโลกโดยเฉพาะเรื่องเลือกตั้ง ย้ำ พร้อมยอมรับหนักใจกับข่าวการซื้อตัว ส.ส.



พล.อ.สนธิ บุญยรัตนกลิน รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กลาวภายหลังการเดินทางตรวจเยี่ยมกระทรวงการต่างประเทศว่า มาเพื่อรับทราบโครงสร้างของการทำงาน เนื่องจากระทรวงการต่างประเทศมีส่วนเชื่อมโยงกับงานด้านความมั่นคง โดยเฉพาะเป็นกระทรวงหลักที่จะชี้แจงกับสังคมโลก ถึงการกลับเข้าสู่สังคมประชาธิปไตยจากรณีที่ประเทศไทยจะมีการจัดการเลือกตั้ง พร้อมกับเห็นว่าความหมายของประชาธิปไตยของแต่ละประเทศนั้นมีความแตกต่างกัน ดังนั้นจึงต้องชี้แจงให้ต่างประเทศเข้าใจว่า ประชาธิปไตยของไทยเป็นอย่างไร พร้อมยอมรับรู้สึกหนักใจกรณีที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรรคประชาราช ออกมาระบุว่า มีการทุ่มเงินเพื่อซื้อตัว ส.ส.จำนวนกว่า 40 ล้านบาท ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการรณรงค์การซื้อสิทธิ์ขายเสียง ซึ่งจะต้องพิจารณาว่าการกระทำดังกล่าว ผิดระเบียบของ กกต.หรือไม่

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พล.อ.สนธิ จะลงเล่นการเมืองนั้น พล.อ.สนธิ ย้ำว่า ยังไม่ถึงเวลาที่จะตัดสินใจ และขณะนี้ยังไม่ถือว่าตนเป็นนักการเมือง แต่เป็นการทำหน้าที่เพื่อช่วยชาติบริหารประเทศให้กับไปสู่ระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น


http://www.prachatai.com/webboard/topic.php?id=500112

ลับเฉพาะ ความจริงที่ต้องเปิดเผยพฤติกรรมที่เลวร้ายของทหาร
สังคมและการเมือง

--------------------------------------------------------------------------------
โพสต์: rider



ID#500112 เมื่อ: 2550-10-19 10:53:17

แจ้งข่าวที่ทหารทำผิดระเบียบวินัยข้าราชการ

1. ทหารกำลังกระทำผิดไปบังคับประชาชนให้รับร่างรัฐธรรมนูญ โดยเอาบัตรลงประชามติให้ประชาชนลงมติล่วงหน้าไว้ก่อน บังคับผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อบต. ให้บังคับประชาชน ให้ประชาชนไปลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญ ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี ๔๙ ต้องทำประชามติเสร็จภายในวันเดียว ทาง กกต.และ ส.ส.ร. ก็ได้กำหนดไว้แล้วว่าเป็นวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๐ การกระทำอย่างนี้ไม่เป็นระบอบประชาธิปไตย เป็นเผด็จการของทหาร ซึ่งโดยปกติตามระเบียบข้าราชการต้องทำตัวเป็นกลาง จะไปบังคับหรือว่าชักนำแบบนี้เป็นการผิดระเบียบทางราชการ แล้วก็ผิดหลักของประชาธิปไตย

2. ทหารยศนายพลหลายนายกับกระทรวงๆหนึ่ง สั่งปล่อยนักโทษอุกฉกรรจ์โจรก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ปล่อยที่ศาลอาญา และปล่อยโจรก่อการร้ายที่ศาลปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลาและนครศรีธรรมราช ทำให้ภาพลักษณ์ของศาลหมดความน่าเชื่อถือ นี่ก็เป็นพฤติกรรมของทหาร

3. การตัดสินคดียุบพรรคเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพราะกฎหมายยุบพรรคไม่มี มีเฉพาะใบเหลืองใบแดงสำหรับผู้ที่กระทำความผิดเท่านั้น ตุลาการครึ่งหนึ่งมีความเห็นว่าไม่สมควรยุบเพราะไม่มีกฎหมายรับรอง แต่มีใบสั่งจากผู้บัญชาการทหารชั้นสูงให้ยุบพรรคไทยรักไทย ประกอบกับตุลาการ ๓ ท่านไม่ชอบทักษิณและตุลาการอีกท่านหนึ่งเป็นอิสลามรวมเป็น ๔ ท่าน จึงเขียนคำวินิจฉัยตามใบสั่งของผู้บัญชาการทหาร..................

4. ประธาน คมช. ไม่สนใจที่จะแก้ปัญหา ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างแท้จริง กลับพยายามที่จะให้เป็นเขตปกครองอิสระปกครองตนเอง พยายามหาวิธีต่าง ๆ ด้วยวิธีกดดันพลเอกสุรยุทธ์ เพื่อลงนามสนธิสัญญาให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษให้ได้ สิ่งที่สนใจมากที่สุดก็คือเรื่องทักษิณ กลัวว่าจะกลับมาเมืองไทย ใช้เล่ห์กลอุบายสลายม็อบ ขับไล่ด้วยการให้ กอ.รมน. นายพลเอก ท่านหนึ่ง (ทหารข้าราชการบำนาญ) มีหน้าที่ทำฝนเทียมขับไล่ม็อบทักษิณ พลเอกสุรยุทธ์จะรู้หรือไม่รู้ก็ไม่ทราบ แต่ออกมาพูดว่าที่ฝนตกนั้นไม่ใช่ฝนเทียมเป็นฝนตกตามฤดูกาล จะมาทำฝนเทียมทำไมเพราะไม่ใช่สถานที่ทำเกษตรกรรม

5. ทหารผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาที่มีจิตใจเป็นธรรม เคารพในระเบียบวินัย หลายท่านบ่นมาว่า ไม่สบายใจที่ต้องทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ที่สั่งให้ทำผิดกฎหมายใช้เผด็จการบังคับประชาชน ทหารเป็นผู้เคารพในระเบียบวินัย แต่เดี๋ยวนี้ทหารกลับทำผิดเสียเอง จะไปไหนมาไหนนอกค่ายฯ ไม่กล้าจะแต่งเครื่องแบบทหารเพราะอายชาวบ้านเขา ท่านรู้ไหมว่าอะไรที่เหม็นที่สุดในประเทศไทยขณะนี้ ถ้าไม่รู้จะบอกให้เอาบุญคือ เหม็นทหารที่ทำชั่วอย่างสุดๆ

ทั้ง ๕ ข้อที่กล่าวมานี้รับรองว่าเป็นความจริงทั้งหมด ถ้าท่านมีความลังเลสงสัย ไม่เชื่อก็ให้หาข้อมูลใช้ข่าวกรองพิเศษ แล้วท่านก็จะถึงบางอ้อ ว่าเรื่องมันเป็นอย่างนี้เอง ผู้เขียนอยากจะเขียนให้ชัดเจนมากกว่านี้แต่ไม่กล้าลงชื่อผู้กระทำความผิดเพราะว่ามันจะเป็นภัยแก่ตน แต่ที่อดเขียนไม่ได้ ก็เพราะเห็นว่าพวกท่านทั้งหลายกำลังพากันกระทำผิดกฎหมายบ้านเมืองตาม คมช. เผื่อท่านจะได้มีสติแยกแยะว่าอันไหนควรไม่ควรมันจะเสียหายไปมากกว่านี้

สุดท้ายหวังว่าท่านจะพิจารณาด้วยปัญญาของท่านเอง

ด้วยความนับถือ


http://www.prachatai.com/webboard/topic.php?id=499921

สนธิ"อ้างประโยชน์ชาติ เมินเสียงค้าน พ.ร.บ.มั่นคง
สังคมและการเมือง

--------------------------------------------------------------------------------
โพสต์: MOU



ID#499921 เมื่อ: 2550-10-19 08:26:05

http://www.norsorpor.com/go2.php?t=mg&u=http%3A%2F%2Fwww.komchadluek.net%2F2007%2F10%2F19%2Fk001_163464.php%3Fnews_id%3D163464

อ้างว่าทำเพื่อชาติ อย่ากจะตั้งคำถามว่า
@กิจกรรมที่ พล.อ. สนธิ และคณะตั้งแต่ 19 กย. 49 จนถึงบัดนี้ ประเทศไทยได้อะไร? เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศหรือไม่ เศรษฐกิจดีหรือไม่ ประชนในชาติสามัคคีกันหรือไม่

โพสต์: Heha

ID#499931 เมื่อ: 2550-10-19 08:34:17 IP: 222.123.25.151 x

ถ้าหาก พล.อ.สนธิ ไม่ต้องการได้อะไรจาก พรบ. ฉบับนี้ ก็ทำไมไม่ปล่อยให้สภาฯที่มากจากประชาชนจริงๆ เขาทำกันละ ?

กฎหมายที่มีผลกระทบโดยตรงต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนอย่างนี้ แต่จะให้ออกโดยรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติ รัฐประหาร...แล้วใครจะเชื่อว่า ประชาชนยอมรับกฎหมายฉบับนี้ ด้วยความสมัครใจ !

โพสต์: สมฆ



ID#499956 เมื่อ: 2550-10-19 09:00:40


ฟังว่า สนช.จะยกเรื่องส่งศาล รธน.น่ะ ก็ดูดี

โพสต์: ณ.ณ.



ID#499999 เมื่อ: 2550-10-19 09:35:42

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่าง พรบ. นี้ไปหมดแล้ว ในกระทู้นี้ค่ะ
http://www.prachatai.com/webboard/topic.php?id=499177

โพสต์: ดวง

ID#500036 เมื่อ: 2550-10-19 10:10:23 IP: 58.9.79.243 x

ความมั่นคงของไอ่ บังธิ นี่ล่ะ มันคงต้องการให้เกิดความวุ่นวายทุกหย่อมหญ้า

โพสต์: DEKDEE



ID#500048 เมื่อ: 2550-10-19 10:18:59

โค ตร พ่อ โค ตรแม่อ้างแต่เพื่อชาติ เพื่อผลประโยชน์ชาติ

จริงรึ!


http://www.prachatai.com/webboard/topic.php?id=499750

โพสต์: Don



ID#499764 เมื่อ: 2550-10-19 01:20:21




http://www.iht.com/articles/2007/10/18/europe/18sweden.php

International Herald Tribune Europe

Sweden's sale of fighter jets to Thailand generates controversy
By Ivar Ekman Published: October 18, 2007



Jas 39 Gripen fighter



















































STOCKHOLM: Thailand has announced that it would purchase six Swedish-made jet fighters, with an option to buy another six, generating both relief and skepticism here.

The deal for the six Gripen-JAS 39C/D multi-role fighters, valued at 3.7 billion kronor, or $600 million, was a long-awaited boost to the efforts by the Swedish government, and the airplane maker Saab, to market the plane internationally. Previously, Gripen fighters have been sold to South Africa and leased to the Czech Republic and Hungary.

Peter Larsson, a spokesman for Saab, said that the deal, announced on Wednesday, was "very welcome." Saab is one among several companies bidding for a contract to sell 126 jet fighters to India, and Larsson said that the Thai deal was especially positive "as a signal that we now are established in Asia."

The Swedish foreign minister, Carl Bildt, said in a statement that "this decision once again confirms that Gripen is a world class and cost-effective system."

But the announcement also drew heavy criticism, mainly because Thailand has been ruled by a military junta since a coup in September, 2006.

"Thailand is a military dictatorship, and Sweden has no business selling weapons to military dictatorships," said Ola Mattson, secretary general of the Swedish Peace and Arbitration Society.

Larsson of Saab said that Thailand was "on the path back to becoming a democracy," and that elections had been announced for Dec. 23 by the military rulers.

Another point of contention is Sweden's role as a major manufacturer of arms, as well as a high-profile dove in international affairs. This is a double role that observers say has become much more difficult in the past few years.

During the Cold War, Sweden built up a strong domestic defense industry in order for its neutrality policy - Sweden stood outside both NATO and the Warsaw Pact - to be credible, said Jan Joel Andersson, program director at the Swedish Institute of International Affairs. But after communism collapsed, an industry which had primarily supplied the Swedish military has become much more dependent on exports.

"It has become a tough balancing act to at once hail peace and peaceful development, and at the same time export arms," he said.

Others put it more bluntly.

"It's simply not credible," Mattsson said, pointing to how Sweden is pushing for tougher regulations in a new arms trade treaty currently being negotiated in the UN. "You can't one day say that it's important to build peace, and the next do all you can to sell high-tech weapons."


http://www.prachatai.com/webboard/topic.php?id=499564

สาเหตุที่ป๋าเปรม อยู่บ้านสี่เสา เทเวศน์ ครับ
สังคมและการเมือง

--------------------------------------------------------------------------------
โพสต์: Frank



ID#499564 เมื่อ: 2550-10-18 22:24:44

ถ้าว่าตามความเป็นจริง บ้านสี่เสา เทเวศน์ เป็นบ้านพักรับรองประจำตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ท่านพลเอกเปรมท่านอยู่ตั่งแต่ดำรงตำแหน่งนี้ กระทั่งขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีควบผู้บัญชาการทหารบก แต่เมื่อท่านเกษียณจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก แต่ยังเป็นนายกรัฐมนตรีก็ยังขออยู่ต่อ เพราะท่านไม่มีบ้านพักส่วนตัวในกรุงเทพมหานคร ทั่งที่มีบ้านพักรับรองนายกรัฐมนตรีคือบ้านพิษนุโลก ที่โอ่อ่ากว่า กระทั่งท่านลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและได้รับโปรดเกล้าเป็นองคมนตรี ก็ยังคงอยู่ต่อเพราะอ้างว่าต้องปฏิบัติ์หน้าที่ในฐานะองคมนตรี และไม่มีบ้านพักในกรุงเทพมหานคร แต่จริงแล้ว ในฐานะประธานองคมนตรี ทางสำนักพระราชวัง-สำนักงานทรัพย์สิน ก็มีบ้านพักรับรองที่เหมาะสมกว่าเพราะขึ้นระดับเป็นทำเนียบคือทำเนีบยท่าช้าง อยู่บนถนนพระอาทิตย์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้พระบรมมหาราชวัง และทำเนียบองคมนตรีมากกว่าบ้านสี่เสา เทเวศน์ ด้วย
เพื่อความสง่างาม ท่านพลเอกเปรมคืนบ้านสี่เสา เทเวศน์ ให้กองทัพบกเขาไปเถอะครับ แล้วย้ายไปอยู่ทำเนียบท่าช้างดีกว่า


http://www.prachatai.com/webboard/topic.php?id=499476

สนธิ"ไร้มารยาท"นักวิชาการสุดทนแทรกเลือกตั้ง
สังคมและการเมือง

--------------------------------------------------------------------------------
โพสต์: ms

ID#499476 เมื่อ: 2550-10-18 21:21:02

ความพยายามเข้ามามีบทบาทเหนือการเลือกตั้งของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ที่ล่าสุดได้เข้ามาเป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาซื้อสิทธิขายเสียง เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลใจของหลายฝ่าย เนื่องจากที่ผ่านมามีหลักฐานยืนยันได้ชัดเจนว่ามีความพยายามที่จะสกัดกั้นกลุ่มการเมืองบางกลุ่ม ผ่านกระบวนการและกลไกทางการทหาร

แม้ว่าคณะกรรมการชุดนี้จะกำหนดภารกิจ ว่ามีหน้าที่ในการรณรงค์ทำความเข้าใจ เกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น แต่จากเอกสารของฝ่ายทหารที่เคยรณรงค์ในลักษณะเดียวกันเมื่อคราวลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งชัดว่าให้ลดความนิยมในกลุ่ม ทรท. ทำให้เกิดความไม่มั่นใจว่าครั้งนี้ จะมีลักษณะแบบเดียวกันหรือไม่

รวมทั้งการที่ยังคงอำนาจกรรมการชุดนี้ไว้จนกระทั่งการรับรองการเลือกตั้งครบทุกเขตแล้ว 15 วัน ก็ยิ่งทำให้กังขาถึงจุดประสงค์ของการมีคณะกรรมการดังกล่าว อีกทั้งการประกาศถึงบันได 4 ขั้น หรือการระบุว่ายังมีบันไดขั้นที่ 5 ขั้นที่ 6 ของ พลงอ.สนธิ ก็ยิ่งถูกตีความอย่างน่ากังวล

นายโคทม อารียา ในฐานะอดีต กกต. มองว่าการตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมามีความแปลก เพราะในแต่ละสมัยก็มีเพียงแค่ กกต. อย่างเดียว ที่ทำงานเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ไม่เห็นจำเป็นจะต้องมี คณะกรรมการอะไรอีก หรือหากจะเป็นเรื่องทุจริตทางอาญา ก็สามารถอาศัยอำนาจของตำรวจที่จะดำเนินการตามกฎหมายได้อยู่แล้ว

"แม้จะมีคณะกรรมการชุดสกัดการซื้อเสียงขึ้นมา คณะกรรมการชุดนี้ก็เป็นเพียงแค่ส่วนเสริม ในการช่วยเหลืองาน กกต.เท่านั้น หากจะเกิดความสับสนในการปฏิบัติหน้าที่บางจุดที่อาจจะไม่ตรงกัน อย่างไรก็ต้องเลือกที่จะเชื่อ กกต. ไว้ก่อน"

ส่วนที่มองกันว่า กกต. เป็นเหมือนยักษ์ ไม่มีกระบองนั้น จริงๆแล้วกระบองมีอยู่เยอะด้วย และมีหลายเรื่องที่ กกต. สามารถทำได้ตามอำนาจหน้าที่ แต่อยู่ที่ความกล้ามากกว่าที่จะเลือกเอากระบองมาใช้
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร เลขาธิการมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย มองว่าการทำงานของ กกต. ที่มีการขอความร่วมมือจากหลายๆ ฝ่าย ก็เพื่อให้ผลออกมาบริสุทธิ์ ยุติธรรม แต่สำหรับคณะกรรมการชุดสกัดกั้นการซื้อสิทธิ์ขายเสียงนั้น อาจจะต้องพยายามให้มากหน่อย โดยเฉพาะในเรื่องการวางตัวเป็นกลาง และจะต้องไม่ยึดติดกับการจับผิดเฉพาะฝ่ายเดียว เพราะจะทำให้ประชาชนผิดหวัง

การที่ พล.อ.สนธิ เป็นทั้งรัฐมนตรี คมช. บวกกับความเป็นทหารด้วย ก็ควรจะทำตัวให้เป็นกลาง อย่าไปติดกับเป็นการจะสั่งใครซ้ายหัน ขวาหัน ก็ได้

พร้อมกันนี้ยังได้ยกตัวอย่างการวางตัวเป็นกลาง ของรัฐบาลสมัย นายอานันท์ ปันยารชุน ว่าในการเลือกได้นำเอาคณะกรรมการที่เป็นองค์กรกลางจริงๆ ที่มาจากภาคส่วนต่างๆ มาทำงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลสามารถทำได้ เพราะผู้ตัดสินจริงๆ คือประชาชนเป็น ไม่ใช่ให้ใครคนใดคนหนึ่งมีพลังในการสั่งการ และไม่ใช่การเพิ่มอำนาจใหม่ให้ใคร

ส่วนคณะทำงานที่จะยังอยู่หลังการรับรองผลการเลือกตั้งต่อไปอีก 15 วันนั้น ก็เป็นสิทธิ์ที่สามารถจะทำได้ แต่ในความเป็นจริงตามมารยาทแล้วก็ไม่เหมาะสม

ทางด้าน รศ.สุขุม นวลสกุล นักวิชาการรัฐศาสตร์ ให้ความเห็นว่า จริง ๆ และคณะกรรมการลักษณะนี้ก็สามารถจัดตั้งขึ้นได้ แต่เมื่อมีการจัดแล้วคงจะทำให้เกิดความระแวง เพราะถ้ามองในด้านการเมืองแล้ว พล.อ.สนธิ ก็เหมือนเป็นคู่กรณีของพรรคพลังประชาชน

เพราะฉะนั้นการที่ตั้งคณะกรรการชุดนี้ขึ้นมา จะให้อีกฝ่ายหนึ่งไว้วางใจ เชื่อใจคงเป็นไปได้ยาก แต่ถ้าถามว่าขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้นก็คิดว่าไม่น่าจะขัด สามารถทำได้ เพราะหน้าที่ บทบาทหลัก ๆ ก็ยังอยู่ที่ กกต.อยู่แล้วเพียงแต่รัฐบาลก็อาจจะเข้าไปช่วยในส่วนของการรณรงค์ป้องกันเสียงมากขึ้น

แต่อย่างไรก็ตามบทบาทไม่น่าจะเป็นการดูแลการเลือกตั้ง หรือหากจะมีใครเข้ามาดูแลก็น่าจะแต่งตั้งคนอื่นที่ไม่ใช่ พล.อ.สนธิ จะดีกว่า ถ้าทำให้เกิดความระแวงก็ไม่สมควร เพราะตัว พล.อ.สนธิ เองก็มีจุดมุ่งหมายทางการเมืองอยู่แล้ว คนส่วนใหญ่ก็คงไม่เชื่อว่าการเลือกตั้งจะออกมาบริสุทธิ์ ยุติธรรม

ด้าน นางสดศรี สัตยธรรม หนึ่งในคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่าไม่ได้รู้สึกลำบากใจที่ พล.อ..สนธิ จัดตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมา กกต. เองก็ดีใจที่จะให้ทุกๆฝ่ายมาช่วยกัน ซึ่งไม่ได้ระบุว่าจะต้องมาจากทางฝ่ายไหนบ้าง แต่เมื่อทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการที่จะช่วยกันก็ถือว่าเป็นเรื่องดี ไม่ได้มองว่า เป็นการทำงานที่ก้าวก่ายกัน แต่เป็นการทำงานที่ต่างฝ่ายต่างก็เป็นอิสระ

โดยหน้าที่นั้น กกต. จะคอยควบคุมดูแล ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้งเป็นหลัก ส่วนทางด้านคณะกรรมการ ก็จะคอยประชาสัมพันธ์ให้แก่ประชาชนได้รับทราบและเข้าใจถึงข้อเท็จจริง คอยตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ใช้สำหรับการเลือกตั้งของพรรคต่างๆ ซึ่งหน้าที่ในการตัดสินกับผู้ที่กระทำผิด ในส่วนของ กกต.เอง ก็ยังเหมือนเดิม

กรรมการชุดนี้เป็นเพียงตัวเสริมและสนับสนุนให้กับกกต.เท่านั้น กกต.เองยังมีสิทธิ์ที่จะจัดการกับผู้กระทำผิดได้ ตามอำนาจหน้าที่ และพระราชบัญญัติ 3 ฉบับ ที่ กกต. มี แต่เมื่อไรก็ตาม ที่ความผิดของผู้กระทำอยู่นอกเหนือจากพระราชบัญญัติ 3 ฉบับ ของ กกต. ก็เป็นหน้าที่ ของฝ่ายคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียงที่จะจัดการได้เลย เพราะนั่นคงเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงระดับชาติแล้ว

ส่วนการร่วมงานกันในตอนนี้ระหว่างฝ่าย กกต. และ คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียง นั้น ยังไม่ได้ผลสรุป ต้องรอดูกันอีกสักระยะหนึ่ง เพราะตอนนี้ยังอยู่ในช่วงของการวางแผน แต่ยังไม่ได้ลงลึกไปถึงในเรื่องของการทำงาน

ทางด้านนายสุเมธ อุปนิสากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านการมีส่วนร่วม เชื่อว่าการตั้งคณะกรรมการดำเนินงานตามวาระแห่งชาติ ว่าด้วยการซื้อสิทธิ์ขายเสียง จะไม่มีปัญหาในเรื่องของการทำงานซ้ำซ้อน หรือลดทอนอำนาจของ กกต. และเชื่อว่าจะมีความเป็นกลางและช่วยให้การจัดการเลือกตั้งมีความบริสุทธิ์ยุติธรรมมากขึ้น พร้อมกันนี้ ยังเห็นว่าการเข้ามาทำงานของ พล.อ.สนธิ ไม่ได้มีธงที่จะมาสกัดกั้นพรรคการเมืองบางพรรค และมั่นใจว่า พล.อ.สนธิ จะไม่ทำในสิ่งที่ไม่เป็นกลาง หรือ ทำร้ายบ้านเมือง

ขณะที่นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. เห็นสอดคล้องกันว่า คณะกรรมการดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนผลการทำงานของ กกต. ในเรื่องการประชาสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในการลงคะแนนเสียงเรื่องการเลือกตั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบเป็นเขตเดียว 3 เบอร์

ด้าน พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ ปฏิบัติหน้าที่ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช.ยืนยันกรณีรัฐบาลแต่งตั้งให้พลเอกสนธิ เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิและขายเสียง นั้น ไม่ได้เป็นแผนการเพื่อหวังสกัดกั้นกลุ่มอำนาจเก่าในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นปลายปีนี้ แม้จะเคยเป็น คมช.ก็ตาม และขออย่ามองในภาพเก่าๆ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเห็นได้ว่าพลเอกสนธิ หวังดีต่อบ้านเมือง และหลังจากนี้ก็เชื่อมั่นว่า พลเอกสนธิ จะปฏิบัติหน้าที่ภายในความรับผิดชอบให้เกิดความยุติธรรมมากที่สุด และขอให้ประชาชนตลอดจนทุกฝ่ายติดตามการทำงานของ พลเอกสนธิต่อไป เพราะเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ข้อเท็จจริง

ในขณะที่ พล.อ.สนธิ ระบุถึงบันได 3ขั้นว่าเป็นขั้นตอนทางการทหาร ไม่ใช่การสกัดอำนาจเก่า รวมท้งการทำงานของคณะกรรมการก็จะไม่ซ้ำซ้อนกับ กกต. โดยการเลือกตั้งจะเป็นหน้าที่ของ กกต.ส่วนการป้องกันซื้อสิทธิ์ขายเสียงเป็นคนละเรื่องกับการเลือกตั้ง

อนึ่ง คณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง ทั้ง 51 คน ประกอบไปด้วย

รองนายกรัฐมนตรี (พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน) เป็น ประธานกรรมการ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์) และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานกรรมการ

กรรมการประกอบด้วย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หรือผู้แทน ปลัดกระทรวงกลาโหม หรือผู้แทน ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ หรือผู้แทน ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือผู้แทน ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือผู้แทน ปลัดกระทรวงมหาดไทย หรือผู้แทน ปลัดกระทรวงแรงงาน หรือผู้แทน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ หรือผู้แทน ปลัดกระทรวงยุติธรรม หรือผู้แทน ปลัดกรุงเทพมหานคร หรือผู้แทน

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือผู้แทนรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (พลโท บันเทิง พูนขำ) โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หรือผู้แทน อธิบดีกรมการปกครอง หรือผู้แทน อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น หรือผู้แทน อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ หรือผู้แทน เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือผู้แทน ประธานโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย หรือผู้แทน กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือผู้แทน

ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทรูวิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ผู้แทน ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 หรือผู้แทน ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกองทัพบกช่อง 5 หรือผู้แทน ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 หรือผู้แทน ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 9 อสมท. หรือผู้แทน ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 หรือผู้แทน ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี หรือผู้แทน ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย หรือผู้แทน

นายกสมาคมอาสาสมัครสาธารณสุขไทย หรือผู้แทน นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย หรือผู้แทน นายกสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย หรือผู้แทน นายกสมาคมนักข่าวบันเทิง หรือผู้แทน นายกสมาคมวิทยุสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือผู้แทน นายกสมาคม นักวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือผู้แทน นายทวี สุรฤทธิกุล นายธนภน วัฒนกุล รองศาสตราจารย์ นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ นายปรีชา บัววิรัตน์เลิศ นายศิวะ แสงมณี ศาสตราจารย์ สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ และนายสมภพ เจริญกุล โดยมี เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นกรรมการและเลขานุการ

รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร (นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พลตรี มารุต ปัชโชตะสิงห์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนายุทธศาสตร์และติดตามนโยบายพิเศษ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและประสานงานคณะรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ผู้อำนวยการสำนักประสานงานการเมือง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการ สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการกองคลัง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

ประชาทรรศน์



โพสต์: สุดหล่อ

ID#499507 เมื่อ: 2550-10-18 21:44:59

อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ ทหารสันดานกา..........ฝาก

โพสต์: Heha

ID#499521 เมื่อ: 2550-10-18 21:54:55 IP: 222.123.64.95 x

รู้สึกว่าลูกไม้นี้ จะถูกนำมาใช้บ่อยเหลือเกิน

บอกว่าจะเข้ามาปฏิรูป ประชาธิปไตย....แต่ก็เข้ามาด้วยการปฏิวัติ แล้วร่างรัฐธรรมนูญ ที่บอกอย่างชัดเจน ว่า ต้องการทำลายความมั่นคงทางการเมือง

บอกว่าจะสร้างความสมานฉันท์ระหว่างคนในชาติ....แต่ก็ประกาศตั้งหน้าตั้งตาจะทำลายล้างคนไทยกลุ่มหนึ่ง อย่างเอาเป็นเอาตาย

บอกว่าจะไม่สืบทอดอำนาจ....แต่พอเกษียณจากตำแหน่ง ผบ.ทบ. ก็รับการแต่งตั้ง ให้เป็นรองนายกรัฐมนตรีต่อ

แล้วนี่..บอกว่าจะมาเป็นประธานการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง.....ผลมันจะออกมาเป็นอย่างไร ไม่ทราบ ?

ประเทศไทย เป็นของคุณคนเดียวหรืออย่างไร ?

โพสต์: Fight

ID#499551 เมื่อ: 2550-10-18 22:15:26 IP: 124.120.148.197 x

[color=black]เสือก .... มาก ไอ้แ ขก ระยำ[/color]

โพสต์: sarapaheylo



ID#499557 เมื่อ: 2550-10-18 22:19:21

นึกถึงหน้าไอ้นั่นที่ไร ไม่เห็นมันจะมีบารมงบารมีอะไรเล้ย
ดำดำ หมองๆ ทำมั้ยทำมัย มันถึงมาถึงตรงนี้ได้
พูดถึงมาคุมการเลือกตั้งอีก เหมือนเอาหมาร้อดไวเลอร์มาเฝ้าแมว


โพสต์: \(^_^)/

ID#499562 เมื่อ: 2550-10-18 22:23:51 IP: 124.121.48.246 x

โพสต์: Fight

ID#499551 เมื่อ: 2550-10-18 22:15:26 IP: 124.120.148.197 x
[color=black]เสือก .... มาก ไอ้แ ขก ระยำ[/color]



สอนให้นะ.

เสือก .... มาก ไอ้ Fight ระยำ

โพสต์: งามแต้ ๆ

ID#499586 เมื่อ: 2550-10-18 22:38:51



โพสต์: อสูรหยก

ID#499596 เมื่อ: 2550-10-18 22:42:16

ทีตอนเนี้ยยยย..........ไอ่พวกนักวิชาการล่ะเสือกดีนัก........

เอ้า........ถ้ากลับตัวกันได้ก็รีบๆทำดีซะ.........

โพสต์: Don



ID#499774 เมื่อ: 2550-10-19 01:34:50



โพสต์: สยามคือไท



ID#499957 เมื่อ: 2550-10-19 09:03:08

เมืองไทย ???

ประสาร มฤคพิทักษ์ คุณ จะ กลับลำมาอยู่กับประชาชนได้หรือยัง

โพสต์: สมหน้ำหน้า

ID#500062 เมื่อ: 2550-10-19 10:27:15 IP: 67.168.226.121 x

*****มุสลิม มันพยายามจะจัดการกับคนไทยทุกคนใ้ห้ปั่นป่วนแล้วก็หาทางมีอำนาจสูงสุดเพื่อพวกมุสลิม คนไทยโง่จะตายไม่กล้าทำไรหรอกหมาเห่าใบตองแห้ง คนไทยเห็นแก่ตัวคนดีมีอำนาจก็ไปไล่เขาหนีหัวซุกหัวซุนทั้งครอบครัว สมหน้ำหน้าแล้วหละ


http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5920007/P5920007.html

BigMc Hot News.เผด็จการทหารไทยกำลังถูกขับไล่.เมื่อประชาคมโลกส่งนาย Gambari มาเมืองไทยเป็นอันดับแรก.ทำไม???
..............................



จากคุณ : Mr.PeaceMan - [ 15 ต.ค. 50 16:28:41 A:203.118.74.32 X: ]

ความคิดเห็นที่ 1

http://www.forbes.com/afxnewslimited/feeds/afx/2007/10/15/afx4218411.html

BANGKOK (Thomson Financial) - UN envoy Ibrahim Gambari met with Thai officials Monday on the first stop of an Asian tour to increase pressure on Myanmar as the junta accused the West of trying to replace it with a puppet government.

Despite international condemnation of its deadly crackdown on protests led by Buddhist monks last month, the regime arrested six more key dissidents over the weekend, according to Amnesty International.

Myanmar's state media Monday lashed out at Western nations, accusing them of trying to install a puppet government as European Union foreign ministers were due in Luxembourg to discuss tougher sanctions against the junta.

'Myanmar is situated in a geographically strategic area. It is important for the leaders of western nations to become their stronghold. That is why they are trying to install a government under their influence,' the official New Light of Myanmar said.

'The present Tatmadaw (military) government will not be placed under their influence,' it added.

British Prime Minister Gordon Brown Monday reiterated Western demands that the junta must 'start a process of reconciliation with the opposition that includes (pro-democracy leader) Aung San Suu Kyi' and 'end the violence and release political detainees.'

Brown said that at the Luxembourg meeting, the UK would push for 'tough sanctions, including on individuals and commodities like timber, gems and metals.'

The US, the UK and France have spearheaded efforts at the United Nations to condemn the military regime and to prod the junta to release political prisoners.

Gambari's mission to Asia aims to build support among Myanmar's closest neighbors and allies for tougher action.

China, one of Myanmar's biggest trading partners and supporters, backed a UN Security Council statement last week deploring the regime's crackdown that left at least 13 dead and more than 2,000 locked up.

Thailand, which has been ruled by a military-backed government since last year's coup, has formally protested to Myanmar over the violence.

Before his meeting with Gambari, Thailand's army-installed Prime Minister Surayud Chulanont said he was prepared to consider taking other steps against the neighboring regime, but only within the framework of the Association of Southeast Asian Nations (ASEAN).

'As an ASEAN member, Thailand will listen to the UN envoy first about any proposals that he raises, and we will consider what we can do,' Surayud told reporters.

'We will give answers to Gambari immediately, but the answers will be within the framework of ASEAN,' he added.

Thailand last year was Myanmar's biggest investor, mainly due to a 6-billion US dollar hydroelectric dam project near the border.

The kingdom is also one of Myanmar's biggest trading partners, with more than 3 billion dollars in bilateral trade last year -- mainly Thai imports of desperately needed natural gas.

Gambari was set to leave Tuesday for Malaysia and then carry on to Indonesia, India, China and Japan.

His tour comes amid growing concern for the safety of about 1,000 people still detained over the protests, after a Thailand-based monitoring group said last week that one activist died after being tortured during interrogation.

The protests began in mid-August in anger at a surprise hike in fuel prices that left many unable to afford even bus fare to get to work.

But the rallies swelled into a mass movement last month when Buddhist monks took the lead, drawing up to 100,000 people onto the streets of Yangon in protest at the military, which has ruled this country since 1962.



จากคุณ : BigMc (Mr.PeaceMan) - [ 15 ต.ค. 50 16:34:22 A:203.118.74.32 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2

BigMc Hot News.เผด็จการทหารไทยกำลังถูกขับไล่.เมื่อประชาคมโลกส่งนาย Gambari มาเมืองไทยเป็นอันดับแรก.ทำไม???



จากคุณ : BigMc (Mr.PeaceMan) - [ 15 ต.ค. 50 16:41:00 A:203.118.74.32 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3

คำตอบคือ...........



จากคุณ : BigMc (Mr.PeaceMan) - [ 15 ต.ค. 50 16:51:14 A:203.118.74.32 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4

.................!!!???!!!



จากคุณ : BigMc (Mr.PeaceMan) - [ 15 ต.ค. 50 17:07:00 A:203.118.74.32 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5

เข้ามาขำครับ รูปฮาดี ...

จากคุณ : ค้นหา - หนทาง - [ 15 ต.ค. 50 17:16:45 A:203.144.197.162 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6

.................!!!???!!!



จากคุณ : BigMc (Mr.PeaceMan) - [ 15 ต.ค. 50 17:17:41 A:203.118.74.32 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7

Bye........



จากคุณ : BigMc (Mr.PeaceMan) - [ 15 ต.ค. 50 17:34:05 A:203.118.74.32 X: ]



http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms01&ContentID=2733&SystemModuleKey=Society&SystemLanguage=Thai

โปรดจับตาอย่ากระพริบ สนช.คลอดกม. ร่างทรงอำนาจรัฐ

เบญจา ศิลารักษ์
สำนักข่าวประชาธรรม

ก่อนการเลือกตั้ง ขณะที่คนจำนวนมากพุ่งความสนใจไปที่พรรคการเมืองต่างๆ รวมไปถึงผู้สมัคร สส.ของแต่ละเขต ใครจะลงหรือไม่ลงสมัครเขตไหน อย่างไร แต่ในระหว่างนี้แทบจะไม่มีใครสนใจการทำงานของรัฐบาล คมช. ที่กำลังเร่งผลักดันออกกฎหมายหลายฉบับ รอการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ ซึ่งรวมแล้วมีไม่ต่ำกว่า 48 ฉบับ ล้วนแล้วแต่กำหนดชะตาชีวิตของประชาชนเกือบจะครอบคลุมในทุกๆ ด้าน นับตั้งแต่สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การสื่อสาร ด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การจัดการศึกษา ระบบสวัสดิการ จนถึงการจัดการด้านเศรษฐกิจเลยทีเดียว



ที่ผ่านมาคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ได้มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเนื้อหาสาระของกฎหมายที่กำลังจะนำเข้าพิจารณาในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะคลอด 3 วาระรวดหลายฉบับ เช่น ร่างกฎหมายรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร ร่างกฎหมายมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ร่างกฎหมายประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฯลฯ

ทั้งนี้มีการวิเคราะห์กันว่าเหตุที่รัฐบาล คมช.พยายามเร่งผลักดันกฎหมายหลายฉบับผ่าน สนช.นั้นมาจากความต้องการรักษาฐานอำนาจ โดยมุ่งไปสู่การเพิ่มอำนาจให้แก่หน่วยงานรัฐ แต่กลับจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่เอื้อประโยชน์แก่กลุ่มทุนไม่ต่างไปจากรัฐบาลหลายๆ ชุดที่ผ่านมา

ในเวที กป.อพช.มีการแบ่งกฎหมายที่ประชาชนต้องร่วมกันคัดค้าน และจับตามองออกเป็นหมวดหมู่ ซึ่งพบว่าครอบคลุมชะตาชีวิตประชาชนเกือบจะทุกด้านดังที่กล่าวมาข้างต้น หากกฎหมายดังกล่าวคลอดออกมามีผลบังคับใช้ ต่อให้เรามีรัฐธรรมนูญที่สวยหรูเพียงใดก็ไร้ความหมาย เมื่อเสรีภาพของประชาชนถูกแย่งชิงไปเสียแล้ว

“สนช.ไม่มีความชอบธรรมในการออกกฎหมายเพราะไม่ใช่สภาที่มาจากการเลือกตั้ง แต่แต่งตั้งในระบอบเผด็จการ แม้ว่าสภาที่มาจากการเลือกตั้งมีแต่นักการเมืองน้ำเน่า แต่ก็ต้องรับผิดชอบประชาชน กฎหมายหลายฉบับร่างก่อนที่จะมีรัฐธรรมนูญ 2550 ดังนั้นจึงต้องมีการตรวจสอบว่าขัดรัฐธรรมนูญ 2550 หรือไม่” จอน อึ๊งภากรณ์ ประธาน กป.อพช.กล่าวถึงการผลักดันร่างกฎหมายผ่าน สนช.ในเวลานี้ พร้อมกับย้ำว่าจุดยืนของภาคประชาชนคือจะต้องติดตามตรวจสอบอย่างถึงที่สุด

กม.อันตราย ละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน

หนึ่งในร่างกฎหมายที่กำลังจะเร่งผลักดันให้ผ่านในรัฐบาลชุดนี้ และเครือข่ายภาคประชาชนถือว่าเป็นกฎหมายอันตรายให้สีแดงเข้ม หมายถึงกฎหมายที่จะต้องคัดค้านจนถึงที่สุดคือ ร่างกฎหมายรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ซึ่งมีกระแสการคัดค้านมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ยังไม่มีการลงประชามติรัฐธรรมนูญ 50

ร่างกฎหมายดังกล่าวเสนอโดยสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเพื่อเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาไปแล้วเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา

ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการพิจารณากฤษฎีกา อยู่ในลำดับที่ 3 ที่จะเข้าสู่ สนช. แนวโน้มโอกาสจะผ่านเป็นกฎหมายบังคับใช้สูงมาก เพราะที่ผ่านมาเครือข่ายองค์กรภาคประชาชนเคยยื่นหนังสือคัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าวไปแล้ว แต่นายกรัฐมนตรีพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์กลับบอกว่าจำเป็นต้องออกในรัฐบาลชุดนี้ เพราะถ้าเป็นรัฐบาลเลือกตั้งกม.ฉบับนี้จะออกยาก โดยไม่ระบุเหตุผลว่าทำไมต้องมีกฎหมายฉบับนี้แต่อย่างใด

ประเด็นที่มีการคัดค้านกันอย่างมากคือ ร่างพ.ร.บ.นี้ทำให้ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)ในฐานะผู้อำนวยการกองกำลังรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) สามารถรวมศูนย์อำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมได้ อันเป็นการขัดกับหลักประชาธิปไตยที่ยึดหลักตรวจสอบ ถ่วงดุลอำนาจซึ่งกันและกัน



ไพโรจน์ พลเพชร รองประธาน กป.อพช.กล่าวว่า ร่างกฎหมายนี้หากผ่านออกมาจะมีอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญเพราะจะทำให้ทหารเข้ามามีบทบาทมากขึ้น การที่รัฐบาล คมช.ยังไม่ยกเลิกพื้นที่กฎอัยการศึกก็จะทำให้ทหารเข้ามามีบทบาท ผู้บัญชาการทหารบกมีอำนาจใหญ่คับฟ้า เช่น จับกุมคนได้ทันที ตรวจค้น ทำลายสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ห้ามเดินทาง ห้ามชุมนุม หรือเมื่อมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน นายกรัฐมนตรีสามารถสั่งให้ทหารเข้ามามีบทบาทได้



ไพโรจน์ยังกล่าวอีกว่าปัจจุบันแม้ยังไม่มีการออกกฎหมายฉบับดังกล่าว ก็มีการใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้องแล้วโดยเฉพาะในเขตจังหวัดชายแดนใต้ มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน อีกทั้งยังเห็นว่ากฎหมายฉบับนี้จะเอื้อประโยชน์ให้กับนักลงทุน กรณีที่มีปัญหาในโครงการขนาดใหญ่ ขัดแย้งกับประชาชน รัฐบาลสามารถอ้างเอากฎหมายฉบับนี้มาใช้ได้ ถือว่าขัดหลักรัฐธรรมนูญ และเป็นการรัฐประหารโดยใช้กฎหมายนั่นเอง

กม.คุมเข้มสื่อ เผด็จการย้อนยุค

กลุ่มกฎหมายที่จัดได้ว่าเป็นกฎหมายที่ต้องจับตามองอย่างมากไม่แพ้ร่างกม.รักษาความมั่นคง เพราะเกี่ยวข้องกับสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนอย่างมาก คือกลุ่มกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสื่อจำนวน 8 ฉบับ

กฎหมายทั้ง 8 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดทางคอมพิวเตอร์ , ร่างพ.ร.บ.องค์การกระจายเสียงและแพ่รภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ....., ร่างพ.ร.บ.ภาพยนตร์และวิดีทัศน์ พ.ศ......,ร่างพ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ พ.ศ...... , ร่างพ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.....,ร่างพ.ร.บ.ปราบปรามวัตถุยั่วยุพฤติกรรมอันตราย พ.ศ......, ร่างพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับแก้ไข) ,ร่างพ.ร.บ.กองทุนส่งเสริมภาพยนตร์ พ.ศ..... ในจำนวนนี้ พ.ร.บ.ที่ผ่านออกมาแล้วมีผลบังคับใช้ได้แก่พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ ปี 2550 นอกนั้นอยู่ระหว่างการชงให้ สนช.พิจารณาและเร่งผลักดันออกเป็นกฎหมาย



สุภิญญา กลางณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการปฏิรูปสื่อ (คปส.) กล่าวว่าการยกกฎหมายสื่อขึ้นมาปัดฝุ่นใหม่นั้น กฎหมายหลายฉบับในแวดวงสื่อสารมวลชนเองก็เห็นว่ามีความล้าหลัง ต้องปัดฝุ่น เช่น กฎหมายภาพยนตร์ปี 2473 ที่มีการเปลี่ยนมาเป็นปี 2479 มีความล้าหลังประเทศอื่นอยู่มาก เช่นให้ตำรวจเป็นผู้เซ็นเซอร์ภาพยนตร์

แต่อย่างไรก็ตามตนเองเห็นว่าไม่ควรผลักดันกฎหมายสื่อภายใต้รัฐบาล คมช. ซึ่งเป็นรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ประชาชนไม่มีส่วนร่วมแสดงความเห็น อีกทั้งยังมีแนวโน้มการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนได้มากเพราะเป็นรัฐบาลทหาร ร่างกม.ภาพยนตร์ที่เสนอ สนช.นั้นเปลี่ยนระบบเซ็นเซอร์ เป็นการจัดเรตติ้ง แต่ก็ยังให้อำนาจรัฐที่จะห้ามภาพยนตร์ฉายหรือไม่ฉายได้ เฉพาะอย่างยิ่งประเด็นที่ห้ามฉายภาพยนตร์ใดที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน คำถามคือว่าหากภาคประชาชนจะทำภาพยนตร์ฉายดูกันเอง ตามพ.ร.บ.ฉบับนี้ต้องถูกตรวจ เซ็นเซอร์เหมือนกัน

“อะไรที่ขัดต่อศีลธรรม และความมั่นคง คนที่พิจารณาคือ ภาครัฐ ถามว่าปีนี้ พศ.ไหนแล้ว” สุภิญญากล่าวย้ำ

ร่างพ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติพ.ศ.... ถือเป็นร่างพ.ร.บ.สื่ออีกฉบับที่ยกเลิกกฎหมายฉบับเก่าได้แก่พ.ร.บ.วิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ 2498 2502 2521 และ 2530 ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ของ คปส.ระบุว่าโดยภาพรวมยังคงสภาพความเป็นสื่อของหน่วยงานรัฐ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือการขยายอำนาจการสื่อสารในฐานะกระบอกเสียงของภาครัฐผ่านโครงสร้างสื่อบริหารสาธารณะระดับพื้นที่ เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจะทับซ้อนพื้นที่สื่อของชุมชน และภาคประชาชน สุภิญญา กล่าวว่าแม้จะมีการรองรับพื้นที่สื่อภาคประชาชนอยู่บ้าง แต่ก็มีช่องว่าง คือ การพิจารณาว่าใครเป็นชุมชนจริง ไม่จริง

ปัจจุบันร่างดังกล่าวอยู่ในวาระรับหลักการ และส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาตรวจพิจารณา จากนั้นจึงจะส่งให้ สนช.พิจารณาต่อไป

นอกจากนี้ยังมีกฎหมายที่แม้ไม่เกี่ยวข้องกับสื่อโดยตรง เป็นกฎหมายที่ต้องการแก้ปัญหาสื่อที่ส่งกระทบต่อเด็กและเยาวชน คือร่าง พ.ร.บ.ปราบปรามวัตถุยั่วยุพฤติกรรมอันตรายพ.ศ..... มีเจตนาดี แต่ในอีกด้านหนึ่ง สุภิญญา เลขาธิการ คปส.มีความเห็นว่าร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวให้คำจำกัดความของสื่อลามกที่กว้างเกินไปเช่น การมีลอยสักที่แสดงถึงการเป็นสื่อลามกตามการตีความของเจ้าหน้าที่ก็ถูกดำเนินคดีได้ พร้อมกับแสดงความเป็นห่วงว่าร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวอาจจะเป็นการเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่รัฐมีอำนาจมากขึ้น เปิดช่องให้บุคคลที่เป็นคู่ขัดแย้งสามารถนำร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวมาใช้จัดการกับคู่ขัดแย้งได้ และกระบวนการยุติธรรมจะปกป้องประชาชนได้อย่างไร

ร่างพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมที่ร่างขึ้นตามรัฐธรรมนูญ 2540 ก็พบว่ากำลังมีการเสนอแก้ไขและจะเข้า สนช.เช่นกัน แต่ยังพบรายละเอียดเนื้อหาสาระของร่าง

ส่วนร่างที่เกี่ยวข้องกับสื่อและผ่าน สนช.เรียบร้อยแล้ว คือ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ ถือเป็นกฎหมายที่มีการบังคับใช้ และพบว่าให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่รัฐอย่างมหาศาลในการตรวจสอบข้อมูลประชาชน จนไปถึงระดับปัจเจกบุคคลที่ถือว่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ปัจจุบันมีการดำเนินคดี จับกุมคนที่เข้าข่ายผิดกฎหมายแล้ว

กล่าวโดยสรุปการผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสื่อนั้น เนื้อหาสาระคือเปิดช่องให้ภาครัฐเข้ามาควบคุมสื่อได้มากขึ้น การควบคุมสื่อเท่ากับเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น จนถึงจิตนาการและความคิดฝันของประชาชนด้วย

กม.ละเมิดสิทธิทางเศรษฐกิจ ขายสมบัติชาติเหมือนเดิม

ร่างกม.ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจของประเทศที่มีการคัดค้านอย่างหนัก คือร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การแปลงสภาพรัฐวิสาหกิจ พ.ศ..... ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติผ่านกฎหมายในเวลาอันรวดเร็ว และนำเข้าสู่การพิจารณาของ สนช. อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ตอนแรกฝ่ายภาคประชาชนมีความยินดีที่รัฐบาลยกเลิก พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจปี 2542 แต่ในความเป็นจริงมีการยกร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ขึ้นมาแทนที่ ทั้งนี้โดยมีเงื่อนไขว่าจะเร่งพิจารณาโดยเร็วให้เสร็จทันรัฐบาลชุดนี้ ฝ่ายภาคประชาชนที่คัดค้านอันได้แก่สหพันธ์องค์กรผู้บริโภค สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยมีความเห็นว่าร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวไม่ต่างจากพ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจแต่อย่างใด เพราะเป็นการนำรัฐวิสาหกิจไปขายเช่นกัน อาจจะแตกต่างแค่รูปแบบและวิธีการเท่านั้น



รสนา โตสิตระกูล กรรมการสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค มีความเห็นว่าร่างพ.ร.บ.นี้ร้ายยิ่งกว่าพ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจปี 2542 เสียอีก เพราะรัฐบาลสามารถแปรรูปรัฐวิสาหกิจไปขายได้โดยง่าย ขณะที่ประชาชนไม่สามารถต่อต้านได้ เพราะร่างพ.ร.บ. ดังกล่าวกำหนดว่าคณะกรรมการนโยบายมีสถานะเป็นเจ้าพนักงานของรัฐตามกฎหมาย สามารถจับกุมประชาชนที่ไม่เห็นด้วยได้ ร้ายไปกว่านั้นคณะกรรมการชุดนี้ไม่มีตัวแทนของผู้บริโภคเข้าไปมีส่วนร่วมเลย

นอกจากนี้ระบบการกระจายหุ้นตามร่างพ.ร.บ.นี้ยังเป็นการให้เช็คเปล่าแก่ฝ่ายบริหาร เน้นเรื่องการกระจายหุ้น บอกว่าจะทำให้เกิดความเป็นธรรมในการกระจายหุ้น แต่กม.นี้ไม่สนใจว่ากระบวนการในการเลือกรัฐวิสาหกิจจะเลือกอะไรไม่เลือกอะไรมาแปรรูป ก็เท่ากับว่าแปรรูปรัฐวิสาหกิจได้หมด จุดมุ่งหมายก็ยังเป็นไปเพื่อการแสวงหาผลกำไรมากกว่านั่นเอง อีกทั้งยังไม่สามารถป้องกันการแสวงหาประโยชน์ของนักการเมืองกับสมบัติของชาติได้ เช่นการอนุญาตให้ฝ่ายบริหารสามารถนำหุ้นไปขายได้ เท่ากับเป็นการผ่องถ่ายทรัพย์สมบัติชาติไปสู่นักการเมืองนั่นเอง

“คนที่มีความรู้ในเรื่องนี้ กศท.ถือเป็นกระดูกสันหลังของโครงข่ายโทรคมนาคม ไม่ควรจะมีการกระจายหุ้นด้วยซ้ำไป แต่กลับไม่มีข้อห้ามในพ.ร.บ.ฉบับนี้ เมื่อดู รธน.50 ม.84 วงเล็บ 11 ระบุว่ากิจการที่เป็นโครงข่ายพื้นฐานที่เป็นตัวสำคัญ ถ้าแปรรูป รัฐต้องถือหุ้นไม่เกิน 51 เปอร์เซ็นต์ ก็เท่ากับเปิดให้เอกชนถือหุ้นได้ถึง 49 เปอร์เซ็นต์ จุดนี้ถือเป็นจุดที่อันตรายมาก เท่ากับสามารถหยิบกิจการใดมาเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้” รสนากล่าวย้ำถึงอันตรายที่สมบัติชาติจะถูกขายไปหากร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่าน สนช.

กม.รวบอำนาจจัดการทรัพยากร ละเมิดสิทธิชุมชน

กลุ่มกฎหมายที่เกี่ยวข้องการจัดการทรัพยากรและสิทธิชุมชน มีกฎหมายหลายฉบับที่กำลังเตรียมผลักดัน เช่น ร่างพ.ร.บ.ป่าชุมชน ร่างพ.ร.บ.การจัดการน้ำ ร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม (แก้ไขปี 2535) ร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมการจัดการทรัพยากรชายฝั่ง ร่างพ.ร.บ.ประมง ฯลฯ

ทั้งนี้ในกลุ่มนี้ร่างพ.ร.บ.ที่จัดว่าน่าเป็นห่วงมากที่สุด คือ ร่างพ.ร.บ.ที่มีการถกเถียง และคัดค้านอย่างกว้างขวางมานานกว่า 15 ปี คือร่างพ.ร.บ.ป่าชุมชน ร่างพ.ร.บ.ป่าชุมชนค้างเติ่งในรัฐสภา ผ่านรัฐบาลไม่น้อยกว่า 4 รัฐบาล และก็มีการผลักดันเข้าสู่ สนช. ในรัฐบาลนี้ด้วย ปัญหาที่น่าเป็นห่วงคือวิธีคิดของฝ่ายกรมป่าไม้ที่ยังคงมีอิทธิพลอยู่มาก กล่าวคือ ความคิดของฝ่ายกรมป่าไม้นั้นไม่สนับสนุนการมีป่าชุมชนในเขตอนุรักษ์ และยังมีลักษณะเป็นเจ้าของพื้นที่ป่าอยู่เช่นเดิม ดังนั้นผลการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ป่าชุมชนในชั้นคณะกรรมาธิการของ สนช.จึงขัดกับเจตนารมณ์ดั้งเดิมของฝ่ายภาคประชาชนที่เข้าชื่อเสนอกฎหมายมาตั้งแต่ปี 2543 ทั้งนี้เพราะพลังผลักดันร่างกฎหมายของฝ่ายกรมป่าไม้นั่นเอง



ผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯ มีการเปลี่ยนแปลงในมาตราสำคัญคือมาตรา 25 เรื่องการจัดการป่าชุมชนในเขตอนุรักษ์ และมาตรา 34 เรื่องการใช้ประโยชน์จากป่า นายบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ อำนวยการโครงการยุทธศาสตร์นโยบายและฐานทรัพยากร คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติกล่าวว่าการลงมติของคณะกรรมาธิการ สนช. ในมาตรา 25 นั้นยินยอมให้มีการจัดตั้งป่าชุมชนเฉพาะชุมชนที่อยู่ในเขตป่าอนุรักษ์เท่านั้น แต่ชุมชนที่อยู่ข้างๆ หรือติดกับพื้นที่ป่าไม่มีสิทธิ และยังมีเงื่อนไขว่าต้องดูแลจัดการป่าชุมชนในเขตอนุรักษ์มาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งในความเป็นจริงมีชุมชนประเภทนี้ไม่มาก ส่วนมาตรา 34 การใช้ประโยชน์จากป่า ก็ระบุว่าการใช้ไม้จากป่าชุมชนนั้นชุมชนจะต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่เสียก่อน เป็นต้น

บัณฑูร กล่าวต่ออีกว่าร่างพ.ร.บ.นี้จึงขัดกับรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 66 เรื่องสิทธิชุมชน และขัดแย้งกับมาตรา 30 ที่ว่าด้วยความเสมอภาคของประชาชนตามกฎหมายระหว่างประชาชนที่อยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ และชุมชนที่อยู่ข้างๆ หรือติดพื้นที่ป่าอนุรักษ์

ส่วนร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมปี 2535 ครอบคลุมทรัพยากรทุกประเภท โครงการขนาดใหญ่ที่มีผลกระทบกับชุมชน ยังไม่มีการรับรองสิทธิของชุมชนในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร การมีส่วนร่วมของประชาชนกับหน่วยงานของรัฐ ร่างพ.ร.บ.การจัดการทรัพยากรน้ำมี 2 ร่าง คือร่างจากกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และร่าง สนช. แต่ยังไม่มีบทบัญญัติชัดเจนตามสิทธิตาม รธน. 50 เช่นกัน มีแนวโน้มว่าร่างพ.ร.บ.น้ำนี้จะนำไปสู่การใช้ประโยชน์น้ำเพื่อการพาณิชย์ เพื่อการค้าขายมากขึ้น

นอกจากจะละเมิดสิทธิชุมชนแล้ว ยังมีแนวโน้มว่าร่างพ.ร.บ.ที่ผลักดันออกมาจะมีการเอื้อให้กลุ่มทุน ผู้ประกอบการรายใหญ่อีกด้วย เช่น ร่างพ.ร.บ.สภาเกษตรแห่งชาติ เป็นร่างพ.ร.บ.ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ มีสาระสำคัญเป็นการให้อำนาจผู้แทนหน่วยงานของรัฐร่วมกับผู้แทนองค์กรธุรกิจการเกษตรในการกำหนดนโยบายและแนวทางการพัฒนาการเกษตรเป็นสำคัญ โดยเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงและมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายพัฒนาการเกษตรดังกล่าว

ร่างพ.ร.บ.วัตถุอันตราย ก็เช่นเดียวกัน เอื้ออำนวยประโยชน์ให้เอกชน ผู้ประกอบการสามารถผลิต นำเข้า ส่งออกหรือมีไว้ในครอบครองวัตถุอันตราย เช่น ยกเลิกค่าธรรมเนียมรายปีแก่เอกชนผู้ประกอบการ

นี่เป็นเพียงส่วนของร่างพ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการทรัพยากร และสิทธิชุมชน โดยสาระหลักๆ จะเป็นการรวบอำนาจการจัดการทรัพยากรไปอยู่ที่ภาครัฐมากขึ้น และมีแนวโน้มลิดรอนสิทธิชุมชน ขัดกับรัฐธรรมนูญ 2550 ที่เขียนมาอย่างสวยหรู


กม.แปรรูปมหาวิทยาลัยสู่การค้า ละเมิดสิทธิการศึกษา

เป็นที่น่าสังเกตว่าในช่วงรัฐบาล คมช.พบว่ามีการผลักดันการร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ หลายมหาวิทยาลัย ได้แก่ร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยบูรพา ร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยทักษิณ และร่างพ.ร.บ.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ผ่านมามีกระแสคัดค้านทั้งจากนักศึกษา เครือข่ายองค์กรภาคประชาชนหลายองค์กร สาระสำคัญที่มีการคัดค้านคือการเร่งผลักดันร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยฯ ในสนช.จะเป็นการละเมิดสิทธิทางด้านการศึกษาของประชาชน

ทั้งนี้เพราะแนวคิดในร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยทั้งที่มีการแปรรูปออกนอกระบบไปแล้ว และที่กำลังจ่อคิวรอนั้นเป็นการนำมหาวิทยาลัยเข้าสู่ระบบตลาด มีผลทำให้ประชาชนโดยเฉพาะคนยากจนไม่มีโอกาสเข้าถึงการศึกษา นักวิชาการในมหาวิทยาลัยขาดอิสรภาพทางวิชาการ บุคลากรในมหาวิทยาลัยไม่มีหลักประกันด้านสวัสดิการ



จอน อึ๊งภากรณ์ ประธาน กป.อพช.กล่าวถึงผลกระทบของการแปรรูปมหาวิทยาลัย คือ 1.ค่าเล่าเรียนเพิ่มขึ้น 2.การเติบโตของมหาวิทยาลัย ไม่สมดุล ภาคเอกชนจะเข้ามามีส่วนในมหาวิทยาลัยอย่างมาก มหาวิทยาลัยจะกลายเป็นโรงงานผลิตคนให้บริษัทต่างๆ

ยิ่งไปกว่านั้นการบริหารงานในมหาวิทยาลัยจะไม่เป็นประชาธิปไตย กล่าวคือ สภาอาจารย์มาจากการแต่งตั้ง และสภาฯ นี้จะแต่งตั้งอธิการบดี จึงทำให้มหาวิทยาลัยมีลักษณะเป็นก๊วน เป็นก๊ก อาจารย์กลุ่มไหนที่ขัดแย้งกับคนกลุ่มนี้ก็จะถูกกลั่นแกล้ง จนขาดอิสระทางวิชาการ

ด้านสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)มีความเห็นว่าที่ต้องคัดค้านและยับยั้งการออก พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ เพราะกระบวนการยังไม่มีความโปร่งใส และเป็นกลาง เนื่องด้วยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการออกกฎหมายเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการออกกฎหมายเอง เช่น
นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พบว่ามีตำแหน่งเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยบูรพา

นายเกษม สุวรรณกุล กฤษฏีกา คณะที่ 8 เป็นนายกสภามหาวิทยาลัย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เป็นต้น ดังนั้น สนนท. จึงเห็นว่ารัฐบาล คมช.ไม่มีความชอบธรรมในการผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าว

ก่อนที่จะมีรัฐบาลใหม่มาจากการเลือกตั้ง คงมีกฎหมายใหม่ๆ ที่คลอดออกมาโดย สนช.อีกหลายฉบับ กฎหมายต่างๆ เหล่านี้จะกลายเป็นพันธนาการที่ผูกคอเราเอง กลายเป็นอุปสรรคกับภาคประชาชน เพราะสาระสำคัญล้วนแต่เพิ่มอำนาจรัฐ อำนาจกลุ่มทุนขนาดใหญ่ แต่ลดอำนาจประชาชน !
--------------------------------------------------------------------------------
โดย : ประชาไท วันที่ : 4/10/2550


http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5963954/P5963954.html

ใครมีเวลาอยากให้โหลดเก็บไว้
บันทึกจากเรื่องจริง เหตุการณ์ 14-15 ตุลา วันมหาวิปโยค 2516

แผ่นแรก
1. http://sv2.gushare.com/file.php?file=22bd47026643c7c1d39566fb078b2c7a
3. http://sv3.gushare.com/file.php?file=5b3ead10c0f9ddb64adab9e9b9a1f23f
3. http://sv2.gushare.com/file.php?file=5471513b661e0a1092478ec4139b5bff
4. http://sv2.gushare.com/file.php?file=f29a1d3280c850ab19ed0dc5b21baf8e
5. http://sv2.gushare.com/file.php?file=4059078c1c64655305435da53fefbaf1

จากคุณ : อณาฏิตา - [ 28 ต.ค. 50 23:42:02 A:124.157.148.126 X: ]


ความคิดเห็นที่ 2

....
แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 50 23:55:34



จากคุณ : อณาฏิตา - [ 28 ต.ค. 50 23:44:06 A:124.157.148.126 X: ]


ความคิดเห็นที่ 4

ความทรงจำมันถูกลบไปตั้งแต่ มีคนเอาดอกไม้ และคำขอบคุณ ไปมอบให้แก่รถถังที่เข้ามาเหยียบประชาธิปไตยแล้วครับ

สำหรับผมมองไปที่ชาธิปไตยข้างหน้าอย่างเดียว

จากคุณ : พญาเสือ - [ 29 ต.ค. 50 00:47:46 A:222.123.64.14 X: ]


ความคิดเห็นที่ 5

14 ตุลา วันเกิดผมพอดีเลย แต่คนละปี เฮงจริง



จากคุณ : dada23 - [ 29 ต.ค. 50 01:49:02 A:124.157.160.140 X: ]